กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ แถลงความคืบหน้า "นักสืบทุนเทา" เปิดตัว 1 เดือน ประชาชนร้องเรียนกว่า 500 เรื่อง เกือบครึ่งเป็นปัญหานอมินี "กทม. -ภูเก็ต" ร้องเยอะ 2 อันดับแรก
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.67 นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ แถลงความคืบหน้าโครงการ "นักสืบทุนเทา" แพลตฟอร์มรับเรื่องร้องเรียนปัญหาสินค้าต่างชาติและการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติผิดกฎหมาย ผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue ซึ่งทาง กมธ. ทำงานร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการไทย ที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากสินค้าและธุรกิจต่างชาติผิดกฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ช่วยชี้เป้า แจ้งเบาะแส นำไปสู่การแก้ไขปัญหา
นายสิทธิพล กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 1 เดือนนับแต่เปิดตัวโครงการ จนถึงวันนี้มีประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนแล้วกว่า 500 เรื่อง เรื่องร้องเรียนเหล่านี้หลัง กมธ. คัดกรองแล้ว จะถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยในเชิงสถิติพบว่าปัญหาทุนต่างชาติผิดกฎหมาย หรือนอมินี เป็นเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามากสุด กว่า 200 เรื่อง หรือคิดเป็น 45% รองลงมาคือสินค้าไม่มี อย. 110 เรื่อง คิดเป็น 26% และสินค้าไม่มี มอก. อีก 57 เรื่อง คิดเป็น 13% ในเชิงพื้นที่ จังหวัดที่ส่งเรื่องร้องเรียนเข้ามามากสุดคือ กรุงเทพมหานคร มีจำนวนกว่า 250 เรื่อง ส่วนมากเป็นปัญหาสินค้าไม่มี อย. และ มอก. รองลงมา คือ จ.ภูเก็ต มีเรื่องร้องเรียนเข้ามากว่า 100 เรื่อง เกือบทั้งหมดเป็นปัญหาเกี่ยวข้องกับนอมินีต่างชาติผิดกฎหมาย
นายสิทธิพล กล่าวต่อว่า ในการประชุม กมธ. วันนี้ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.), กรมทรัพย์สินทางปัญญา, กรมสรรพากร, ธนาคารแห่งประเทศไทย และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อมาให้ข้อมูล ชี้แจงความคืบหน้าถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนที่ได้รับไป ผลการประชุมมีความคืบหน้าของโครงการที่น่าสนใจคือ (1) หน่วยงานราชการทุกหน่วยได้รับเรื่องร้องเรียน และกำลังดำเนินการแก้ไข โดยมี 2 หน่วยงานที่ตอบรับเข้าร่วมระบบ (PLUG IN) Traffy Fondue คือ อย. และ สมอ. ซึ่งปัจจุบันเข้าร่วมระบบเรียบร้อย จะช่วยให้การแก้ไขเรื่องร้องเรียนของประชาชนมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กมธ.ขอขอบคุณทั้ง 2 หน่วยงานที่เข้าร่วมระบบ (2) การแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนในปัจจุบันส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นตอน “กำลังดำเนินการแก้ไข” โดยจากเรื่องร้องเรียนกว่า 500 เรื่อง ปัจจุบันเสร็จสิ้นไปแล้ว 17 เรื่อง ทาง กมธ. ได้ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน และแจ้งความคืบหน้าแก่ กมธ. ซึ่งทุกหน่วยงานรับจะไปเร่งดำเนินการ (3) บางหน่วยงานชี้แจงต่อ กมธ. ถึงสาเหตุที่ทำให้กระบวนการแก้ไขล่าช้า เนื่องจากข้อมูลที่ได้ยังไม่เพียงพอ ทาง กมธ. จึงขอให้ทุกหน่วยงานที่ยังไม่เข้าร่วมระบบ พิจารณาข้อดีของการเข้าร่วมระบบ เพราะจะช่วยให้หน่วยงานสามารถประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมจากประชาชนผู้ร้องเรียนได้ ช่วยให้การแก้ปัญหารวดเร็วและลดภาระเจ้าหน้าที่ (4) มีหลายประเด็นที่ทาง กมธ. ให้ความเห็นหรือซักถามเพิ่มเติม และหน่วยงานรับไปดำเนินการ เช่น ขอให้ อย. พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาร้านค้าจำหน่ายสินค้าที่ไม่มี อย. อย่างยั่งยืน เนื่องจากพบเรื่องร้องเรียนในระบบที่ปรากฏว่าเป็นร้านค้าที่ อย. เคยลงตรวจแล้ว แต่กลับมาขายสินค้าที่ไม่มี อย.ใหม่ หรือขอให้ สมอ. นำเสนอแนวทางการจัดการสินค้าที่ยังไม่มีมาตรฐานบังคับสำหรับสินค้าที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา ว่าจะจัดการอย่างไร ตลอดจนกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับนอมินีจำนวนมาก ทางกรมฯ แจ้งว่าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถดำเนินการต่อได้ จะดำเนินการอย่างไร
นายสิทธิพล กล่าวด้วยว่า ตนขอขอบคุณสมาคมอีคอมเมิร์ซไทย ที่เป็นพันธมิตรสำคัญของโครงการนักสืบทุนเทา ส่งบุคลากรและเครื่องมือมาช่วยดำเนินโครงการ นอกจากนี้ยังขอบคุณส่วนราชการทุกหน่วยงานที่เร่งแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยทาง กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ จะติดตามความคืบหน้า เพื่อชี้แจงให้ประชาชนทราบต่อไป