รอง ผบช.น.แถลงจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 รายร่วมกันฉ้อโกง ชักชวนลงทุนธุรกิจการแพทย์ 5 โครงการ เหยื่อ 247 ราย สูญ 7,564 ล้าน หนักสุด 600-700 ล้าน ด้าน "หมอบุญ" เผ่นไปจีนแล้ว อยู่ระหว่างการประสานตำรวจสากลติดตามตัวมาดำเนินคดี ด้านภรรยา ลูก เข้ามอบตัวปฏิเสธข้อกล่าวหา
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 67 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 ร่วมกันแถลงผลการออกหมายจับ นพ.บุญ วนาสิน หรือ "หมอบุญ" อายุ 86 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 และพวกรวม 9 ราย ดังนี้
1. นพ.บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น
2. น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว นพ.บุญ ซี่งเป็นผู้จัดการเรื่องการเงิน และการบัญชีสัญญากู้เงินทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5646/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
3. น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา อาทิ การจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เป็นผู้จ่ายเช็ค พร้อมทั้งติดต่อตัวแทนต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5647/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
4. นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นพ.บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค เป็นผู้ถือหุ้น THG ซึ่งนำมาค้ำประกันในสัญญากู้ต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5648/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
5. น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของ นพ.บุญ และนางจารุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ และ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5649/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
6. นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน และมอบหมายให้คนนำสัญญากู้ยืม ทำสัญญาค้ำประกัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5650/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
7. นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน ผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5651/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
8. นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน หนังสือส่งมอบเช็ค สัญญาซื้อและขายหุ้นคืนและหนังสือชำระหนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5652/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
9. นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน และเป็นผู้นำสัญญามามอบให้ผู้เสียหาย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากพฤติกรรมของ นพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้เพื่อกู้เงินผ่านเอเยนต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท และมีการตั้งข้อสังเกตว่า จะมีผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์รายนี้ ฉ้อโกงเงิน ผ่านการทำธุรกรรม ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างนับหมื่นล้าน กระทั่งมีกระแสว่า ขณะนี้ นพ.บุญ วนาสิน น่าจะหลบหนีคดีไปยังต่างประเทศ
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ผู้เสียหายจำนวนมากได้เข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแตเดือน ธ.ค.66 จนถึง พ.ย.67 รวม 520 คดี ผู้เสียหาย 247 ราย เบื้องต้นเป็นคดี พ.ร.บ.เช็ค โดยพบพฤติกรรมนพ.บุญ และพวกมีการระดมทุน ชักชวนจากตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่าตนเป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุนให้ นพ.บุญ และครอบครัว ชักชวนลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ ใช้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท 2.โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 สร้างที่พักอาคารสูง 52 ชั้นรองรับผู้สูงอายุ 400 ห้อง มูลค่า 4,000 -5,000ล้านบาท 3. สร้าง รพ. ในสปป.ลาว 3 แห่ง 4. เข้าร่วมลงทุนกับ รพ.ในเวียดนาม ใช้งบลงทุน 4,000 -5,000ล้านบาท และ 5.การสร้างเมดิคอลอินเทลลิเจนท์ บางละมุง ชลบุรี ทำหน้าที่ด้านไอที มูลค่า 100 ล้านบาท พฤติกรรมกาหาแหล่งเงินทุนของ นพ.บุญ และพวกมีการไปกู้ยืมเงินกับแหล่งเงินกู้ โดยภรรยา ละลูกสาว เป็นผู้ค้ำประกันเซ็นสลักหลังในเช็คทุกฉบับมอบให้ผู้เสียหาย ในช่วงแรกมีการจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง ให้กับบางส่วนบางคน ต่อมาไม่มีการจ่าย อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังพบว่า หลังจากได้เงินทุน 7,500 ล้าน พบว่าให้โบรกเกอร์ทยอยไปถอนเงินครั้งละเป็นร้อยล้าน โดยโบรกเกอร์จะได้ดอกเบี้ย และเปอร์เซ็นต์เป็นค่าตอบแทน ประมาณ 1 แสนบาท ต่อ 10 ล้านบาท โดยคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมา ร่วมลงทุนมากที่สุดมากถึง 600-700 ล้าน เป็นนักธุรกิจที่หลงเชื่อว่าจะมีการลงทุนจริง รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ รวม 247 คน ความเสียหาย 7,564 ล้านบาท ตั้งแต่เดือน ธ.ค.66 ถึงเดือน ต.ค.7 ขณะนี้ตำรวจจับได้แล้ว 6 ราย และได้มีการนำตัวส่งศาลอาญาฝากขังเรียบร้อยแล้ว ส่วน นพ.บุญได้ประสาน ตม. พบว่าเดินทางออกจากประเทศไทยตั้งแต่ 29 ก.ย.67 เวลา 14.25 น. เส้นทาง กทม.-ฮ่องกง ล่าสุดทราบว่า นพ.บุญ เดินทางต่อจากฮ่องกงไปจีนแล้ว อยู่ระหว่างการประสานตำรวจสากลติดตามตัวมาดำเนินคดี
ต่อมานางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นพ.บุญ และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของ นพ.บุญ พร้อมทนายความได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ที่กองบัญชาการการตำรวจนครบาล โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความของทั้งคู่เปิดเผยว่า เดินทางมามอบตัวตามหมายจับ และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกล่าวอ้างทำโครงการต่างๆ และไม่ได้มีการเซ็นสลักหลังเช็คตามที่มีการกล่าวหา พร้อมอ้างว่าถูกปลอมลายเซ็น