"ป้าติ๋ม" ต้องลุ้นจะได้รับมรดกร้อยล้านจากแหม่มฝรั่งเศสหรือไม่ ตำรวจจ่อเอาผิดนอมินีออกหน้าแทน
จากกรณีเมื่อวันที่ 29 เม.ย.67 เวลาประมาณ 08.40 น. แหม่มชาวฝรั่งเศสอายุ 59 ปี ได้ใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเองภายในบ้านพัก และได้ทำพินัยกรรมยกมรดกมูลค่านับหลายสิบล้านบาทให้กับนางณัฐวลัย ภูพองตา หรือ "ป้าติ๋ม" ชาว อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร แม่บ้านคนสนิทของผู้ตาย ที่รู้จักกับเธอมานาน 17 ปีตั้งแต่เริ่มธุรกิจจากห้องพักให้เช่า มาสร้างรีสอร์ท สร้างวิลล่า ธุรกิจเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 26 พ.ย.671 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และสภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ได้ดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับการทำธุรกิจของผู้ตาย ซึ่งกระทำผิดกฎหมายร่วมกับ 2 นอมินีคนไทยจัดตั้งบริษัท 2 บริษัทซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดี โดยมีการดำเนินคดีกับ 1.บริษัท 2 แห่งในฐานะนิติบุคคล 2. แหม่มผู้เสียชีวิต 3.นายทองใส อายุ 50 ปี และ 4.นางรัชประภา อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 และ ที่ 2 กระทำผิด ข้อหา ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ , เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง( การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9) , เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
ผู้ต้องหาที่ 3 ที่ 4 กระทำผิด ข้อหา ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ , ร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือให้คนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยผิดชอบด้วยกฎหมาย , เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9))โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้กระทำการดังกล่าว
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อประมาณ ปี 2550 ผู้ตาย ได้เข้ามาอยู่ที่ประเทศไทย โดยเช่าบ้านพักอยู่บนเกาะสมุย ต่อมาประมาณเดือน มี.ค.55 ผู้ตาย ให้ได้สำนักงานทนายความ ช่วยเหลือจดจัดตั้ง บริษัททำธุรกิจก่อสร้างบ้านขาย โดยใช้คนไทยเป็นนอมินี ถือหุ้นแทนในบริษัท และได้ไปซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 3961 ต่อมาวันที่ 5 มี.ค.57 ได้แบ่งแยกโฉนดที่ดิน นำไปก่อสร้างอาคาร จำนวน 5 หลัง จำหน่ายไป 3 หลัง เหลืออยู่ 2 หลัง ต่อมาวันที่ 29 เม.ย.67 เวลาประมาณ 08.40 น. ผู้ตาย ได้ยิงตัวตายในบ้านพัก และทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ป้าติ๋มแม่บ้าน
ในส่วนของนางณัฐวลัย ภูพองตา หรือ "ป้าติ๋ม" ชาว อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ที่ผู้ตายระบุว่าให้เป็นคนรับมรดกนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ส่วนจะได้รับมรดกหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนหากพบว่า พินัยกรรมที่ผู้ตายระบุนั้นเกิดจากการกระทำผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป