การมาถึงของ AI ที่ก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมาคือกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงที่บริษัท SEO (Search Engine Optimization) ทุกแห่งไม่สามารถมองข้ามได้ นั่นคือการเกิดขึ้นของ AI (Artificial Intelligence) และคำถามใหญ่คือ “ถ้าวันหนึ่ง AI จะมาแทนที่ Google ในฐานะแพลตฟอร์มค้นหาหลัก บริษัท SEO ควรทำอย่างไร?”
การเปลี่ยนแปลงของการค้นหาข้อมูลในยุค AI
การค้นหาด้วย AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูล โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการค้นหาแบบเดิมที่เราคุ้นเคย ตัวอย่างเช่น Chatbots, Virtual Assistants (เช่น Alexa, Siri) และเครื่องมือค้นหาที่ใช้ AI อาจสามารถตอบคำถามผู้ใช้งานได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านลิงก์เว็บไซต์ที่เราคุ้นเคยในหน้าแรกของ Google
จากการเปลี่ยนแปลงนี้ บริษัท SEO จำเป็นต้องเข้าใจว่า AI จะไม่ใช่แค่เครื่องมือช่วยในการทำ SEO เท่านั้น แต่มันอาจเข้ามาแทนที่ Google ในบทบาทของการเป็นตัวกลางในการค้นหา และ AI อาจเลือกที่จะให้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้แทนการค้นหาเว็บไซต์ใหม่
ดังนั้นกลยุทธ์ของบริษัท SEOในอนาคตจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยไม่เพียงแค่การปรับปรุงให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพในการแสดงผลในหน้าแรกของ Google แต่ยังต้องมุ่งเน้นที่การปรับตัวให้เข้ากับ AI ที่จะเป็นตัวกลางในการส่งข้อมูลอีกด้วย
กลยุทธ์ที่บริษัท SEO ควรปรับปรุงเมื่อ AI จะมาแทน Google
1. เน้นที่คุณภาพของข้อมูลมากกว่าการทำอันดับเว็บไซต์
AI ไม่ได้ค้นหาข้อมูลโดยการใช้คีย์เวิร์ดในรูปแบบเดิม แต่มันจะประมวลผลข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด ดังนั้นบริษัท SEO ควรเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง มีความน่าเชื่อถือ และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานมากกว่าการทำคีย์เวิร์ดหรือการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์เพื่อทำอันดับใน Google แบบเดิม
การผลิตเนื้อหาที่ AI สามารถนำไปใช้ในการประมวลผลได้เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรวมถึงการใช้ Structured Data, Schema Markup และข้อมูลที่เกี่ยวข้องในลักษณะที่ชัดเจนและตรงประเด็น
2. ปรับการทำงานกับเสียงและการค้นหาด้วยเสียง (Voice Search)
เมื่อ AI และ Voice Assistants เข้ามามีบทบาทมากขึ้น บริษัท SEO ต้องปรับตัวให้เข้ากับการค้นหาด้วยเสียง (Voice Search) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้คนค้นหาข้อมูลผ่านเสียงมากขึ้น และวิธีการค้นหาด้วยเสียงจะแตกต่างจากการพิมพ์คีย์เวิร์ดลงใน Google เช่น การถามคำถามเต็มประโยคแทนการใช้คีย์เวิร์ดสั้นๆ ดังนั้นการสร้างเนื้อหาที่สามารถตอบคำถามในลักษณะของการสนทนาได้จะเป็นสิ่งสำคัญ
3. พัฒนาเนื้อหาที่เข้ากับการค้นหาด้วย AI
AI จะค้นหาข้อมูลในลักษณะที่ซับซ้อนมากขึ้น มันสามารถวิเคราะห์ความหมายเชิงลึกของข้อความหรือเนื้อหาที่สร้างขึ้นได้ ดังนั้น การสร้างเนื้อหาที่สามารถให้คำตอบหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานจริงๆ (ไม่ใช่แค่การใส่คีย์เวิร์ดเพื่อทำอันดับ) จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
4. การวิเคราะห์และใช้ข้อมูลในเชิงลึก
AI ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลในปริมาณมากเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้งาน การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เช่น การใช้เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน (User Behavior Analytics) จะช่วยให้บริษัท SEO สามารถปรับกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และตอบสนองต่อแนวโน้มและความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
5. การปรับตัวให้เข้ากับแพลตฟอร์มและเครื่องมือใหม่
AI อาจไม่ใช่แค่เครื่องมือในการค้นหา แต่ยังสามารถเป็นช่องทางการสื่อสารหรือช่องทางการตลาดในตัวมันเอง เช่น Chatbots หรือ Virtual Assistants ที่สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง บริษัท SEO ควรสำรวจและเรียนรู้การใช้เครื่องมือ AI ที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างทันเวลา
ในยุคที่ AI อาจเข้ามาแทนที่ Google หรือมีบทบาทสำคัญในกระบวนการค้นหาข้อมูล บริษัท SEO จะต้องปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ปรับตัวเข้ากับการค้นหาด้วยเสียง พัฒนาการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และปรับตัวให้เข้ากับเครื่องมือใหม่ๆ ที่ AI นำมาใช้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัท SEO อยู่รอดและเติบโตได้ในอนาคต