"เท้ง" แถลงปมรับซื้อไฟฟ้า 3,600 เมกะวัตต์ ย้ำนายกฯ มีอำนาจเต็มยกเลิกโครงการได้แต่ไม่ใช้ มีทางเลือกที่ถูกกว่ากลับไม่ทำ
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.67 ที่อาคารอนาคตใหม่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวกรณีโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ ว่าประเด็นแรกที่ต้องเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี คือข้อเท็จจริงที่ว่านายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มในเรื่องนี้ แม้โครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกกะวัตต์ เริ่มมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 6 พ.ค.65 ซึ่งหากย้อนไปดูบันทึกการประชุม มีการระบุอย่างชัดเจนว่า กพช. กำหนดวิธีและราคาในการรับซื้อ ให้เป็นการคัดเลือกโดยไม่มีการเปิดประมูล และราคามีการล็อกไว้ล่วงหน้าถึง 8 ปี ขาดความโปร่งใส ขาดการแข่งขัน และอาจทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้นในอีก 25 ปีข้างหน้า โดยแม้แต่ รมว.พลังงานก็ได้ตอบกระทู้ที่ตนตั้ง ว่าไม่เห็นด้วยกับกระบวนการดังกล่าว จึงขอย้ำอีกครั้งว่าข้ออ้างที่ว่านายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจเข้าไปก้าวก่าย กพช. นั้นไม่เป็นความจริง นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มในเรื่องนี้แต่กลับไม่ใช้
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ยังมีความจำเป็นเร่งด่วน จากกรณีที่เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.67 มีการออกประกาศจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในการเดินหน้าโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ โดยมีเส้นตายเพียง 14 วันคือภายใน 30 ธ.ค.67 ที่ถ้าไม่มีการยกเลิกจะไม่สามารถยกเลิกกระบวนการดังกล่าวได้อีก สืบเนื่องจากระเบียบการรับซื้อมีการเขียนไว้ชัดเจนว่า กกพ. ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกโครงการก่อนการลงนามในสัญญา หมายความว่าสามารถยกเลิกได้ตราบใดที่ไม่มีการลงนามสัญญาร่วมกัน และสามารถยกเลิกได้ด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐที่กำหนดโดย กพช. หากนายกรัฐมนตรีอ้างว่าไม่สามารถกุมสภาพเสียงข้างมากใน กพช. ไม่สามารถผ่านมติได้ ถ้าอ้างแบบนี้รัฐบาลควรยุบสภา เพราะ กพช. ประกอบด้วยกรรมการ 19 คน โดย 14 ใน 19 คนรวมนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งมาโดยตรง ดังนั้น ถ้านายกรัฐมนตรีมีความชัดเจนว่าประสงค์จะยกเลิกกระบวนการรับซื้อก็ย่อมทำได้ แต่ถ้าทำไม่ได้โดยอ้างว่ากุมสภาพเสียงข้างมากไม่ได้ ก็แปลว่าท่านบริหารคณะรัฐมนตรีไม่ได้ สมควรยุบสภาและบอกประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่านายกรัฐมนตรีทำอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่คณะรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งมาเองไม่เห็นชอบ
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นต่อมาคือนายกรัฐมนตรีมีทางเลือกที่ราคาถูกกว่า แต่ไม่ทำ พรรคประชาชนยืนยันว่าเราเห็นด้วยกับและพร้อมให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่การใช้พลังงานสะอาด แต่มีกระบวนการที่ดีและถูกกว่าที่จะไม่ส่งผลต่อประชาชนทั้งประเทศ การรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์มีการผูกสัญญาสัมปทานนานถึง 25 ปี ใช้วิธีการคัดเลือก ขาดการแข่งขันและความโปร่งใส และจากการคำนวณอาจส่งผลกระทบให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟแพงเกินจริงถึง 1 แสนล้านบาทตลอด 25 ปีข้างหน้า