จาการ์ตา, 25 ธ.ค. (ซินหัว) — ตรี วีนาร์โน หัวหน้าฝ่ายแร่ธาตุและถ่านหิน สังกัดกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ธาตุของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่าอินโดนีเซียกำลังพิจารณาจำกัดการผลิตแร่นิกเกิล เพื่อแก้ไขปัญหาอุปทานส่วนเกินที่ส่งผลให้ราคาแร่นิกเกิลลดลงทั่วโลก
วีนาร์โนกล่าวว่าความขัดแย้งระดับโลกที่ทวีความรุนแรง ห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงัก เศรษฐกิจตกต่ำ และความผันผวนสูงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งผลให้ความต้องการและราคาแร่นิกเกิลลดลงยิ่งขึ้นด้วย
ข้อมูลจากเทรดดิงอีโคโนมิกส์ (TradingEconomics) ระบุว่าราคานิกเกิลลดลงจากราคาสูงสุด 48,199 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.65 ล้านบาท) ต่อเมตริกตันเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2022 อยู่ที่ 15,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.3 แสนบาท) ต่อเมตริกตันเมื่อวันอังคาร (24 ธ.ค.)
ด้าน ยูเลียต ตันจุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ เน้นย้ำผลกระทบของอุปสงค์และอุปทานต่อราคาแร่นิกเกิล โดยอุปทานส่วนเกินเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาตกลง
รายงานจากซามูเอล เซกูริตัส อินโดนีเซีย (Samuel Sekuritas Indonesia) ชี้ว่าอุปสงค์ที่อ่อนตัวและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นกลุ่มปัจจัยที่กดราคานิกเกิลลงอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2024
ขณะธนาคารโลกระบุว่าราคานิกเกิลที่ลดลงในไตรมาสสาม (กรกฎาคม-กันยายน) ของปี 2024 เป็นผลจากการผลิตเพิ่มขึ้นขณะความต้องการลดลง
ทั้งนี้ นิกเกิลถือเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ของอินโดนีเซีย คาดว่าอินโดนีเซียมีปริมาณสำรองแร่นิกเกิลราว 72 ล้านตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 52 ของปริมาณสำรองทั้งหมดทั่วโลก โดยรัฐบาลอินโดนีเซียพัฒนาภาคธุรกิจปลายน้ำ ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญและการจ้างงานหลายพันอัตรา