"กาญจน์" แนะรัฐจัดทำ Baby Box ของที่เด็กต้องมี

2024-12-26 20:20:44

"กาญจน์" แนะรัฐจัดทำ Baby Box ของที่เด็กต้องมี

Advertisement

"กาญจน์" ระบุเด็ก 0-2 ปี ไร้สวัสดิการ แนะรัฐจัดทำ Baby Box เป็นของที่เด็กต้องมี เพื่อลดภาระพ่อแม่ สร้างพัฒนาการ

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 67 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายกาญจน์ ตั้งปอง  ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการสวัสดิการสังคม ได้หยิบเอารายละเอียดของ 1 ใน 9 ข้อเสนอ ที่บรรจุไว้ในรายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการผลักดันนโยบายเด็กปฐมวัยอย่างเป็นระบบ ที่ กมธ. ได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยกล่าวว่า ปัจจุบันจากข้อมูลสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พบว่าในครึ่งปีแรกของปี 2567 มีเด็กเกิดใหม่ จำนวน 221,933 คน ซึ่งน้อยกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 อยู่ 27,770 คน มีอัตราการเกิดน้อยที่สุดติดอันดับ 3 ของทวีปเอเชีย และติดอันดับ 1 ของอาเซียน จากข้อมูลดังกล่าวเห็นได้ว่า ในเมื่อประชากรไทยเกิดน้อยลง เหตุใดจึงไม่เร่งหาแนวทางเพื่อให้เด็กทุกคนซึ่งเกิดน้อยอยู่ในขณะนี้มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพเต็มร้อยแบบถ้วนหน้า

"นี่คือสารตั้งต้น นี่คือหนึ่งเหตุผลที่ผมและเพื่อนสมาชิกได้จัดทำรายงานฉบับนี้ขึ้น นโยบายส่งเสริมสวัสดิการของเด็กที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้จัดสรรงบประมาณมาให้กับเด็กทุกคน แต่ยังมีความไม่ครอบคลุม และยังมีช่วงวัยที่ยังตกหล่น หายไปคือ เด็กช่วงวัย 0 – 2 ปี เพราะสวัสดิการของเด็กในขณะนี้เริ่มต้นที่ 2 ขวบขึ้นไป ขณะที่สวัสดิการของเด็กแรกเกิดจนถึง 2 ปีนั้นไม่มี ดังนั้นจึงเป็นโจทย์สำคัญที่ทำให้มาคิดต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้สวัสดิการของช่วงวัยนี้ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ" นายกาญจน์ กล่าว

นายกาญจน์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากเด็กในช่วงวัย 0 – 2 ปี ถือเป็นช่วงวัยที่สำคัญ หากได้รับการดูแลอย่างดี ได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้อง ก็จะเป็นรากฐานให้เด็กสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และเมื่อเด็กมีคุณภาพ คนในชาติก็จะเจริญก้าวหน้าไปได้ ทั้งยังเป็นการลงทุนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อให้เด็กเหล่านี้ได้เติบโตไปเป็นกำลังหลักของประเทศชาติต่อไป หากรัฐบาลใส่ใจและนำข้อเสนอของ กมธ. ไปแล้วต่อยอด ก็จะทำให้คุณภาพชีวิตของเด็กที่เกิดมา ซึ่งมีจำนวนน้อยอยู่ ก็จะมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพขึ้นได้ ดังนั้น ตนจึงมีแนวคิดที่จะจัดทำ “กล่องของขวัญสำหรับเด็กแรกเกิด” หรือ  Baby Box  ขึ้น เพื่อ 2 ปัจจัยหลัก คือ

1. เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวของเด็ก เป็นที่ทราบดีว่าสินค้าที่เกี่ยวกับเด็กโดยเฉพาะเด็กอ่อนมีราคาสูงขึ้น ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูง ผู้ปกครองที่มีเด็กเกิดใหม่ต้องรับภาระมาก ทั้งที่ความจริงแล้วรัฐบาลน่าจะสนับสนุนดูแลได้

2. เพื่อคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างพัฒนาการ เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งด้าน IQ และ EQ ก่อนเข้าเนอร์สเซอรี่ ปฐมวัยได้ต่อไป

นายกาญจน์ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ “กล่องของขวัญสำหรับเด็กแรกเกิด” หรือ Baby Box) ว่า ภายในกล่องดังกล่าวควรจะมีของที่พ่อแม่ ผู้ปกครอง จะต้องจัดหาให้บุตรหลานแต่ด้วยกำลังฐานะของครอบครัว และเหตุผลอื่นๆ อาจทำให้ของใช้ที่จำเป็นขาดหายไป ซึ่งกล่องดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ช่วงวัย คือ

- ช่วงวัยที่ 0 – 1 ขวบ ควรได้รับ “กล่องเครื่องมือยังชีพเด็ก” ซึ่งประกอบด้วย ที่นอน หมอน ผ้าห่ม หมอนข้าง มุ้ง นิทานก่อนนอน เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้อ่านให้เด็กก่อนนอน

- ช่วงวัยที่ 1 – 2 ขวบ นั้นควรมี “ของเสริมทักษะ” ที่จะช่วยเพิ่มพัฒนาการ เตรียมความพร้อมก่อนวัยเรียน อาทิ ของเล่นไม้ หนังสือเสริมทักษะการอ่าน การฟัง ดินน้ำมัน เป็นต้น

"เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็นชนชั้นแรงงาน หาเช้ากินค่ำ พวกเขาอาจจะหาของเหล่านี้ได้ไม่ครบ หรือบกพร่องไปในบางรายการ ถ้าวันนี้รัฐบาลใส่ใจและนำข้อเสนอของ กมธ. ไปแล้วต่อยอด ผมว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตของเด็กที่เกิดมา ซึ่งมีจำนวนน้อยอยู่ ก็จะมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพขึ้นได้" นายกาญจน์ กล่าว