ศาลสั่งติดกำไล EM เมาแล้วขับ ขับเสพ 4 วัน 23 ราย

2024-12-31 09:00:58

ศาลสั่งติดกำไล EM  เมาแล้วขับ ขับเสพ 4 วัน  23 ราย

Advertisement

อธิบดีกรมคุมประพฤติเผยศาลสั่งติดกำไล EM  เมาแล้วขับ ขับเสพ 4 วันจำนวน  23 ราย  

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.67 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยข้อมูลคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยวันที่ 30 ธ.ค.67 ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของ 10 วันอันตราย ช่วงควบคุมเข้มข้น (ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.67 - 5 ม.ค.68) มีคดีเข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ 2,032 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 1,997 คดี และคดีขับเสพ จำนวน 35 คดี โดยยอดสะสมรวม 4 วัน (27-30 ธ.ค.67  ) มีคดีเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ จำนวน 3,795 คดี แบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุรา 3,661 คดี (96.47%) ขับเสพ 130 คดี (3.43%) ขับรถประมาท 4 คดี (0.10%)ทั้งนี้ จ.เชียงใหม่มีคดีขับรถขณะเมาสุรามากที่สุด 306 คดี อันดับสอง กทม. 294 คดี และ จ.สมุทรปราการ 258 คดี โดยสามารถวัดปริมาณแอลกอฮอล์สูงสุดได้ถึง 302 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

พ.ต.ต.สุริยา  กล่าวต่อว่า ศาล 3 แห่ง มีคำสั่งคุมความประพฤติและติดอุปกรณ์ EM กับผู้กระทำผิดในคดีเมาแล้วขับและขับเสพ จำนวน 19 ราย โดยเป็นคดีเมาแล้วขับ จำนวน 18 ราย ระยะเวลาการติดอุปกรณ์ 4 เดือน และ 3 เดือน และอีก 1 ราย ในคดีขับเสพ  ซึ่งยอดสะสมรวม 4 วัน (27-30 ธ.ค.67) มีการสั่งติดอุปกรณ์ EM กับผู้กระทำผิดในคดีเมาแล้วขับและขับเสพแล้ว จำนวนรวม 23 ราย

นอกจากนี้ กรมคุมประพฤติได้จัดกิจกรรมในช่วงควบคุมเข้มข้น โดยสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้บริการประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนผ่านการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ การอบรมให้ความรู้ เรื่อง “กฎหมายจราจร” การปรับภูมิทัศน์เพื่อลดจุดเสี่ยง โดยมีผู้ถูกคุมความประพฤติ เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครคุมประพฤติ และภาคีเครือข่ายให้สนับสนุน นอกจากนี้ยังตรวจประวัติหากพบกระทำผิดซ้ำบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น และร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่นำผู้ถูกคุมความประพฤติเฝ้าระวังโดยร่วมติดตามการจราจรผ่านกล้อง CCTV เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการขับขี่อย่างปลอดภัยไม่สร้างอันตรายกับผู้อื่นตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี