"อนุทิน"สับสวิตช์ไฟ 5 จุดชายแดนไทย-เมียนมาตามคำสั่ง สมช.

2025-02-05 12:26:38

"อนุทิน"สับสวิตช์ไฟ 5 จุดชายแดนไทย-เมียนมาตามคำสั่ง สมช.

Advertisement

"อนุทิน"เผยสับสวิตช์ไฟ 5 จุดชายแดนไทย-เมียนมาตามคำสั่ง สมช.เหตุกระทบความมั่นคง ไม่หวั่นโดนคู่สัญญาฟ้อง เสียรายได้ 600 ล้านต่อปี  

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ก.พ. 68 ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ทำการ งดจ่ายกระแสไฟฟ้า 5 จุดในสหภาพเมียนมา หลังสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค งดจำหน่ายไฟฟ้าในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ ศูนย์ปฏิบัติการระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสำนักงานใหญ่ หลังมีข้อมูลว่ามีการนำไฟฟ้าไทยไปให้กับขบวนการคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานในการกดปุ่มตัดไฟ

โดยในเวลา 09.00 น. ทาง กฟภ. ได้เริ่มตัดไฟจากจุด 1 คือ จุดซื้อขายบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู รัฐมอญ 2. จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน 3.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน 4. จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2-เมืองเมียวดี และและจากนั้นในเวลา 09:35 น. นายอนุทินได้กดหยุดจ่ายกระแสไฟ ในจุดที่ 5 จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง-เมืองเมียวดี

นายอนุทิน กล่าวว่าวันนี้ทาง กฟภ.ได้หยุดการกระจายกระแสไฟฟ้าไปยังสหภาพเมียนมา ที่รับซื้อไฟฟ้าทั้งหมด 5 จุด และการดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามมติของที่ประชุมสภาพความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ได้มีการประชุมไปเมื่อวานนี้(4 ก.พ.) โดยนายภูมิธรรม เวชยาชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ลงนามและมีหนังสือสั่งการมากฟภ.ให้ดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้าภายในเวลา 9.00 น.วันนี้ ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เราเป็นผู้ปฏิบัติเมื่อมีข้อสั่งการที่ถูกต้อง และเป็นข้อสั่งการที่ชอบด้วยกฎหมายทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็สามารถที่จะดำเนินการได้ทันที ขอให้ทำความเข้าใจกันเพราะก่อนหน้านี้มีคำถามว่าทำไมกระทรวงมหาดไทยไม่ดำเนินการตัดสินใจในการตัดกระแสไฟฟ้าเอง แต่เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็แล้วแต่สิ่งที่ได้พิสูจน์คือเมื่อที่ประชุมสมช.มีมติรวมถึงมีหนังสือสั่งการออกมา ทางกระทรวงมหาดไทยก็ดำเนินการทันที และการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังสหภาพเมียนมาก็ถือว่าเป็นอันยุติลง

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ที่มีการอ้างว่าต้องมติครม. ในการตัดไฟฟ้า แต่ทำไมตอนนี้ใช้เพียงมติ สมช. ก็สามารถตัดไฟได้ นานอนุทิน กล่าวว่า การจ่ายไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นมติของครม.ให้ดำเนินการได้ ซึ่งการนำเสนอไปให้ครม.รับชาติเป็นสิ่งที่ถูกต้อง การประชุม สมช. เมื่อวานนี้ ต้องนำเรียนให้นานกรัฐมนตรีรับทราบ จะนำเข้าครม.เพื่อทราบหรือไม่ ก็เป็นการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เคยมีมติครม. ให้สามารถตัดไฟไปก่อนหน้านี้แล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า นายเศรษฐาไม่ได้สั่งให้ระงับ แต่สั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปติดตามประสานงานและสืบสวนสอบสวน ว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย จากการนำไฟฟ้า ที่เราขายไปยังเมียนมาหรือเปล่า ถ้ามีขอให้ทำการตัด ซึ่งในส่วนของกฟภ. เมื่อได้มติครมนั้น ก็ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า เมื่อมีการตัดกระแสไฟฟ้าไปแล้วและในอนาคตจะสามารถมีการซื้อขายกันได้อีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปได้หมดเมื่อรัฐบาลสั่งให้หยุดเพราะเอากระแสไฟฟ้าของไทยไปทำความเดือดร้อนให้กับประเทศ ก็คงจะต้องมีการเจรจาใหม่อีกครั้ง

ต่อข้อถามว่ารัฐบาลเมียนมาได้ทำการร้องขอหรือไม่เพราะมีชุมชนได้รับผลกระทบ นายอนุทินกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ที่ประสานงานและหารือกับเมียนมา

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะถูกฟ้องร้องจากคู่สัญญาและจะส่งผลกระต่อความมั่นคงแล้วจะรับมืออย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้เราทำตามข้อกำหนดในสัญญาข้อ 14 ที่ระบุไว้ว่าหากจ่ายไฟไปแล้วและกระทบต่อความมั่นคงประเมศและพลังงานของชาติ ก็สามารถงดจ่ายไฟได้ทันที ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญา โดย กฟภ. ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจ แต่นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้สั่งการ เราไม่ได้โยนกันไปโยนกันมา แต่มันมีขั้นตอน กฟภ.มีหน้าที่จ่ายไฟ แต่ไม่ได้ประเมินว่า ในจุดนี้มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือมีผลต่อความมั่นคงทางพลังงานหรือไม่ ซึ่งเราอาจจะประเมินเองได้และนำไปหารือต่อไป

เมื่อถามว่าที่ตัดไฟไปวันนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้มีการตัดไฟรวม 20.37 เมกะวัตต์ ใช้ได้ต่อเดือน 50 ล้านบาท ต่อปี 600 ล้านบาทต่อปี เมื่อถามว่าจะรับมือกับมิติทางการเมืองอย่างไร หลังฝ่ายค้าน ออกมาระบุว่าคนที่ทำให้เรื่องนี้ล่าช้าคือกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เรื่องนี้เกี่ยวกับความมั่นคงและเรื่องของรับข้อสั่งการ จากรัฐบาล และฝ่ายนโยบาย ไม่มีเรื่องการเมือง ไม่มีในเรื่องการทำเพื่อประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และยืนยันตั้งแต่วันแรกที่เป็นประเด็นแล้ว ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีข้อสั่งการมา กฟภ. ก็ทำตามข้อสั่งการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเราก็พิสูจน์เองแล้วว่าเมื่อมีข้อสั่งการมาเมื่อคืนนี้เราก็ทำทันที

ต่อข้อถามว่า การตัดไฟในครั้งนี้เสียยอดขายไฟฟ้าไปเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่ายอดขายไฟฟ้าปัจจุบันต่อปีอยู่ที่ 6 แสนล้านบาท แต่จุดที่ตัดไป 600 ล้านบาท ไม่ถึง 1% ของรายได้ ในส่วนนี้เรามองว่าเราต้องรักษาประโยชน์ของพี่น้องประชาชนคนไทย แต่มีการนำไฟไปใช้แล้วที่แปรสภาพมาอีกรูปแบบหนึ่งและส่งผลเดือดร้อนให้กับประชาชน เราก็ไม่ได้คำนึงถึงดำเนินการเพราะกังวลเรื่องยอดขาย แต่ที่จริงแล้วเรารอข้อสั่งการอยู่ เมื่อมีข้อสั่งการมาเราก็ทำโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงยอดขายซึ่งยอดขายไม่มีความหมาย ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน