"โรม" ขยี้ต่อปมไทยเทาร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้องขยายผลปราบปรามให้สิ้นซาก
เมื่อวันที่ 8 ก.พ.68 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ มันมีความพิเศษ แตกต่าง จากรอบที่แล้วซึ่งเป็นเวทีอภิปรายตามมาตรา152 แบบไม่ลงมติ รอบนี้ ถึงเวลาต้องปล่อยของ เท่าที่ตนทราบข้อมูลเพื่อสส. ก็เด็ดจริงๆ มีครบทุกรูปแบบ ทั้ง การบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด มีการทุจริตคอร์รัปชันส่วนตัวคิดว่า เวลาอภิปราย 5 วัน จะพอหรือเปล่า เพื่อน ส.ส.เข้าชื่อกันเยอะไม่ใช่แค่พรรคประชาชน พรรคฝ่ายค้านอื่นๆ ก็คงมีข้อมูลทีเด็ด ข้อมูลลับเตรียมมาแฉเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงว่าฝ่ายค้านจะพูดน้ำท่วมทุ่ง ประชาชนดูอยู่ เขาจะตัดสินเอง อย่าไปกลัวการตรวจสอบ อย่ากลัวว่า การอภิปรายนของฝ่ายค้านมันจะเป็นข้อมูลไม่เด็ด อันนี้รัฐบาลจะเห็นเอง อย่ามาต่อรองเวลาเลย ปล่อยให้เราทำหน้าที่เต็มที่ดีกว่า
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องจะแฉต่อในศึกซักฟอก เป็นเรื่องอะไรนั้น ตนยังพูดได้ไม่เยอะ เก็บข้อมูลเป็นความลับ แต่ยืนยันข้อมูลซักฟอกเกิดจากรัฐบาล บริหารงาน ล้มเหลว ไม่มีประสิทธิภาพ เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนก็เคยพูด ยุคที่นายเศรษฐา ทวีสิน ยังเป็นนายกฯ พูดก่อนที่จะมีมติครม.ออกมาในลักษณะที่สั่งการให้ปราบปราม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยซ้ำ จะเหสุดท้ายถ้าตนไม่ตามต่อ ถ้าไม่ดำเนินการต่อ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วรัฐบาล จะมีการขยับในเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน แล้วเราก็เห็นใช่ไหม แค่เรื่องไฟฟ้าก็โยนกันเป็นลูกวอลเลย์บอลเลย กว่าจะดำเนินการแต่ละขั้นตอนมันยากเย็นแสนเข็ญ สะท้อนถึงความไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลในการเผชิญกับบรรดา ทุนสีเทา แต่ต้องดูต่อไปว่า การขยับของรัฐบาลเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มันต้องไม่หมดแค่เพียงเท่านี้ ถ้ารัฐบาลจะเอาแค่นี้ มันจะกลายเป็นว่า เหมือนกับเป็นการเลี้ยงไข้ เพราะปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มันมีเรื่องทุนไทยเทาด้วย มันไม่มีการจัดการปราบปรามอะไรเลย คำถามคือมันหมายความว่าอย่างไร คือสุดท้ายปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ทุนไทยเทาซึ่งเป็นไวรัสร้ายของประเทศไทยยังคงอยู่ ต้องใช้จังหวะนี้ในการขยายผลปราบปรามให้สิ้นซาก ผมอยากให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกปราบโดยเร็วที่สุดเพราะสร้างความเสียหายแก่ประชาชน ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องทางการเมืองใด ๆ อยากเห็นรัฐบาลมีประสิทธิภาพ และก็ไปขยายผลปราบปรามเอาเอง ไม่ใช่ต้องมารอว่า ให้ฝ่ายค้านเอาข้อมูลไปให้ ต้องรอให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่ พวกท่านทั้งหลายเป็นรัฐบาลมีอำนาจมากกว่าผม ควรขยายผลด้วยตัวเอง ถ้าทำไม่ได้ ก็ควรให้คนอื่นที่มีความสามารถมาทำหน้าที่ตรงนี้
เมื่อถามว่า แสดงว่าภาพรวมไม่ใช่แค่จีนเทา แต่มีไทยเทาด้วย ที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการขยายผลต่อ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องจีนเทาต้องยอมรับว่ามันก็อาจจะเป็นนักธุรกิจ อาจเป็นมาเฟีย อาจเป็นอาชญากร แต่ความน่ากลัวของไทยเทา มันอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจทางกฎหมาย ใช้อำนาจในลักษณะที่ ไม่ถูกต้อง ถ้าเป็นนักธุรกิจ ก็อาจจะมีคอนเนคชั่น กับผู้บริหารระดับสูงของประเทศ ดังนั้น คิดว่าเหล่านี้ควรจะมีการจัดการให้สิ้นซากเช่นกัน
ต่อข้อถามว่า ขบวนการไทยเทาที่กำลังจะชี้ให้เห็นสถานีต่อไป มันเกี่ยวข้องกับสักกี่กระทรวง ที่จะโดน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จริงๆมันก็คงจะเกี่ยวเยอะ เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานเยอะไปหมด มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะเห็นหน่วยงานต่างๆ สามัคคีกันปกป้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มานมนานขนาดนี้ ดังนั้น คงจะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานมากๆ ส่วนตัวตนเองคิดว่า ทั้งตำรวจ ก็ควรจะจัดการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ก็ควรจะจัดการทำหน้าที่ของตัวเองให้มันดี
เมื่อถามย้ำว่า เกิน3 กระทรวงหรือไม่ที่เกี่ยวข้องที่ต้องรับผิดชอบ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการปราบปรามมีหลายหน่วยงาน กระทรวงมหาดไทย ก็มีหน้าที่ กระทรวงต่างประเทศก็มีหน้าที่ กระทรวงกลาโหมก็มีหน้าที่ หรืออย่างตำรวจ ก็มีหน้าที่ ดังนั้น มันหลากหลายกระทรวงที่เข้าไปเกี่ยวข้อง แม้กระทั่งกระทรวงพลังงานก็ยังเกี่ยวเลย ดังนั้น ถ้าเกิดไม่ปราบไทยเทา ตนคิดว่า เราจะไม่เห็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ แน่ๆ