"อนุทิน"ชี้ปรับ ครม.ต้องถามนายกฯ ชมมุมมองดี ให้โอกาส รมต.ทำงาน ปัดวิจารณ์ "ธรรมนัส"คัมแบ็ก รมต.
เมื่อวันที่ 9 ก.พ.68 ที่บ้านราชวิถี 20 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังเข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา ว่า ตนมาอวยพรวันเกิดผู้ให้กำเนิดทางการเมือง เป็นผู้ให้โอกาสที่ให้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรก ในรัฐบาลรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ในปี 2547 ทุกปี ในวันที่ 9 ก.พ.จะมาอวยพรวันเกิด โดยเฉพาะปีนี้เริ่มด้วย “เลข7” ต้องรีบมาอวยพร
ผู้สื่อข่าวถามถึง กระแสข่าวการปรับคณะมนตรี(ครม.)นายอนุทิน กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ายังไม่มีเรื่องการปรับ ครม.เรื่องนี้ต้องถามนายกรัฐมนตนีคนเดียว ถามคนอื่นไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์และอำนาจของนายกฯเพียงคนเดียว เมื่อถามว่า หากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคกล้าธรรม ต้องการขอปรับ โดยให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กลับมาเป็นรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล แต่การตัดสินใจและพิจารณาเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี หากจะมีการปรับส่วนใหญ่จะแจ้งพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าจะมีปรับให้ส่งชื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา
ต่อข้อถามว่า หากเป็นชื่อร.อ.ธรรมนัส เกรงว่าจะมีปัญหาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ผมเอาตัวผมให้รอดก่อน พรรคภูมิไทยไทย ยืนยันที่จะสนับสนุนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีให้ทำภารกิจประสบความสำเร็จ ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการปรับพรรคภูมิใจไทยจะขยับด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เอาไว้ให้ได้รับแจ้งมาก่อน ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งอะไรมา
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่นายกฯกล่าวว่า อยากให้รัฐมนตรีได้ทำงานต่อเนื่อง หรือมองว่าการเมืองต้องปรับทุก 6 เดือน นายอนุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีพูดชัดเจน โดยบอกว่าเพิ่งทำงานมา 5 เดือนกว่า และอยากให้ทำงานต่อเนื่อง และไม่อยากให้พูดเรื่องปรับ ครม.บ่อย เพราะผู้ที่ถูกกล่าวถึงและคนที่ถูกวิเคราะห์หรือประเมินโดยสื่อหรือใคร อาจไม่สบายใจ และทำงานลำบากเมื่อข่าวออกมาเยอะ การสั่งการราชการต่างๆก็จะทำให้ไม่กล้าทำงานเต็มที่ ตนคิดว่านายกรัฐมนตรีมีมุมมองที่ดีมากและแสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์ของท่าน เมื่อถามอีกว่า ส่วนตัวได้คุยกับนายกรัฐมนตรีนอกรอบหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้คุยและอยู่เมืองจีน นายกรัฐมนตรีมีภารกิจเยอะ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายทักษิณระบุว่ายังมีรัฐมนตรีบางคนที่ยังมัวแต่รำวงอยู่ นายอนุทิน กล่าวเลี่ยงว่า พอดีอยู่เมืองจีนยังไม่ได้ยิน