"นภินทร" เผยปราบนอมินีทำธุรกิจผิดกฎหมาย 820 ราย

2025-02-10 19:27:15

"นภินทร" เผยปราบนอมินีทำธุรกิจผิดกฎหมาย 820 ราย

Advertisement

"นภินทร" เผยปราบนอมินีทำธุรกิจผิดกฎหมาย 820 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 12,495 ล้าน 

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.68 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานภายใต้คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) ครั้งที่ 3 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ กระทรวงพาณิชย์ ด้วยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าวอย่างจริงจัง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงาน อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมการจัดหางาน กรมการท่องเที่ยว กรมที่ดิน และกรมสรรพากร จับกุมและดำเนินคดีกับนอมินีที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย รวมทั้งสิ้น 820 ราย มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 12,495 ล้านบาท (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.67 - 31 ม.ค.68) แบ่งเป็น 4 ประเภทธุรกิจ 1) ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง จำนวน 104 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 596 ล้านบาท 2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเกี่ยวเนื่อง จำนวน 228 ราย มูลค่าความเสียหาย 8,890 ล้านบาท 3) ธุรกิจขนส่งทางบก จำนวน 11 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 32 ล้านบาท และ 4) ธุรกิจอื่นๆ จำนวน 477 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2,976 ล้านบาท

นายนภินทร กล่าวต่อว่า นอกจากการปราบปรามการกระทำความผิดแล้ว เรายังมีการพัฒนาระบบติดตามตรวจสอบธุรกิจที่มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของธุรกิจ ได้แก่ ระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล Intelligence Business Analytic System (IBAS) ซึ่งขณะนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เร่งพัฒนา และจะแล้วเสร็จใช้งานได้ในไม่ช้า พร้อมกันนี้ สำนักงาน ปปง. จะเร่งปรับปรุงกฎหมายกำหนดให้ความผิดนอมินีเป็นมูลฐานความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อีกด้วย ในส่วนของการติดตาม นอกจากระบบแล้ว ที่ประชุมได้มีการเตรียมจัดตั้ง  คณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจนอมินีและสินค้าที่ไม่มีคุณภาพร่วมกัน และเตรียมตั้งคณะทำงานชุดเฉพาะกิจเพื่อร่วมกันสืบสวน สอบสวน จับกุม และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในพื้นที่ทั่วประเทศร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนช่วยกันตรวจสอบที่อยู่ของท่าน โดยปัจจุบันท่านสามารถนำที่อยู่ของตนเองไปตรวจสอบการสวมรอยแอบอ้างไปจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่อไปกระทำความผิด โดยตรวจสอบได้ทาง Website กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หากพบความผิดปกติ ขอให้ท่านแจ้งไปยังสายด่วน 1570 ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะได้เร่งดำเนินการต่อไปเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้