"ซาบีดา" ต้อนรับทูตปากีสถานจับมือแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ

2025-02-12 06:00:38

 "ซาบีดา" ต้อนรับทูตปากีสถานจับมือแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ

Advertisement

 "ซาบีดา" ต้อนรับเอกอัคราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย พร้อมร่วมหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.68 ที่ห้องดำรงราชานุภาพ ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ให้การต้อนรับ นางรุคซานา อัฟซอล (Ms. Rukhsana Afzaal) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย พร้อมด้วย Ms. Faiza Haseeb ที่ปรึกษาด้านการเมือง Counsellor (political) เข้าเยี่ยมคารวะและหารือเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ พร้อมร่วมหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการฟื้นฟูกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย – ปากีสถาน และแนวทางการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้ประชาชนทั้งสองประเทศ

น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับ และขอขอบคุณในการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างประเทศปากีสถานกับประเทศไทย รวมถึงการสนับสนุนงานของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ด้วยดีเสมอมา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีภารกิจหลักในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย ตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในการทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

น.ส. ซาบีดา กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทย และปากีสถาน มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาเป็นเวลานานกว่า 73 ปี และได้สร้างความร่วมมือที่ดีด้วยกันในหลายด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การส่งออก ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากร รวมไปถึงในวันนี้ที่เราจะได้มาร่วมหารือการฟื้นฟูกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย – ปากีสถาน เพื่อสร้างเครือข่ายรัฐสภาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้านอกจากนี้ สังคมของทั้ง 2 ประเทศ คงทราบดีกับการประสบกับปัญหาการขยายอิทธิพลของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวงทางออนไลน์ การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งมักมีการฉ้อโกงออนไลน์ หรือลวงเหยื่อให้ไปทำงานกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศ และปัญหาการก่อการร้ายรุนแรง จากการที่ไทยเป็นจุดหมายของผู้คนหลายประเทศ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นฐานที่มั่น หรืออำนวยความสะดวกให้กับอาชญากรข้ามชาติมาก่อเหตุได้โดยง่าย ซึ่งตนเชื่อว่าในวันนี้เราจะได้ร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยกันเพื่อสร้างความร่วมมือที่เข้มข้น ต่อสู้กันอาชญากรรมเหล่านี้

น.ส. ซาบีดา กล่าวอีกว่า โดยที่ผ่านมาในส่วนของกระทรวงมหาดไทยมีการมุ่งมั่นเร่งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้บูรณาการทุกส่วนราชการในสังกัดมท. และกรมการปกครอง ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบด้านการดูแลรักษาความมั่นคงภายใน และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเชิงรุก ผ่านการเปิดศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศเพื่อรับเรื่องร้องเรียน การจัดตั้งชุดปฏิบัติการในระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด เพื่อร่วมกันสอดล่อง เฝ้าระวัง ตรวจตราหาข่าว ที่อาจเป็นเบาะแสต่อการกระทำความผิด รวมไปถึงจัดตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสกัดพื้นที่ชายแดน ในการคัดกรองผู้ที่ลักลอบเข้าเมือง และอาชญากรข้ามชาติที่อาจหลบหนีเข้ามาในประเทศ ผ่านการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำผิดอย่างเข้มข้น

น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า ในวันนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราได้มาหารือร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยและปากีสถาน ที่จะได้ผสานพลังผลักดันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดี มีประสิทธิภาพ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือในการขับเคลื่อนงานด้านต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี ร่วมสร้างเมืองที่เป็นมิตรต่อคนทุกเพศทุกช่วงวัย มีความมั่นคง ปลอดภัยให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป

ในช่วงท้ายของการหารือ น.ส.ซาบีดาได้กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตปากีสถานที่ได้แสดงความชื่นชมต่อกระทรวงมหาดไทย ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการดำเนินมาตรการงดจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังพื้นที่ของประเทศเมียนมา ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี (Positive outcomes) ต่อสถานการณ์โดยรวม นอกจากนี้ ทางรัฐบาลปากีสถานยังยืนยันความพร้อมในการให้การสนับสนุนรัฐบาลไทยและกระทรวงมหาดไทยอย่างเต็มที่ ในความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และการปราบปรามเครือข่ายแก๊งค์ Scammer เพื่อสร้างความมั่นคงและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน