แฉพฤติกรรม 2 เกย์หื่นโจ๋งครึ่มหน้าไร้ยาง แค่คอนเทนต์ขยะเรียกยอดวิว หรือสะท้อนปัญหาสังคมตมต่ำ ?
โลกออนไลน์กำลังเดือด! เมื่อมีคลิปวิดีโอของชายหนุ่มสองคนที่ถูกถ่ายไว้ขณะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกลางที่สาธารณะ ย่านบางเขน โดยคลิปดังกล่าวถูกแชร์อย่างรวดเร็วและมียอดเข้าชมทะลุ 3 ล้านครั้งภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโซเชียลมีเดีย
โดยคลิปดังกล่าวเป็นเวลาค่ำๆ เผยให้เห็นชายหนุ่มสองคนที่มีท่าทีลับๆ ล่อๆ โยกๆ เยกๆ ใกล้ป้ายรถประจำทาง ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่งและมีผู้คนสัญจรไปมา ชายคนแรกเปลือยกายล่อนจ้อน ยืนหันหน้าเข้ากำแพงคอนโดฯ ส่วนชายคนที่สองสวมเสื้อแต่ท่อนล่างเปลือยเปล่า ยืนแนบชิดอยู่ด้านหลัง เมื่อรู้ตัวว่าถูกถ่ายคลิป ทั้งคู่ไม่ได้มีท่าทีตกใจ หรือรีบหลบหนี แต่กลับมองกล้องตรงๆ อย่างไม่สะทกสะท้าน ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงหรือเป็นคอนเทนต์ที่จัดฉากขึ้นเพื่อเรียกยอดวิวกันแน่?
เสียงแตกเป็นสองฝ่าย
หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตได้แบ่งออกเป็นสองมุมมองหลัก ได้แก่
- ฝ่ายที่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง – มองว่าพฤติกรรมนี้ไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นพื้นที่สาธารณะที่มีผู้คนสัญจรไปมา
- ฝ่ายที่เชื่อว่าเป็นคอนเทนต์จัดฉาก – ตั้งข้อสงสัยว่าทั้งหมดอาจเป็นเพียงการแกล้งเล่นหรือทำขึ้นเพื่อหวังเรียกยอดวิว เนื่องจากปฏิกิริยาของชายทั้งสองไม่ได้ดูตกใจเลย
ความคิดเห็นบางส่วนจากชาวเน็ต
"นี่มันเรื่องจริงหรือคอนเทนต์? ทำไมถึงกล้าทำกันโจ่งแจ้งขนาดนี้"
"ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่ให้เกียรติสถานที่สาธารณะเลยนะ"
"ดูก็รู้ว่าจัดฉาก! แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง ต้องโดนดำเนินคดีแล้วล่ะ"
พฤติกรรมนี้ผิดกฎหมายหรือไม่?
หากเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริง อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายไทย เช่น:
ความผิดฐานกระทำอนาจารในที่สาธารณะ – ตามมาตรา 388 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ความผิดฐานทำให้ประชาชนเดือดร้อนหรือเสียหาย – ตาม พ.ร.บ. ความผิดเกี่ยวกับการกระทำอนาจาร ซึ่งอาจถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมหากพบว่ามีเจตนาก่อความไม่สงบในที่สาธารณะ
ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้?
การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเรียกกระแส – ปัจจุบัน หลายคนพยายามสร้างคอนเทนต์ที่หวือหวา เพื่อเรียกยอดวิว ยอดไลค์ และความสนใจ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมก็ตาม
พฤติกรรมเสี่ยงและการท้าทายกฎเกณฑ์สังคม – บางคนอาจมีแนวคิดแบบ “ยิ่งแรง ยิ่งดัง” ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาความรับผิดชอบต่อสังคมที่ลดลง
เส้นแบ่งของศีลธรรมและกฎหมาย – แม้ว่าสังคมจะเปิดกว้างมากขึ้น แต่เส้นแบ่งของความเหมาะสมและกฎหมายก็ยังต้องมีอยู่ และพฤติกรรมเช่นนี้อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของพื้นที่และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม
และไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์จริงหรือคอนเทนต์ที่จัดฉาก สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ สังคมกำลังเปลี่ยนไปโดยมีอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียที่ส่งเสริมพฤติกรรม “ทำอะไรก็ได้ให้เป็นไวรัล” แต่การไล่ตามกระแสโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมและผลกระทบที่ตามมา อาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายและผลกระทบต่อสังคมในระยะยาว
สุดท้ายนี้ หากต้องการให้สังคมเป็นที่ที่น่าอยู่และปลอดภัย ควรตระหนักถึงขอบเขตของพฤติกรรมที่เหมาะสมและเคารพกฎหมาย เพื่อไม่ให้กลายเป็นเพียงแค่ "กระแสไวรัลที่ผิดที่ผิดทาง".