"โรม"จี้ถามเก็บอัตลักษณ์บุคคลก่อนปล่อยตัว หวั่นปลอมตัวกลับมาทำผิดซ้ำ

2025-02-20 15:29:45

 "โรม"จี้ถามเก็บอัตลักษณ์บุคคลก่อนปล่อยตัว หวั่นปลอมตัวกลับมาทำผิดซ้ำ

Advertisement

 

"โรม"จี้ถามเก็บอัตลักษณ์บุคคลก่อนปล่อยตัว หวั่นปลอมตัวกลับมาทำผิดซ้ำอีก อึ้งพบ 17 ล้านคนเข้าออกไทยไม่ระบุตัวตน 

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.68 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม กมธ.ที่ได้เชิญหน่วยงาน มาชี้แจงเกี่ยวกับการใช้ระบบระบุอัตลักษณ์ เพื่อเก็บข้อมูลบุคคลที่เคยเกี่ยวข้องกับคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งความชัดเจนในการดำเนินคดีกับ พ.อ.หม่อง ชิต ตู ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) โดยกระบวนการต่อไปนี้คือปล่อยตัวเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ออกจากเมืองเมียวดี กลับไปยังประเทศต้นทาง ซึ่งมีความน่ากังวล 2 เรื่องคือ การตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบุคคลที่ถูกปล่อยตัวกลับไป เป็นเหยื่อหรือเป็นอาชญากร ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอะไรแต่บุคคลเหล่านั้นรู้หรือไม่ว่าใครเป็นผู้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งตนเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญที่จะใช้ในการทำลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า แม้ว่าตอนนี้จะมีการระบุตัวตนบ้าง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนหลายระดับ ที่เรายังไม่ทราบว่าคือใคร เพราะตนกังวลว่าหากประเทศจีน จัดการธุระของเค้าเสร็จแล้ว จะหลงเหลือแก๊งจีนเทาเหล่านั้นในเมืองไทยหรือไม่นอกจากนี้การเก็บอัตลักษณ์บุคคลหรือ ไบโอแมทริกซ์ แก๊งจีนเทาเป็นบุคคลที่มีมีเงินเยอะ บางครั้งไปซื้อสัญชาติหรือพาสปอร์ต หากไม่มีการเก็บอัตลักษณ์ของบุคคลเลย เราจะทราบได้อย่างไรว่าหากเขากลับมาในประเทศไทย จะไม่สวมสัญชาติหรือพาสปอร์ตบุคคลอื่นเข้ามาทำความผิดอีก ใช้ไทยเป็นทางผ่านคอลเซนเตอร์ ก่ออาชญากรรมได้ เพราะก่อนหน้านี้ตนก็ไม่ได้คิดว่าจะมีการเพิกเฉย ในการระบุอัตลักษณ์ของบุคคลก่อนที่จะปล่อยตัวกลับประเทศต้นทาง

"สาเหตุของการที่ไม่มีระบุอัตลักษณ์ตัวตนมานานแล้ว เนื่องจากระบบที่ซื้อมาใช้อาจจะหมดอายุตามความเข้าใจขอผม ไม่ว่าจะเป็นในสนามบินใดๆหรือชายแดนก็ตาม ซึ่งข้อมูลตัวเลขของคนที่ผ่านเข้าออกประเทศไทยกว่า17 ล้านคน ที่ผมได้รับมา อาจเป็นไปได้ว่าไม่มีการระบุข้อมูลตัวตนเลย ที่บันทึกข้อมูลเป็นแค่การเก็บหน้าพาสปอร์ตปกติ ซึ่งผมก็ไม่อยากให้สิ่งที่พูดมานี้เป็นความจริง เพราะหากเป็นจริงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ หากนาย ก.ไก่ ถือสัญชาติชาวจีนมากระทำความผิดในไทย แต่สุดท้ายหนีออกไปได้ วันข้างหน้าหาก นายก.ไก่ กลับมาด้วยพาสปอร์ตวานูวาตู เราไม่สามารถระบุได้" นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมจะมีการสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินคดี พ.อ.หม่อง ชิต ตู ที่ตนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการละครหรือเป็นการฟอกขาวหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้อัยการจะเดินทางไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ก็มีการยกเลิกกระทันหัน ตนคิดว่าถ้ากระทำจริงมีความผิดแน่นอน เพราะหลายประเทศคว่ำบาตร พ.อ.หม่อง ชิต ตู แต่ไทยจะเป็น ”ผู้ฟอกขาว” ให้กับเขา

เมื่อถามว่า ข้อมูลของเมือง ของกลุ่ม DKBA ซึ่งข้อมูลที่ได้รับมา นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เป็นบริเวณแถบช่องแคบที่มีแก๊งแสตมป์เมอร์อยู่ประมาณ 10,000 คน อาจจะรวมเหยื่อ อาชญากร ที่มีการทารุณกรรม ความโหดร้าย จากข้อมูลของชาวบ้านที่ระบุว่ามีการพบศพช่วงน้ำหลากบริเวณริมแม่น้ำเมยประจำ ซึ่ง DKBA ก็ไม่ได้มีความเป็นเอกภาพ มีผู้นำคือพลจัตวา ซาย จอ หล่า หรือ โกซาย ซึ่งตนมองว่า มีความโหดร้ายทารุณไม่ต่างกับพื้นที่ของพ.อ.หม่อง ชิต ตู ส่วนเรื่องการใช้ไฟตนเข้าใจว่าน่าจะมีการพ่วงมาก่อนหน้านี้จากภายใน แต่ตอนนี้ตัดไปหมดแล้ว รวมทั้งข่าวที่ตนได้รับจากสื่อมวลชนว่าจะมีการขนถังแก๊สและน้ำมัน ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของโกซายอีกด้วย