"อนุทิน"บรรยายหลักสูตร วปอ. ชูวิสัยทัศน์ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที สร้างผู้นำองค์กรแห่งอนาคต หนุนไทยปรับตัวพร้อมปรับกติกาโลกเปลี่ยน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 มี.ค.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย บรรยายพิเศษ หัวข้อ "การสร้างผู้นำในการเผชิญกับสภาพสังคมโลกและภูมิภาคในสภาวการณ์ปัจจุบันและอนาคต" ให้กับคณาจารย์และนักศึกษาหลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ณ หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เขตดินแดง กทม.
นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ และได้อาศัยความได้เปรียบนี้พัฒนาทั้งด้านเกษตร อุตสาหกรรม ปิโตรเคมี เกิดเป็นเศรษฐกิจและภาคเอกชนที่เข้มแข็ง แม้ผ่านสถานการณ์การเมืองมาหลายครั้งแต่ภาคเอกชนยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ประการสำคัญเพราะเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่ทำให้ประเทศไทยไม่แยก ไม่แตกสลาย และสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และยังได้รับความเชื่อถือจากนานาประเทศ จึงทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ยังคงสามารถเดินหน้าไปได้ เรียกได้ว่าความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก้าวหน้ารุดหน้าไปกว่าวิกฤตการณ์ทางการเมือง
นายอนุทิน กล่าวว่า แต่สถานการณ์ในปัจจุบันทั้งประเทศไทยและองค์กรธุรกิจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง จำเป็นที่ต้องมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน พร้อมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต คิดในเชิงยุทธ์ศาสตร์ ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที โดย"ทันโลก" ด้วยการเข้าใจสถานการณ์โลกและปรับตัวได้ทัน "ทันสมัย" ต้องเข้าใจบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ "ทันท่วงที" ด้วยการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว ทันสถานการณ์ ปัจจุบันไม่มีองค์กรไหนที่จะอยู่อย่างเช้าชามเย็นชามได้ แม้แต่ภาครัฐที่เกิดระบบการทำงานแบบใหม่ เช่น AI Paperless หรือ Work from Home เหล่านี้คือ New World Order ที่เป็นการจัดกติการะเบียบของโลกใหม่ ที่ต้องทำความเข้าใจและนำไปสู่การปฏิบัติควบคู่ไปกับการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ เป้าหมาย SDGs ขององค์การสหประชาชาติ 17 ข้อ ที่อาจไม่จำเป็นต้องทำครบทุกข้อแต่ทำเพียงบางข้อให้ได้ก็สามารถทำให้ชีวิตผู้คนดีขึ้น อาทิ การลดความยากจน ลดความหิวโหย การมีระบบสาธาระสุขที่ดี การให้มีน้ำดื่มได้ในทุกชุมชน รวมถึงพลังงานสะอาด
"ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบจากการเป็นศูนย์กลางอาเซียน มีประชากร มีความเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่น้อยกว่าภูมิภาคอื่น ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีสงครามหรือความแตกแยกของประเทศสมาชิก ดังนี้อาเซียนจึงต้องขับเคลื่อนในรูปแบบประชาคม และหากไทยยืนหยัดอย่างเข้มแข็งได้ อาเซียนเข้มแข็ง ไทยจะเป็นศูนย์กลางการพัฒนา และคนไทยทุกคนได้อานิสงส์จากการที่ประเทศไทยปรับตัวเป็นส่วนหนึ่งของกติกาโลก" นายอนุทิน กล่าว