"อนุทิน" หารือเอกอัครราชทูตโมร็อกโก ยกระดับการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว จับมือปราบอาชญากรรมออนไลน์และค้ามนุษย์
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.68 ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้การต้อนรับ นายอับเดอร์ราฮิม เราะห์ฮาลี่ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโก ประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและร่วมหารือในประเด็นการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และปราบปรามภัยจากการค้ามนุษย์จากอาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงทางออนไลน์
นายอนุทิน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยกับประเทศโมร็อคโค ได้มีความสัมพันธ์อันดีร่วมกันในการแลกเปลี่ยนแนวทางเพื่อพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านวิชาการ และด้านความมั่นคงปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยจากการหลอกลวงออนไลน์และอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีประชาชนคนไทยและโมร็อคโคตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้จำนวนมาก
"รัฐบาลไทยโดยกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลด้านความมั่นคงภายใน ได้สนับสนุนการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้สั่งงดจ่ายไฟฟ้าไปยังชายแดนไทย - เมียนมา ซึ่งเป็นพื้นที่มีการใช้ไฟฟ้าของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ รวมไปถึงระงับการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง ระงับสัญญาณโทรคมนาคม เพื่อตัดวงจรการกระทำผิดของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มเครือข่ายการค้ามนุษย์ ได้ขอให้ฝ่ายโมร็อกโกประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้ามาทำงานในประเทศไทย ที่ต้องขอใบอนุญาตทำงานและ Visa สำหรับทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยตระหนักดีว่าปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ที่ตกเป็นเหยื่อ และต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อดูแลความปลอดภัย มีมาตรการป้องกันการก่อภัยอาชญากรรม เพื่อกู้คืนสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว โดยจากนี้กระทรวงมหาดไทยจะได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเพิ่มมาตรการคัดกรองผู้เดินทางเข้า - ออกประเทศให้รัดกุม กำหนดแนวทางการดูแลและส่งกลับเหยื่อที่ถูกหลอกลวงค้ามนุษย์ ตลอดจนหารือแนวทางเพื่อกำหนดความตกลงในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
ด้ายนายอับเดอร์ราฮิม เราะห์ฮาลี่ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ขอบคุณกระทรวงมหาดไทยที่ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีในวันนี้ ประเทศโมร็อคโค พร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนทุกมาตรการเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงปลอดภัยแก่ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศให้สามารถใช้ชีวิตได้ปกติสุข เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป