รพ.รามาธิบดียันไม่พบการรั่วไหลของรังสี

2025-03-12 15:36:14

รพ.รามาธิบดียันไม่พบการรั่วไหลของรังสี

Advertisement

รพ.รามาธิบดีออกประกาศฉบับที่ 2  ยันเหตุไฟไหม้ไม่พบการรั่วไหลของรังสี  

เมื่อวันที่ 12 มี.ค.68 คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกประกาศฉบับที่ 2  กรณีเหตุไฟไหม้เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 มี.ค.68  ระบุว่า จากกรณีที่มีกลุ่มควันและเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่อาคารหลัก (อาคาร 1) ของ รพ.รามาธิบดี เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 และทางคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี  มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ชี้แจงออกประกาศฉบับที่ 1 ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น  ในวันนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี  มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการอพยพย้ายผู้ป่วยไปยังจุดปลอดภัย จำนวนครบถ้วน 191 ราย โดยเป็นการอพยพย้ายภายในโรงพยาบาล

จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสูดเขม่าควันจำนวน 1 รายซึ่งเป็นบุคลากรที่เข้าไปช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวได้รับการดูแลอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) และได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด  ผลกระทบดังกล่าวทำให้คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี  มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับผลกระทบในการให้บริการด้านรังสีวิทยาและพยาธิวิทยา ฝั่งอาคารหลัก (อาคาร 1) โดยเบื้องต้นการให้บริการด้านรังสีวิทยาและพยาธิวิทยาบางส่วนต้องย้ายไปให้บริการที่อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เป็นการชั่วคราว

ทั้งนี้ จากข้อกังวลเรื่องรังสีรั่วไหล ทางทีมวิศวกรรมได้ตรวจสอบแล้วไม่พบการรั่วไหลของรังสี สำหรับด้านการให้บริการทางพยาธิวิทยา ได้แก่ การบริจาคโลหิต ในขณะนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์  รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ขอขอบคุณผู้ที่ประสงค์จะบริจาคแต่เนื่องจากหน่วยคลังเลือดมีพื้นที่ในการรับบริจาคโลหิตอย่างจำกัด อาจจะไม่ได้รับความสะดวก

ทั้งนี้ การเปิดให้บริการหน่วยต่างๆ ภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ชั้น 1-9 ฝั่งใต้ ยังคงปิดให้บริการเพื่อทำการระบายกลิ่นและกลุ่มควันออกจากอาคารอย่างต่อเนื่อง ทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จะดำเนินการลดจำนวนผู้ป่วย การผ่าตัด ผู้ป่วยที่ไม่เร่งด่วนออกไป ภายใน 1-2 วัน โดยหากสามารถดำเนินการได้ปกติจะมีการประกาศต่อไป ต้องขอขอบคุณความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบรรเทาสาธารณภัย กำลังจากตำรวจ ทหารที่เข้ามาช่วยเหลือ รวมทั้งสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงที่พร้อมจะรับผู้ป่วยไปดูแลต่อและต้องขอบคุณบุคลากรของคณะฯ ทุกท่านที่ได้เข้ามาช่วยเหลือกันเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยทุกคน บุคลากรทุกท่านทำงานอย่างมืออาชีพตามแผนที่ได้ซ้อมไว้และยังช่วยกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจนสามารถกลับมาดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง