"สมศักดิ์" ร่าง พ.ร.บ.อสม.ผ่าน ครม. 18 มี.ค.

2025-03-14 17:39:48

"สมศักดิ์" ร่าง พ.ร.บ.อสม.ผ่าน ครม. 18 มี.ค.

Advertisement

"สมศักดิ์" ร่าง พ.ร.บ.อสม.ผ่าน ครม. 18 มี.ค.  ปลื้ม อสม.ชวนนับคาร์บใกล้แตะเป้า 20 ล้าน เชื่อมั่น 50 ล้านทำได้แน่นอน 

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.68 ที่ จ.นครนายก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  รมว.สาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดงานการประชุมติดตามผลการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) “เบาหวานสงบได้ด้วย Lifestyle medicine” เขตสุขภาพที่ 4 โดยมีนายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชานน วาสิกศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.ปรีชา เปรมปรี ผู้ตรวจราชการฯ เขตสุขภาพที่ 4 นพ.อุดม อัศวุติมางกุร สาธารณสุขนิเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตสุขภาพที่ 4 พล.ต.ต.สุรพล บุญมา สส.เขต 1 นครนายก พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย อสม.กว่า 1800 คน เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้มอบโล่รางวัลกับตัวแทน อสม. และเจ้าหน้าที่ ที่ร่วมดำเนินงาน NCDs Remission clinic ได้ผลงานสูงสุดของแต่ละจังหวัดในเขตสุขภาพที่ 4 และมอบป้าย เครื่องมือสำหรับดำเนินงาน NCDs Prevention Center ให้กับผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ของ 8 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 4 พร้อมกับเยี่ยมชมบูธนิทรรศการ และบูธผลิตภัณฑ์สุขภาพดีเด่น

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs เป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วย และการเสียชีวิตของคนไทย รวมถึงพี่น้องประชาชนในเขตสุขภาพที่ 4 ซึ่งมีผู้ป่วยเบาหวาน และความดันโลหิตสูง รวมกันมากกว่า 1 ล้านคน /กระทรวงสาธารณสุขจึงขับเคลื่อน นโยบายคนไทยห่างไกล NCDs โดยให้ความสำคัญกับ การนำเวชศาสตร์วิถีชีวิต หรือ Lifestyle medicine มาปรับใช้ ทั้งการกินอาหารที่เหมาะสม การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด การนอนหลับให้เพียงพอ ลดละเลิกพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรค รวมถึง การมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกในสังคมและครอบครัว พี่น้อง อสม. เป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว และยินดีที่ได้ทราบว่า ในปัจจุบัน อสม. ชวนคนไทยนับคาร์บได้แล้ว กว่า 19 ล้านคน ทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่า เราจะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย 50 ล้านคน ภายในปีงบประมาณนี้

"พรรคเพื่อไทยและรัฐบาล ให้ความสำคัญกับพี่น้อง อสม. โดยพรรคเพื่อไทยได้เสนอร่าง พ.ร.บ. อสม. เข้าสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ส่วนของรัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขก็ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.อสม. แต่ยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เพราะคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ขอให้ไปชี้แจงเรื่องการให้มีกองทุนหลายครั้ง สอบถามกันไปมา ในความโชคไม่ดีก็ผ่านพ้นไปแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบาย กรมบัญชีกลาง ส่งเรื่องกลับมา ผมก็ได้เร่งเต็มที่ ถ้าโชคดีวันอังคารนี้คาดว่าจะผ่านครม.จากนั้นส่งเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร แล้วจะไปประกบร่างพ.ร.บ.อสม.ฉบับ ของเพื่อไทยเสนอ"นายสมศักดิ์กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่กี่วันที่ผ่านมา ตนได้ไปตอบกระทู้ถามสด ของสส. ตั้งถามการแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ต้องรอคิวรับบริการนาน ซึ่งได้ยืนยันแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาวคือการเพิ่มแพทย์ พยาบาล ซึ่งถ้าจะให้ครบปริมาณที่กำหนดไว้ ต้องใช้เวลา 10 ปี แต่ถ้าเราปล่อยให้เป็นแบบนี้ ถึง 10 ปี ก็ยังแออัด เราต้องลดคนป่วยลงด้วย ก็มาบอก อสม.ช่วยลดคนป่วยด้วย เพราะโรคที่เกิดจากการกิน ต้องใช้เงินจาก สปสช.ถึง 52 เปอร์เซ็นต์ หรือ 79,000 ล้านบาท ถ้าไม่สามารถลดคนป่วยลงได้ เราจะต้องเพิ่มหมอ เพิ่มงบประมาณอีก ถ้าใช้แนวทางการนับคาร์บ หยุดคนป่วยโรคไต เบาหวาน ลดค่าใช้จ่ายได้ ถ้าเรามีกฎหมายแล้ว เราลดคนป่วยได้ แล้วเงิน 79,000 ล้านบาท เอามาให้ อสม.ดีไหม และถ้านับคาร์บได้ 50 ล้านคนเมื่อไหร่ นั่นคือฝีมือ อสม.

“ถ้าเราลดงบประมาณค่ารักษาคนป่วยได้ ผมจะไปต่อรองกับผู้มีอำนาจ เช่น กระทรวงการคลัง ให้เอาเงินส่วนหนึ่งเขาบัญชี อสม. แต่สิ่งหนึ่งที่จะให้เลย คือถ้าอสม.นับคาร์บได้ 50 ล้านคน ภายในปีงบประมาณ 2568 ให้ตรวจสุขภาพฟรี เพิ่มจากที่มีอยู่เดิม โดยได้เร่งรัดอธิบดีกรม สบส.จัดเตรียมไว้เลยจังหวัดไหน ทำได้ก่อน ก็มอบให้เลยไม่ต้องรอถึง 30 กันยายน อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ไปกราบขออนุญาต สมเด็จรพระมหาธีรจารย์ ขอพระนักเทศน์ 600 รูป มาช่วยเทศนาให้ชาวบ้านฟังเรื่องนับคาร์บ เราก็จะมีพระอาจารย์มาช่วยอีกแรง”นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้นนายสมศักดิ์ได้ชวน อสม.ทบทวนสูตรคำนวณการนับคาร์บ โดยให้เจ้าหน้าที่แจกกระดาษและดินสอ พร้อมทั้งให้ร่วมเล่นเกมตอบคำถาม สร้างบรรยายกาศในห้องประชุมทำให้เกิดความครึกครื้น ก่อนที่ภายหลังจบการบรรยาย ได้ลงไปพบปะทักทาย โดยกลุ่ม อสม. ได้มาห้อมล้อมขอร่วมถ่ายรูปและขอลายเซ็นต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขด้วย