Thailand Web Stat

"ธนกร" ติง "โรม" อย่าอ้างนิติสงครามหลัง ป.ป.ช.จ่อฟัน 44 ส.ส.ก้าวไกล

3 วันที่แล้ว

"ธนกร" ติง "โรม" อย่าอ้างนิติสงครามหลัง ป.ป.ช.จ่อฟัน  44 ส.ส.ก้าวไกล

Advertisement

"ธนกร" ติง "โรม" อย่าอ้างนิติสงครามหลัง ป.ป.ช.จ่อฟันปม  44 ส.ส.ก้าวไกลเสนอแก้ม.112  ควรแยกแยะหากผิดต้องยอมรับ อย่าเบี่ยงประเด็นสร้างความสงสารดราม่ากลบเกลื่อน

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.68 นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาอดีต 44 ส.ส.พรรคก้าวไกล กระทำการจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน 1 ใน 44 อดีตสส.พรรคก้าวไกลออกมาพูดว่าป.ป.ช. พยายามที่จะใช้นิติสงครามเร่งรัดเอาผิด ว่า นายรังสิมันต์ ต้องแยกแยะเรื่องหน้าที่ของฝ่ายค้านในสภาที่ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่ายค้านจะต้องทำอยู่แล้วตามบทบาทหน้าที่ปกติ และควรจะแยกเรื่องการกระทำกับหน้าที่ ออกจากกัน สิ่งที่เป็นหน้าที่ก็ต้องทำ ส่วนความผิดหากเกิดขึ้นก็ต้องรับรับผิดชอบตามกฎหมาย การเป็นสส.ไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้ แต่ต้องเคารพกฎหมายและเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนด้วย

เมื่อถามว่าแต่การออกมาให้ข่าวของเลขาป.ป.ช.ถูกมองว่าต้องการทำลายสมาธิฝ่ายค้านในช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ทางคณะกรรมการป.ป.ช. ได้รับคำร้องเรื่องตั้งแต่ปี2567 ต่อเนื่องจากคดี ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลที่หาเสียงเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากนั้นดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อคณะไต่สวนแจ้งข้อกล่าวหาและให้เวลาผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงข้อเท็จจริงตามกระบวนการ ซึ่งการที่นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์สื่อ ในทำนองที่ว่ามีป.ป.ช.ความพยายามสกัดพรรคประชาชนไม่ให้ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลนั้น ตนมองว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงและจงใจโยนความผิดให้คณะกรรมการป.ป.ช. ให้ถูกสังคมกดดันมองป.ป.ช.ไปในทางที่ไม่ให้ความยุติธรรม เรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สมควร ตนมั่นใจว่าคณะกรรมการป.ป.ช. จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคดี โดยยึดจากข้อเท็จจริงพยานหลักฐานและเจตนาประกอบในสำนวน หากไม่ผิดก็ไม่สามารถที่จะให้บุคคลใดรับโทษได้ จึงขอให้นายรังสิมันต์ ให้ความเป็นธรรมกับป.ป.ช.ด้วยเหมือนอย่างที่นายรังสิมันต์ ได้เรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับตนเองและสส.ในพรรค

“อย่าเหมารวมการทำหน้าที่ของ ส.ส. เพราะเป็นสิ่งที่ควรต้องพึงปฏิบัติในสภาอยู่แล้ว และต้องแยกส่วนเรื่องคดีหรือการกระทำผิดหรือไม่นั้น ให้มีการชี้แจงข้อกล่าวหาตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย ไม่ควรสร้างวาทกรรมเรียกร้องความสงสารจากสังคม เพื่อมุ่งไปกดดันการทำหน้าที่ตรวจสอบของป.ป.ช. ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับองค์กรอิสระด้วย และไม่ควรเบี่ยงประเด็นสร้างความสับสนและเข้าใจผิดแก่ประชาชนในสังคม หากท้ายที่สุดผลของการวินิจฉัยออกมาเป็นอย่างไร นายรังสิมันต์และพวกก็ต้องยอมรับ จึงจะถือว่าเป็นแบบอย่างของสส.ที่ดีที่ปฏิบัติตามกฏหมาย อย่าอ้างคำว่านิติสงครามเลย เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่ที่เจตนาและหลักฐานข้อเท็จจริง“ นายธนกร ระบุ