Thailand Web Stat

"ชัชวาล"ซัดนายกฯมุ่งผลักดัน "กาสิโน" ไม่สนปากท้อง สินค้าเกษตรตกต่ำ

4 วันที่แล้ว

 "ชัชวาล"ซัดนายกฯมุ่งผลักดัน  "กาสิโน"  ไม่สนปากท้อง  สินค้าเกษตรตกต่ำ

Advertisement


"ชัชวาล"ซัดนายกฯมุ่งผลักดัน  "กาสิโน"  ส่อทุจริตเชิงนโยบาย ไม่สนปากท้อง  สินค้าเกษตรตกต่ำ  คุณภาพชีวิตย้ำแย่  

เมื่อเวลา 11.20 น.วันที่ 24 มี.ค.68 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 26 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณา เรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งนายชัชวาล แพทยาไทย (ทสท.) .ส.ร้อยเอ็ด เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) อภิปรายว่า ตนเห็นว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับญัตติของผู้นำฝ่ายค้านที่สมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ลงชื่อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ เนื่องจาก สิ่งที่ควรทำ ท่านไม่ทำ สิ่งที่ไม่ควรทำ ท่านกลับจะเร่งทำ สอดคล้องกับข้อกล่าวหาว่า ไม่มีคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหาร ขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดิน ในการแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ ประชาชน ส่งผลทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศ

นายชัชวาล กล่าวว่า นโยบายที่แถลงต่อสภา ฯ ซึ่งเรื่องที่ควรทำกลับล้มเหลว ไม่สำเร็จ ที่บอกว่าเกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ในปี 2570 แต่วันนี้เกษตรกรยังเจอวิกฤต ราคาข้าวเปลือกนาปรัง นานาปีตกต่ำ เหลือกิโลละ 6 บาท ต้องใช้ 2 กิโลกรัมหรือคิดเป็น 12 บาท สีออกมาเพื่อให้ได้ข้าวสาร 1 กิโลกรัม ขายในราคา 35 บาท ซึ่งส่วนต่าง 23 นี้ไม่ได้ตกอยู่กับเกษตร ในขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงมาก มาตรการช่วยเหลือ ล่าช้า ไม่ชัดเจน และในวันที่ 31 มี.ค.นี้จะครบรอบจ่ายหนี้ธกส.ชาวนาบางคนยังอับจนหนทางไม่รู้จะไปต่ออย่างไร วันนี้ชาวนาเดือดร้อนมาชุมนุมหน้ารัฐสภาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาแต่ได้รับคำตอบ ว่าให้ไปปลูกกล้วยแทนการปลูกข้าว นอกจากนี้ยังมีปัญหาวัวมีชีวิตราคาตกต่ำ ปัญหาชาวประมง 19 จังหวัด ประท้วงหน้าทำเนียบ เทปลาหมอคางดำ 5 ตัน เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ แต่ที่นายกทำคือรับดอกไม้ในทำเนียบไม่ยอมออกมาพบชาวประมง ให้ตำรวจผลักดันกลับ ตลอดจนปัญหามันสำปะหลังตกต่ำ ยิ่งขณะนี้หลายพื้นที่เข้าสู่หน้าแล้ง มีปัญหาขาดแคลนน้ำ ต้องทนใช้น้ำประปาคุณภาพต่ำ ปัญหากองอยู่ต่อหน้า คนที่ควรรับผิดชอบกลับลอยตัวเหนือปัญหา ทำเป็นไม่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน บริหารงานไปวันๆ แล้วแบบนี้จะหวังให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆ กันได้อย่างไร

นายชัชวาล กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหายาเสพติดนายกฯ จะแก้กี่โมง ทั้งที่ประกาศว่าจะจัดการยาเสพติดอย่างจริงจังตั้ง 2 ปีแล้ว ที่แต่ก็ทำไม่ได้ตามที่พูด ไล่จับรายเล็ก รายย่อย แต่ปล่อยพ่อค้ายาเดินหน้าลอยนวล คดียาเสพติดที่เพิ่มขึ้น โดยผู้ต้องขังคดียาเสพติดคิดเป็น 74% ของนักโทษทั้งหมด สาเหตุเพราะนายกไม่ได้จริงใจในการแก้ไขต้นตอการระบาด ระบบกฎหมายมีช่องโหว่ กระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้าส่งผลให้ผู้ค้ายาเสพติดใช้เงินเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด อีกทั้งนโยบายเปลี่ยนไปวนมา เช่น เสรีกัญชาโดยไม่มีมาตรการควบคุม ยิ่งทำให้ปัญหายาเสพติดมีความซับซ้อนมากขึ้น

เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาสิ่งที่ควรทำ ท่านไม่ทำ ปัญหาของประชาชนยังกัดกินคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ในทางกลับกัน ท่านกลับเลือกที่จะทำในสิ่งที่ยังไม่ควรทำ โดยมุ่งมั่นผลักดันนโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีกาสิโนสอดไส้และอีกหลายนโยบายที่ชวนสงสัยว่าสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้จริงหรือไม่ ทำให้ประชาชนให้ลุ่มหลงในอบายมุขให้เป็นหนี้เป็นสิน จนกลายเป็นปัญหาร้ายแรงทางสังคม และยังเป็นนโยบายที่ส่อทุริต โดยหวังรายได้จากการท่องเที่ยวสถานบันเทิงครบวงจรนี้ แต่ในความเป็นจริง นักท่องเที่ยวที่มาเพราะต้องการชมวัฒนธรรม ธรรมชาติ อาหารไทยมากกว่า โครงการนี้จึงไม่น่าจะตอบโจทย์ เรื่องการท่องเที่ยว แต่เมื่อทราบความจริงถึงบางอ้อเพราะโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีคาสิโนซ่อนอยู่ ถามว่าถ้าประกาศเป็นนโยบายหาเสียง จะมีประชาชนต่อต้านมากเพียงใด นี่จึงเป็นเหตุที่พรรคของนายกฯ ไม่รายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

นายชัชวาล กล่าวอีกว่า โครงการนี้ส่อว่า รัฐบาลเตรียมประเคนทรัพย์สินภาครัฐเพื่อประโยชน์แก่เอกชน คือเป็นการทุจริตเชิงนโยบายอย่างชัดเจน เพราะ 1. น.ส.แพทองธาร บริหารงานราวกับเป็นหุ่นเชิดในการจัดทำโครงการนี้ โดยเจ้าของนโยบายที่แท้จริง เป็นผู้มีบารมีนอกรัฐบาล ซึ่งเป็นบุคคลในครอบครัวของนายกฯ ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวตามไทม์ไลน์ดังนี้ วันที่ 22 ส.ค. 2567 บุคคลในครอบครัวของนายกฯ ได้กล่าวในการดินเนอร์ทอล์ค หัวข้อ Vision for thailand 2024 ซึ่งมีโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ด้วย กำหนดงบลงทุนในกทม.แห่งละ 100,000 ล้านบาท ต่างจังหวัดแห่งละ 50,000 ล้านบาท และก่อนหน้านี้ วันที่ 29 เม.ย.-2.พ.ค.2567 บุคคลในครอบครัวนายกฯ ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ตเพื่อดูพื้นที่โครงการเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ จากนั้นวันที่ 12 ก.ย. 67 น.ส.แพทองธารแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ข้อที่ 7 ระบุว่ารัฐบาลจะส่งเสริมโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตรงกับวิสัยทัศน์ของบุคคลในครอบครัวของตัวเอง ต่อมา 13 ม.ค. น.ส.แพทองธาร แถลงข่าวว่าที่ประชุม ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ถือว่านายกฯ ได้เริ่มนโยบายที่สอไปในทางทุจริตเชิงนโยบายอย่างเป็นทางการแล้ว นอกจากนี้ยังมีนโยบายการพนันออนไลน์ ที่เป็นการเปิดช่องให้มีการหารายได้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้กับตัวเองและพวกพ้อง เป็นการทุจริตเชิงนโยบายได้เช่นเดียวกัน หากท่านและพวกพ้องจะไม่มีนโยบายเช่นนี้ขอขอให้ประกาศกลางสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ ให้ประชาชนได้รู้ว่ากาสิโนและพนันออนไลน์จะไม่มีเงินใต้โต๊ะ

"ผมขอฝากคำถามไปยังนายกรัฐมนตรี 1. เหตุใดในการรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้งจึงไม่มีนโยบายกาสิโน หรือเกรงว่าประชาชนจะต่อต้านหรือไม่ 2. เหตุใดโครงการสำคัญเช่นนี้จึงไม่รายงานต่อกกต. รวมทั้งไม่ระบุถึงงบฯ ที่จะใช้จ่ายในโครงการทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ที่จะนำทรัพย์สินของทางราชการไปเพื่อการลงทุนของกลุ่มทุน” เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าว

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2568 ที่ มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยครม. เป็นผู้เสนอ เป็นการปูทางเอื้อต่อธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือไม่ เพราะในมาตรา 8(3) และ มาตรา 9 (12) ได้เพิ่มสาระสำคัญให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยสามารถดำเนินธุรกิจ นอกเหนือจากกิจการของการท่าเรือ ซึ่งกว้างมากและน่าจะเป็นปัญหาขัดกับวัตถุประสงค์ของพ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างท่าเรือกรุงเทพฯ พ.ศ 2480 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างท่าเรือเท่านั้น อีกประการสำคัญการท่าเรือฯ ได้เปิดแผนผังพัฒนาท่าเรือคลองเตย บนพื้นที่ 2,353 ไร่ จัดโซนนิ่งสร้าง Smart City, Smart port, Smart community พร้อมรับนโยบาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมาตรา 9 (10) ได้เพิ่มวัตถุประสงค์ของการท่าเรือฯว่า ลงทุนหรือเข้าร่วมกิจการกับคนอื่นหรือถือหุ้นให้บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนทั้งในและนอกราชอาณาจักรเพื่อประโยชน์แก่กิจการของการท่าเรือฯ ซึ่งสอดคล้องกับผู้บริหารของการท่าเรือที่ให้สัมภาษณ์ว่าการแก้ไขพ.ร.บ.ท่าเรือ ทำให้การท่าเรือสามารถทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้ทั้งลงทุนเองและเป็นผู้ร่วมงานอะไรที่การท่าเรือชำนาญก็จะทำเอง อะไรที่ไม่ชำนาญก็ให้บริษัทลูกรับร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ หรือจะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นนี่คือเหตุผลชัดๆว่าแก้พ.ร.บ.การท่าเรือครั้งนี้เพื่อรองรับโครงการ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

“พอการเมืองเข้าไปแทรกไปหาประโยชน์ก็แก้ไขวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งการท่าเรือให้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม นี่เป็นการเตรียมการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนในการใช้อำนาจจากอสังหาริมทรัพย์ของรัฐ และเตรียมการใช้งบฯ พัฒนาอสังหาฯ เพื่อประโยชน์ ในโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” นายชัชวาล กล่าว และว่า หากโครงการนี้ดำเนินการไปจนแล้วเสร็จเกรงว่าจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชน ปัญหาด้านสังคมตามมาทั้ง อาชญากรรม การฟอกเงิน เมืองที่มีกาสิโนตั้งอยู่จะกลายเป็นเมืองบาป ซึ่งมีบทเรียนจากเพื่อนบ้านที่มีคาสิโนถูกกฎหมายทุกประเทศล้วนมีปัญหาเหล่านี้ รายได้จากคาสิโนไม่ได้นำมาซึ่งความเจริญ ความอยู่ดีของประชาชน ในทางตรงข้ามกลับกลายเป็นแหล่งก่ออาชญากรรม ค้ามนุษย์ แก็งคอลเซ็นเตอร์ ฟอกเงินของกลุ่มสีเทา เราต้องการให้ประเทศไทยมีlภาพเป็นเช่นนั้นหรือนอกจากผียาเสพติดแล้วยังมีผีพนันเต็มบ้านเต็มเมืองแล้วประชาชนทั่วไปจะอยู่กันอย่างไร ที่ผ่านมารัฐบาลมักจะยกตัวอย่างกาสิโนของสิงคโปร์ในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่สิงคโปร์ใช้เวลาศึกษาโครงการนี้กว่า 10 ปีภายใต้กฎหมายที่เข้มงวดเพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด ในขณะที่ประเทศไทยใช้เวลาไม่กี่เดือนในการทำให้การพนันถูกกฎหมาย ไร้การรองรับชนิดที่เรียกว่า คิดไป ทำไป เพื่อใครสักคน คิดแต่จะเลียน แบบแต่ไม่คิดจะเรียนรู้” สนใจแต่ตัวเลขรายได้ แต่ไม่สนใจว่าการควบคุมดูแลของตัวเองนั้นอ่อนแอเพียงใด ซึ่งสิงคโปรมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น มีการทุจริตคอรัปชันน้อยมากอยู่อันดับ 3 ของโลก ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 108 อีกทั้งนายกฯ ยังไม่สนใจคำเตือนจากประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้นำจีนว่า หากไทยเดือนหน้าคาสิโนอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ มากมาย โดยหลังกลับมาก็เดินหน้าต่ออย่างเร่งรีบ เร่งรัดกฤษฎีกาพิจารณากฎหมายให้แล้วเสร็จภายใน 50 วัน ขณะเดียวกันก็เดินหน้าพ.ร.บการท่าเรือนี่คือข้อสงสัย ในนามพรรคไทยสร้างไทย คงยอมไม่ได้ที่จะให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยอบายมุข งหมดที่อธิบายมานี้ เป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล ที่ล้มเหลวในการแก้ปัญหาให้ประชาชนตามที่แถลงนโยบายต่อสภา ความเป็นอยู่ประชาชนไม่ดีขึ้น ซ้ำร้ายยังจะฝืนนำนโยบายอันจะพาบ้านเมืองตกต่ำลงไป ผมในฐานะตัวแทนประชาชนจึงไม่สามารถไว้วางใจ นา.ส.แพทองธาร ชินวัตรให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ต่อไป” นายชัชวาล กล่าว