ดราม่าน้ำตาไหล! “ฝันดี-ฝันเด่น” สะเทือนใจเล่าภารกิจ 12 วันใต้ซากตึกถล่ม เสียง “ช่วยด้วย” มีจริงไหม? พร้อมไขปริศนา ทำไมช่วยช้า จนหลายชีวิตต้องดับคาซากปูน
“ผมต้องคลาน...ต้องคร่อมร่างคนที่ตายแล้ว...เอามือเปล่าขุดเพราะไม่มีเครื่องมือเข้าไปถึง พอเจอร่าง ผมก็ขอผ้าดิบ แต่เขาส่งถุงซิปมาให้แทน...” – ฝันเด่น คนกู้ภัยใจถึงใจ
เสียงสะอื้นแผ่วเบา...กับความเจ็บปวดที่ไม่มีใครอยากให้เกิด “ฝันดี-ฝันเด่น” คู่แฝดผู้เป็นนักแสดงและอาสาสมัครกู้ภัย เผยเบื้องหลังภารกิจค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์ อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม จากแรงแผ่นดินไหว เมื่อ 12 วันที่แล้ว ผ่านรายการ คุยแซ่บShow พร้อมเคลียร์ดราม่าที่สั่นสะเทือนหัวใจคนไทยทั้งประเทศ
12 วันแห่งฝันร้าย... และ “เสียงช่วยด้วย” ที่ไม่เคยลืม
ฝันเด่นเปิดใจเล่าฉากหนึ่งที่ยังฝังแน่นในใจ “ตอนนั้นเรายกคานออกมา แล้วจู่ๆ ก็มีเสียง ‘ช่วยด้วย’ ดังขึ้นจากซากหิน... เรากับทีมอิสราเอลหันขวับทันที ทุกคนเงียบ แล้วรีบลงมือขุดทันที... แต่หลังจากนั้น กลับไม่มีเสียงอีกเลย”
เสียงปริศนานั้นคือความหวัง หรือเพียงเสียงสะท้อนจากความสิ้นหวัง? ดราม่าจากคลิปไวรัลที่มีคนอ้างว่าได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ กลายเป็นคำถามที่กรีดใจว่า... ถ้าเสียงนั้นมีจริง ทำไมยังไม่มีใครรอด?
ทำไมล่าช้า? คนด่ากู้ภัย แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วย "เลือด-น้ำตา-ความกลัว"
กระแสดราม่าระอุในโลกออนไลน์... “ทำไมกู้ภัยช้า?” “ทำไมปล่อยให้คนติดอยู่ 12 วัน?”
ฝันเด่นตอบด้วยเสียงสั่นว่า “เราอยากจะยืนจับมือผู้รอดชีวิตตั้งแต่นาทีแรกที่รู้ว่าเขาติดอยู่ แต่เราทำไม่ได้...เพราะตึกมันไม่มั่นคง ใช้เครื่องจักรไม่ได้เลย มันเสี่ยงจะถล่มซ้ำ”
“เราถูกบีบจากทุกด้าน... หน้างานต้องระวังไม่ให้ซากพังลงมาอีก คนข้างนอกกดดันว่า ‘ทำไมช้า’ แต่ถ้าพังอีก รอดไม่เหลือ”
ฝันดีเสริมว่า กู้ภัยทุกคนมีหน้าที่ชัดเจน มีการวางแผนทุกโซน แต่บางอย่างต้องรอเวลาที่เหมาะสม การเร่งเข้าไปโดยไม่ประเมิน อาจหมายถึงการพังลงมาของโครงสร้างที่เหลือ ซึ่งอาจทำให้ผู้รอดชีวิตกลายเป็นร่างไร้วิญญาณทันที
ดราม่า K9-หมากู้ภัย กลายเป็นเป้ารุมถล่ม ทั้งที่พวกเขาคือ “ชีวิตที่มีหน้าที่ช่วยชีวิต”
หมา K9 ที่ถูกฝึกมาเพื่อดมกลิ่นร่างผู้รอดชีวิต ถูกบางกลุ่มในโลกออนไลน์ด่าว่า “ไม่ควรเสี่ยงให้หมาเข้าไป”
ฝันเด่นขอพูดแทนหมาทั้งฝูงว่า “หมาก็มีหัวใจ...แต่มันเกิดมาเพื่อช่วยคน มันดีใจเวลามันเห่าแล้วมีคนรอด ทุกชีวิตมีหน้าที่ เราก็มี หมาก็มี”
“มันคือสมบัติล้ำค่าของคนเลี้ยง ไม่มีใครปล่อยให้ ‘ลูกตัวเอง’ บาดเจ็บหรอก แต่การเข้าไปของมันคือความหวังของคนที่รออยู่”
มือเปล่ากับร่างไร้วิญญาณ... “เราขุดด้วยมือ เพราะมันคือสิ่งที่ดีที่สุด”
ภาพของ “ฝันเด่น” ที่นั่งคร่อมร่างผู้เสียชีวิต แล้วใช้มือเปล่าคุ้ยซากปูนถูกแชร์ว่อนโซเชียล หลายคนบอก “สร้างภาพ” แต่ความจริงช่างโหดร้ายกว่านั้นมาก...
“อุปกรณ์เข้าไม่ได้ ไม่มีที่ให้วางขา ผมต้องใช้มือเปล่า... ปูนกัดจนแขนแดงไปหมด แล้วร่างนั้นติดอยู่ตรงคาน ผมขอผ้าดิบเพื่อห่อร่าง แต่เขาส่งถุงซิปมาให้ ผมก็ใช้มัน เพราะผมต้องทำภารกิจต่อไปอีกหลายชั่วโมง จะเปลี่ยนชุดไม่ได้ ไม่มีเวลาพัก ไม่มีเวลาแม้แต่จะเศร้า”
ทำไมไม่ถ่ายคลิปไว้ยืนยัน? เพราะความจริงมันเจ็บเกินจะอธิบาย
“เราไม่ถ่ายเพราะเราไม่มีเวลาจะถ่าย ไม่มีใครมีมือที่สามไปกดกล้องในขณะที่สองมือกำลังขุดหาคนรอดตาย...”
ฝันดีบอกว่า การถ่ายภาพในพื้นที่จริงมีไว้เพื่อการสืบสวนและวิเคราะห์ความปลอดภัยเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อโชว์หรือเรียกคะแนน
เสียงสุดท้าย... ของคนที่อาจไม่เคยได้ยินคำว่า “ปลอดภัย”
เรื่องราวที่ “ฝันดี-ฝันเด่น” เล่าผ่านน้ำตาและหยดเลือด คือบันทึกของมนุษย์ที่ “ยอมเป็นสะพาน” ให้ผู้รอดชีวิตได้กลับบ้าน แม้ต้องแลกด้วยหัวใจที่บอบช้ำและร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล
สุดท้าย “เสียงช่วยด้วย” อาจมีจริง...หรืออาจเป็นเสียงในหัวของเราทุกคน ที่อยากให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
แต่สำหรับ “ฝันดี-ฝันเด่น” พวกเขาทำหน้าที่ของคนกู้ภัยอย่างดีที่สุดแล้ว — ใต้ซากตึกนั้น ไม่มีแค่ปูนและเหล็กเส้น แต่มีหัวใจของคนไทย ที่พร้อมจะยื่นมือช่วยกันเสมอ…ไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหนก็ตาม
#ฝันดีฝันเด่น #ดราม่ากู้ภัย #เสียงช่วยด้วย #ตึกสตงถล่ม #แผ่นดินไหว #k9