เตรียมพัฒนาท่าเรือระนองและการสร้างทางรถไฟเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร หวังเพิ่มรายได้ขนส่งสินค้าให้ประเทศ
นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผวจ.ระนอง กล่าวถึงเรื่องการพัฒนาท่าเรือระนองและการสร้างทางรถไฟเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าแบบครบวงจรว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมดูงานที่ จ.ระนอง ซึ่งท่านนายกเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจใน จ.ระนอง ที่ในอนาคตจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากมีการพัฒนาโดยท่าเรือน้ำลึกระนองที่จะเป็นจุดรองรับการขนส่งสินค้าทางทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย ที่มีกลุ่มบิมสเทคซึ่งจะเป็นลูกค้านำเรือสินค้าเข้ามาทาง จ.ระนอง แทนที่จะต้องอ้อมไปทางอ่าวไทย
ทั้งนี้ กลุ่มบิมสเทค ประกอบไปด้วย ประเทศอินเดีย บังคลาเทศ ศรีลังกา เมียนมา ปากีสถานและอีกหลายประเทศ ทั้งนี้ยังรวมไปถึงประเทศทางฝั่งยุโรปและแอฟริกา ที่นำเรือขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ โดยใช้ท่าเรือน้ำลึกระนอง ในการขนส่งสินค้าไปยังประเทศอื่นที่เป็นลูกค้า
โดยทาง จ.ระนอง จะต้องเร่งการก่อสร้างขยายท่าเรือเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับเรือสินค้าที่ในอนาคตจะเข้ามาเป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้นทราบว่าหากมีการซ่อมแซมหรือเพิ่มเติมท่าเทียบเรือ และปรับเปลี่ยนแนวยางรองรับการกันกระแทกท่าเทียบเรือในส่วนที่ 1 จะสามารถรองรับเรือได้จากเดิมรับได้ 500 ตันกรอส เพิ่มเป็น 12,000 เดทเวทตัน ส่วนทางเทียบเรือในส่วนที่ 2 จากเดิมรับได้ 12,000 เดทเวทตัน จะเพิ่มเป็น 20,000 เดทเวทตัน หากเป็นงานซ่อมในเบื้องต้นใช้งบประมาณ 43.9 ล้านบาท
ส่วนอีกเรื่องที่จะสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับ จ.ระนองคือ รถไฟรางคู่ที่จะมีต้นทางจาก จ.ชุมพร มาที่ท่าเรือระนอง ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีมีการอนุมัติการก่อสร้างไปแล้ว จะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2563 นี้ ซึ่งหากว่าทั้ง 2 ส่วนนี้ ทั้งเรื่องการขยายท่าเรือเพื่อรองเรือสินค้าจำนวนมาก ขยายที่ตั้งสำหรับวางตู้สินค้า และมีรถไฟที่วิ่งตรงมาที่ท่าเรือเพื่อรองรับสินค้าหรือตู้คอนเทนเนอร์ เข้าสู่ส่วนกลางวิ่งตรงไปท่าเรือคลองเตย เพื่อออกไปยังประเทศอื่น จะเป็นการสร้างรายได้ให้กับ จ.ระนอง พี่น้องชาวระนอง และสร้างรายได้จำนวนมากให้กับประเทศไทยอย่างแน่นอน