เคยออกตัวว่ายังไม่พร้อมทำธุรกิจสำหรับพระเอกหนุ่ม "เจมส์ มาร์" ที่ล่าสุดมาจับธุรกิจ Slim Concept จัดงานภายใต้ชื่อ “Future s” พร้อมเปิดตัวเป็นพรีเซนเตอร์ งานนี้เลยสอบถามถึงเรื่องนี้ได้ความว่า
ตอนแรกเราเคยบอกจะไม่ทำธุรกิจ ?
ผมเคยรู้สึกว่าการทำธุรกิจเป็นสิ่งที่ยาก เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้วก่อนที่จะเริ่มเรียนปริญญาโท พอเริ่มเรียน พอเริ่มโตขึ้น ตอนนี้ผมก็ 25 แล้ว ผมรู้จักหลายท่านและรู้ว่าการทำธุรกิจมันมีมากกว่าแค่การเข้าออฟฟิศ มากกว่าการจ้างพนักงานมาทำงาน มันมีธุรกิจแบบใหม่ที่เป็นการลงทุน เราไม่ต้องทำอะไร เราลงทุน เราให้เงินออกผลให้เรา ถ้าท่านใดที่มีเงินคิดอยากจะฝากแบงก์อยู่แล้ว หรืออยากจะลงทุน ถ้าเกิดเราเอามาลงทุนในสถาบันหรือธุรกิจที่พร้อมจะเติบโตไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว มันยิ่งทำให้ผลพลอยได้ของเราดีและในเวลาเดียวกันเราก็สามารถดูแลลูกค้าและช่วยเหลือลูกค้าด้วย ผมก็เลยรู้สึกว่าน่าสนใจและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ครับ ทุกคนต้องเก็บเงินอยู่แล้ว ก็แทนที่เราจะเอาไปเก็บแบงก์ เราก็เอามาเก็บกับธุรกิจที่พร้อมจะโต มันน่าจะเป็นอะไรที่ดีสำหรับเรา คุยกันไปคุยกันมาก็เลยตัดสินใจครับ
ทำไมเราถึงเริ่มต้นด้วยธุรกิจนี้ ?
ผมว่าเทรนด์ของการดูแลสุขภาพ ดูแลผิวหน้า ความสวยความงามมาแรงมาก และมีเยอะมากด้วยนะครับ ที่ตัดสินใจมาสลิมคอนเซปต์เพราะนวัตกรรมของเขาดี สามารถดูแลเราได้จริงๆ และมีความปลอดภัยสูง และดูจากอีเวนต์ที่เขาออกเรื่อยๆ คนมาเยอะ ลูกค้ามาเยอะ ก็รู้สึกดีครับ
อย่างนี้ต้องไปเรียนหลักสูตรอะไรเพิ่มจากเขาด้วยไหม ?
สิ่งที่สำคัญที่สุดของธุรกิจนี้คือการดูแลลูกค้า หลักสูตรที่มีอยู่แล้วมันดีมากอยู่แล้วครับ เราก็แค่ทำตามต่อไป ผมก็ทำหน้าที่กระจายข่าว กระจายความรู้ให้คนมาลงทุนหรือให้คนหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น
เราลงทุนไปกี่หลัก ?
จริงๆ เขามีมาตรฐานของเขาอยู่ ก็น่าจะประมาณ 7 หลักครับ เขาจะให้ลงทุนประมาณ 7 กว่าครับ แล้วแต่เราเลือกว่าเราจะลงมากน้อยแค่ไหน สามารถเลือกได้ครับ เราคิดว่าเลือกดีที่สุดแล้วครับ อย่างที่บอกว่าถ้าใครคิดจะลงทุนหรือฝากเงินอยู่แล้ว ก็แทนที่จะฝากเงินกับแบงก์ แต่มาลงทุนในธุรกิจที่กำลังจะพลิกขึ้น ก็เป็นอะไรที่น่าจะเสี่ยง และเป็นความเสี่ยงที่เห็นผล เพราะแฟรนไชส์ที่นี่ก็เยอะมาก เขาทำมาหลายปีแล้ว
มีแฟนคลับชาวต่างชาติบินมาเชียร์เราอยู่บ่อยๆ ด้วย ?
ก็ไม่ทุกอีเวนต์ครับ บางท่านมาจากไต้หวัน จากจีน จากฟิลิปปินส์ บางท่านเขามาเที่ยวอยู่แล้ว และช่วงเวลาที่เขามาเที่ยวเขาก็มาเจอเรา
เราติดต่อกับแฟนคลับต่างประเทศตลอดใช่ไหม ?
เขาจะมาหาเราบ่อยๆ บางทีเราก็ดูในไอจีที่มีกำลังใจดีๆ ให้เราที่มาจากบางท่านที่เราไม่เคยเจอมาก่อน เรารู้สึกดีใจนะครับที่ละครไทยไปถึงต่างประเทศ คนต่างประเทศตามดาราไทยหลายท่านมากไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ก็ถ้ามีโอกาสก็อยากเจอทุกคนให้ได้มากที่สุดครับ
มีแฟนคลับที่ตั้งใจมาเพื่อจะมาหาเราเลยอย่างเดียวบ้างไหม ?
บางท่านก็บอกว่าเขามาเชียร์ครับ แต่พอมาแล้วผมก็บอกว่าอย่าลืมเที่ยวด้วยนะ ไหนๆ มาแล้วก็ไปเที่ยวด้วย บางท่านมาแค่ 1-2 วันเพื่อที่จะมางานอีเวนต์ก็มีครับ เราก็รู้สึกอยากตอบแทนเขาให้ได้มากที่สุด
เราจำแฟนคลับที่เขามาหาเราบ่อยๆ ได้ไหม ?
จำหน้าได้ครับ บางทีไปต่างประเทศ อย่างไปฮ่องกง บางคนที่ได้ดูละครเรา เขาก็มาทักเราเหมือนกัน
เรามีเรียนภาษาเพื่อจะได้สื่อสารกับเขาได้ง่ายขึ้นบ้างหรือเปล่า ?
บางทีถ้าเจอแฟนคลับฮ่องกงก็คุยกันได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่คุยภาษาอังกฤษ แต่แฟนคลับผมเก่งนะ พูดภาษาจีนได้ พูดภาษาเยอรมันได้ พูดได้เยอะครับ บางทีเขายังเป็นล่ามให้เราเลยครับ ก็เป็นเรื่องราวที่น่ารักเวลาเราอยู่กับแฟนคลับ ก็ขอบคุณมากๆ ครับ
แฟนๆ ก็ยังเหนียวแน่นกับเรานานหลายปี ?
ผมจะคิดเสมอครับว่าอย่าไปคิดว่าเขาเป็นแค่แฟนคลับ เป็นแค่คนที่มาคอยติดตามเรา ผมให้ค่าทุกคนครับ เขามาให้กำลังใจเรา ก็เหมือนเรามีพี่ๆ น้องๆ มาให้กำลังใจ เราก็ต้องให้เขากลับเช่นกัน