จากกรณีโรคหัดระบาดหนักในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยเฉพาะที่ปัตตานี ได้คร่าชีวิตเด็กไปแล้ว 2 ราย มีป่วย 400 กว่าราย ในจำนวนนี้มีที่รักษาอยู่ใน รพ.แต่ละพื้นที่รวมเกือบ 70 ราย มีผู้ป่วยเข้า-ออก รพ.อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดวันที่ 4 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ระบุว่า มีเด็กเสียชีวิตจากโรคหัดในพื้นที่ จ.ปัตตานีเพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 3 แล้ว เป็นเพศหญิง อายุ 9 เดือน น้ำหนัก 5 กก. ที่อยู่ ม.3 ต.ระแว้ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ผู้ป่วย เริ่มป่วยวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา มีอาการเป็นไข้ตัวร้อน มีผื่นขึ้นตามลำตัว และวันที่ 2 พ.ย. ได้นำไปรักษาที่ รพ.อำเภอยะรัง โดยผู้ป่วยมีอาการหายใจเหนื่อย หน้าอกบุ๋ม ผู้ป่วยหายใจเหนื่อยมากขึ้น ประกอบกับมีโรคแทรกซ้อนปอดบวม แพทย์ รพ.อำเภอยะรัง จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ปัตตานี แต่เนื่องจากผู้ป่วยอาการหนัก จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามประวัติผู้ป่วย ปรากฏว่า มีประวัติได้รับวัคซีนแรกคลอด แต่ไม่เคยได้รับวัคซีนโรคหัด เนื่องจากวันที่กำหนดรับวัคซีน โรคหัดนั้น เด็กมีอาการไข้ จึงยังไม่ได้รับ และเสียชีวิตในที่สุด สำหรับผู้เสียชีวิตครั้งนี้รวมเป็น 3 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เป็นคนพื้นที่ตำบลเดียวกันคือ ต.ระแว้ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ขณะนี้ทางนายไกรศร วิศิษฐ์วงศ์ ผวจ.ปัตตานี ได้กำชับให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานีต้องปรับแผนการตอบโต้สถานการณ์โรคหัดใหม่ ก่อนหน้าที่ใช้มาตรการ 3-2-3 ห้ามกระจายเชื้อ ห้ามติด จนท.และผู้ป่วยห้ามตาย นั้น แต่ปรากฏว่ามีผู้ป่วยตายเพิ่มจนได้ จึงให้มีการทบทวนมาตรการทั้งหมดเพื่อจะป้องกันไม่ให้เกิดการเสียชีวิตขึ้นอีก