เรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ของ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ได้มีการบอกเล่า บันทึกสืบต่อกันมาอย่างยาวนานแล้ว ดังตัวอย่างเรื่องต่างๆ ที่จะนำมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้
เริ่มจากเหตุการณ์ จ่าอากาศวิญญู สิงห์โตแก้ว ทหารอากาศประจำการฝ่ายขนส่ง แผนกบริการการบิน จ.นครราชสีมา ถูกตำรวจกล่าวหาว่าเป็นโจรปล้นรถโดยสารประจำทาง ใช้อาวุธปืนยิงจ่าและเพื่อน
เมื่อจ่ารู้ชะตากรรม ตอนนั้นจึงคิดถึง "หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ" ทันที เพราะตนเองเคยไปกราบท่านที่วัดและได้ขอให้ท่านฝังตะกรุดโทนทองคำไว้ที่ท้องแขน 1 ดอก กับห้อยเหรียญรูปเหมือนของท่านอยู่ที่คอ 1 เหรียญ จ่าได้แต่ร่ำร้องเรียกหา "หลวงพ่อคูณ" อยู่ในใจขออย่าได้มีอันตรายจนถึงชีวิตเลย เพราะตนก็ไม่เคยก่อกรรมทำชั่วใดๆ
จ่ารู้ตัวว่าถูกยิง แต่ไม่รู้ว่ากี่นัด ไม่รู้ว่าเข้าไปถึงไหนอย่างไรเพราะชาไปทั้งตัว เมื่อได้ยินเสียงปืนยิงทีละคนก็คิดว่าควรนอนนิ่งๆ อยู่อย่างนี้เผื่อพวกมันจะคิดว่าตายไปแล้วจะได้ไม่มายิงซ้ำอีก ตำรวจไม่ได้ให้ความสนใจกับจ่าวิญญูเพราะเข้าใจว่าทั้งหมดคงเป็นศพไปแล้ว จากนั้น หัวหน้ากลุ่มสั่งให้ลากศพทุกคนทิ้งลงไปในคูน้ำข้างถนน
จ่าวิญญูนอนแช่น้ำแกล้งตายอยู่ตรงนั้นจนแน่ใจว่ามีคนมามุงดู จ่าวิญญูจึงตัดสินใจลุกขึ้นตะโกน "ผมยังไม่ตาย ผมยังไม่ตาย" ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างตกอกตกใจไปด้วย เพราะสภาพของจ่า น่าจะเป็นคนที่ตายไปแล้วจริงๆ แต่เสื้อผ้าที่ขาดเพราะรอยกระสุน ก็มิได้ทำให้หนังของเขาขาดไปด้วย ส่วนเลือด ก็มิใช่เลือดของจ่าวิญญู แต่เป็นเลือดของเพื่อนที่ไปด้วยกัน แพทย์ตรวจร่างกายแล้วปรากฏว่าไม่มีบาดแผลจากคมกระสุนเลยแม้แต่นัดเดียว นอกจากรอยบวมปูดแดงเป็นจ้ำใหญ่ๆ ขึ้นมามากถึง 16 รอยด้วยกัน
นี่เป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งจากหนังสือ “เหตุเกิด ณ วัดบ้านไร่” ที่รวบรวม เรื่องราวปาฏิหารย์ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่ลูกศิษย์ลูกผู้ศรัทธาได้รวบรวมไว้
อีกเหตุการณ์ คือการรอดชีวิตของสาวโรงงานเคเดอร์ที่ผลิตตุ๊กตาส่งนอก พุทธมณฑลสาย4 จ.นครปฐม เมื่อปี พ.ศ.2536 โดย1ในบรรดาผู้ที่รอดชีวิต คือ หญิงคนหนึ่งอยู่ในวัย20 กว่าๆ เธอเป็นพนักงานเย็บตุ๊กตา ตั้งครรภ์ได้แปดเดือน เธอเล่าว่าในขณะที่เธอกำลังเย็บตุ๊กตาอยู่นั้น เธอได้ยินเสียงเพื่อนๆ ร้องตะโกนว่า “ไฟไหม้” จากนั้นก็แตกตื่นวิ่งหนีตายกันให้อลหม่าน เธอซึ่งอยู่ในสภาพท้องแก่ใกล้คลอด วิ่งไปได้นิดหน่อยก็ล้มลง เนื่องจากสำลักควันไฟที่พวยพุ่งขึ้นมาจากชั้นล่าง และเข้ามาทางทิศเหนือจนหายใจไม่ออก
แต่เธอก็ยังอธิษฐานขอให้หลวงพ่อคูณช่วยเธอด้วย ให้หลวงพ่อคูณ ช่วยเธอกับลูกน้อยในครรภ์ของเธอด้วย แล้วเธอก็ตัดสินใจขึ้นคร่อมราวบันได เพื่อรูดตัวลงมาฝ่าเปลวเพลิงและกลุ่มควันไฟที่เธอก็มองอะไรไม่เห็นอีกแล้ว เธอมารู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่นอนอยู่บนเตียงพยาบาล และที่คอของเธอมีสร้อยเหรียญหลวงพ่อคูณคล้องอยู่ และครั้งนั้นสาวโรงงานรายนี้ก็เชื่อว่า เพราะหลวงพ่อคูณช่วยคุ้มครองจนปลอดภัย
อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อ นายทอง อ้อจันทึก ที่ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อคูณ ซึ่งหลวงพ่อคูณ ได้เมตตาฝังตะกรุดพร้อมปลุกเสก ตะกรุดโทนที่ทำมาจากฝาบาตร ความยาวประมาณ 5 นิ้วให้แก่นายทอง ยิงแทงไม่เข้า ก่อนที่ศิษย์วัดรายนี้ จะผันตัวเองไปเป็นโจรปล้นฆ่าผู้คน ร่วมกับเสือจีระ ทำให้ทางการต้องการตัวเป็นอย่างมาก จึงให้หลวงพ่อคูณไปช่วยปราบ และช่วยกล่อม แต่ในจังหวะเข้าล้อมนั้น แม้เสือทองจะยอมศิโรราบ แต่เสือจีระกลับหันปลายกระบอกปืนมายังหลวงพ่อคูณ เพื่อลั่นไกใส่ แต่ปรากฎว่ากระสุนด้านยิงไม่ออก เสือจีระ เตรียมจะลั่นไกอีกครั้ง แต่ก็ถูกหลวงพ่อ จับเอาไว้ได้ ทำให้ชื่อเสียงด้านพุทธคุณ สิ่งของปลุกเสกของหลวงพ่อคุณเริ่ม เป็นที่รู้จักตามมา
เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวปาฏิหารย์จากหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่ถูกบันทึกในชีวประวัติ ที่บอกเล่าเรื่องราวความเชื่อความศักดิ์สิทธิ์ นำมาซึ่งความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งไทยและต่างชาติ รวมไปถึงบรรดานักการเมืองมากมายทั้งหลาย ที่มักจะเข้ามากราบไหว้ให้เคาะหัว ด้วยความหวังอยากชนะการเลือกตั้ง แต่หลวงพ่อคูณจะเตือนสติทุกคน ว่าหากได้รับเลือกต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชนและประเทศชาติ และให้หมั่นทำแต่ความดี
ทั้งนี้แม้หลวงพ่อคูณจะมรณภาพไปแล้ว แต่สิ่งที่ทิ้งไว้ให้ศิษยานุศิษย์ ไม่ใช่แค่วัตถุมงคล แต่เป็นคำสอน และธรรมะที่พุทธศานิกชน สามารถนำไปเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้