เว็บไซต์ข่าวฟรีชื่อดังของสหรัฐฯ อย่าง บัซฟีด (BuzzFeed) และฮัฟฟ์โพสต์ (HuffPodst) ทำการเลย์ออฟพนักงานเพิ่มเติม ส่งสัญญาณเตือนว่าโมเดลธุรกิจในกลุ่มประเภทที่ต้องพึ่งรายได้จากโฆษณาเป็นหลักกำลังได้รับผลกระทบ
หลังจากประกาศปลดพนักงานครั้งแรกไป 100 ตำแหน่งจากพนักงานทั้งหมด 1,700 คนก่อนหน้านี้ ล่าสุด บัซฟีด ประกาศภายในองค์กรว่าจะลดพนักงานเพิ่มเติมอีก 200 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ฮัฟฟ์โพสต์ ได้ลดนักข่าวไปร้อยละ 10 หรือราว 20 คน โดยทั้งสองสื่อไม่ได้ให้คำอธิบายชี้แจงถึงการลดพนักงานในครั้งนี้
ริค เอ็ดมอนส์ นักวิเคราะห์ธุรกิจด้านสื่อจากสถาบันพอยน์เตอร์ (Poynter Institute) กล่าวว่า “บริษัทเหล่านี้เริ่มต้นด้วยแนวคิดที่ว่าจะพยายามรวบรวมผู้ใช้งานจำนวนมาก แล้วมาขายโฆษณาให้คนเหล่านั้น แต่ กูเกิลและเฟซบุ๊กมีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตขึ้นมาก ๆ และพวกเขาก็รวบรวมข้อมูลและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเก่งกว่าด้วย”
ด้านอีมาร์เก็ตเทียร์ คาดการณ์ไว้ว่ากูเกิลและเฟซบุ๊กจะมีรายได้จากโฆษณาถึงร้อยละ 57.7 ในปี 2561 เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2554 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 45.5
เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา บัซฟีด เพิ่มทางเลือกสมัครสมาชิก 5 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้ได้รับจดหมายข่าวและอ่านเนื้อหาเพิ่มเติม แต่เว็บไซต์หลักยังคงฟรีอยู่ ซึ่งเอ็ดมอนส์กล่าวว่า “ผมคิดว่ามันยากเวลาที่คนเริ่มชินกับของฟรี” และกล่าวว่าทั้งบัซฟี้ดและฮัฟฟ์โพสต์มีนักข่าวก็จริง แต่ค่อนข้างมีเนื้อหาเบา ๆ ผสมอยู่ด้วยจึงไม่คิดว่าคนจะยอมเสียค่าสมาชิก
เอ็ดมอนส์ เชื่อว่า บัซฟีดและฮัฟฟ์โพสต์ ไม่ได้เสี่ยงว่าจะหายไปเลย แต่สถานะของบริษัทก็ไม่ดีนักในสายตาของนักลงทุนด้านเทคที่คุ้นชินกับการเติบโตรายปีในอัตราเลขสองหลักอยู่เป็นประจำ