"ธนาธร" ระบุการเลือกตั้งเป็นอำนาจเดียวที่ประชาชนมีใช้พิพากษาเผด็จการ ชี้หากฝ่ายประชาชนพ่ายแพ้ ประเทศจะล้าหลังไปอีก 8 ปี
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 มี.ค. ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จ.เชียงใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นำทีมกรรมการบริหารพรรค ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ปราศรัยใหญ่เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ทั้ง 9 เขตอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมกว่า 2,000 คน เต็มบริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตรย์
นายธนาธร กล่าวขอบคุณทุกคนที่มาร่วมฟังการปราศรัยว่า สถิติที่ประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยพรรคอนาคตใหม่ที่จ.ปัตตานีทำไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน ถูกทำลายลงด้วยชาวเชียงใหม่ในวันนี้ และนี่คือปรากฏการณ์ของประชาชนที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย มาโดยไม่มีการจัดตั้ง ต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวเชียงใหม่ทุกคน
นายธนาธร กล่าวว่า ในอดีตมีการเสนอ พ.ร.บ.เชียงใหม่มหานครเข้าสภาฯ หากแต่เกิดรัฐประหารเสียก่อน กฎหมายฉบับนี้จึงไม่ได้บังคับใช้ น่าเสียดายที่คนเชียงใหม่ไม่มีอำนาจในการจัดการท้องถิ่นตัวเอง เราเชื่อว่าเชียงใหม่มีศักยภาพและสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้ พรรคอนาคตใหม่มีความมุ่งหวังและต้องการยุติอำนาจรวมศูนย์และคืนอำนาจสู่ท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนได้พัฒนาศักยภาพท้องถิ่นตัวเอง แต่ความมุ่งหวังนี้จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อ สามารถหยุดยั้งการสืบทอดอำนา คสช. ได้ ดังนั้น ในวันที่ 24 มี.ค. นี้ หากไม่ออกไปเลือกตั้ง คสช.จะสืบทอดอำนาจต่ออีก 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ได้แต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพื่อทำหน้าที่ให้เป็นประธานคัดสรร ส.ว.250 คน ให้มาโหวตเลือกนาก ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จะเรียกว่ายุคนี้เป็นยุคทหารครองเมืองคงไม่ผิด ออกกฎหมายให้สิทธิเหนือประชาชน ใช้ภาษีประชาชนแต่กดขี่ประชาชนทุกวิถีทาง ต้องการอยู่ต่อเพื่อผลประโยชน์ตนเองโดยไม่สนใจปากท้อง ความเป็นอยู่ของประชาชน วงจรนี้และยุทธศาสตร์ 20 ปี คือ ความต้องการสืบทอดอำนาจ ดังนั้น ประชาชนต้องออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การเลือกตั้งเป็นอำนาจเดียวที่ประชาชนมีและใช้พิพากษาเผด็จการ
"หากการเลือกตั้งในครั้งนี้ฝ่ายประชาชนพ่ายแพ้ ประเทศจะล้าหลังไปอีก 8 ปี ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องกล้าพูดเรื่องการเมืองในชีวิตประจำวัน เห็นความสำคัญของการเมือง เลิกเกลียด กลัว ไม่อยากยุ่ง เพราะการเมืองนั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราเลย ที่ผ่านมา พวกเขาพยายามหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความกลัวไว้ในใจของเรา เราต้องอย่ายอมให้เมล็ดพันธุ์นั้นเติบโตในใจเราได้ พวกเขาต่างหากที่ต้องกลัวพวกเรา พวกเขาซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยที่หวงแหนอำนาจ พยายามรักษาความมั่งคั่งต่างหากที่ต้องกลัวพวกเรา ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะต้องทวงอำนาจคืนมา ถึงเวลาแล้วที่เราจะไม่ยอมจำนนต่อเผด็จการอีกต่อไป" นายธนาธร กล่าว