สุขยิ่งกว่าสุข ! "แอฟ" ปฏิญาณจะจูงลูกสาวเที่ยวจนบั้นปลายชีวิต

ต้องระวังพวกโซเชียลต่างๆ ด้วยไหม ?
ใช่ค่ะ ไม่ปล่อยให้ดูเอง อย่างไอจีถ้าเขาเล่นเอง หยิบมือถือไปเปิดดูเอง บางทีเราไม่ได้ฟอลโลว์ใครก็แล้วแต่ มันจะมีหน้ากลางๆ ซึ่งมันอาจจะมีภาพอะไรที่ไม่เหมาะสมกับเด็กเล็กได้ จะเป็นสิ่งที่สอนเขาไว้ตลอดเลยว่ามือถือคุณแม่ห้ามหยิบไปเล่นเอง เขาก็จะรู้ ไม่ใช่อยู่ๆ จะหยิบไปเล่นเองได้ เขาต้องขอก่อน

แสดงว่าต้องเคยมีกรณีหยิบไปเล่นเอง ?
ต้องเคยอยู่แล้ว เขาก็ต้องทราบว่าอะไรควรหรือไม่ควร พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นก่อนเราถึงบอกเขาว่าไม่ได้นะ เพราะมันไม่ใช่ของเล่น ฉะนั้นห้ามเอาไปเล่นเอง ถ้าเอาไปถ่ายอะไร แอฟก็เปิดโหมดแอร์เพลนโหมดไว้เลย ถ้าเขาอยากถ่ายรูป



จะซื้อสมาร์ทโฟนให้ตอนอายุเท่าไหร่ ?
กลัวมากเลย กลัวคนอื่นซื้อให้ (หัวเราะ) แต่แอฟยังไม่ให้ใช้ ซึ่งแอฟเองก็ไม่แน่ใจว่าเด็กสมัยนี้เขาเริ่มใช้กันกี่ขวบ แน่นอนความเป็นแม่ก็อยากจะให้ลูกใช้ให้ช้าที่สุด เพราะรู้สึกว่ามันก็คงไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร



ล่าสุดมีคนแชร์ภาพที่แอฟพูดถึงความรักครั้งใหม่ แล้วเอารูปเราไปใช้แล้วเอาข้อความเกี่ยวกับความรักมาใส่ทั้งที่เราไม่ได้เป็นคนพูด กลัวคนเข้าใจผิดไหม ?
อยู่ตรงนี้ก็คงต้องยอมรับมัน ถ้าไม่ทำก็จะดีกว่า มันไม่ใช่คำพูดแอฟจริงๆ แต่ถ้ามันเป็นบทสัมภาษณ์ของแอฟจริงๆ ก็พร้อมยอมรับผิดชอบทุกๆ คำพูดที่ได้พูดออกไป แอฟรู้สึกว่าแอฟเองก็มีเหตุผลในทุกๆ ความเห็นที่ออกไป ถ้าไม่เข้าใจหรือเห็นต่างยังไงก็พร้อมยอมรับทุกความคิดเห็น

เหมือนเป็นคำที่ค่อนข้างตัดพ้อความรักด้วย ?
ถ้าเป็นคำพูดของแอฟจริงๆ ส่วนใหญ่แอฟก็ระมัดระวังคำพูดอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว ถ้ายังกระทบกระเทือนจิตใจใครก็ต้องขอโทษ แต่แอฟคิดว่าทุกๆ ประโยคที่ออกไปแอฟไม่เคยพาดพิงถึงใคร แน่นอนตลอดมาพยายามหลีกเลี่ยงที่สุดด้วยซ้ำ แม้ว่าจะโดนโยงแค่ไหนก็พยายามจะหลีกเลี่ยง คือไม่ใช่อะไรนะ เราสามารถจะรับผิดชอบได้เฉพาะการกระทำและรับผิดชอบได้แค่คำพูดของแอฟเท่านั้น เลยไม่อยากออกความเห็นเกี่ยวกับคนอื่น



เราอยากจะบอกคนที่ทำไหม ?
ถึงจะเป็นคำพูดของแอฟเองแอฟก็ไม่ทราบเรื่องเลย ถ้าเกิดว่ามันไม่ได้ไปในทางสร้างสรรค์หรือว่ามันไม่ใช่คำพูดของแอฟ ถ้าจะกรุณาไม่ทำก็ดีค่ะ แอฟก็รู้ว่าเราไม่มีสิทธิ์บังคับใคร เอาเป็นว่าถ้าแฟนคลับเข้าใจนะคะ

กับคำพูดของเราเองที่บอกว่ายังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นมีรักครั้งใหม่ ?
ก็ต้องอัพเดตกันเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม ความคิดเห็นของแอฟตอนนี้ก็คือเราไม่ได้ปฎิเสธ และไม่ได้รู้สึก ถามว่าเข็ดไหม ไม่เข็ด คนเรามันมีได้ทั้งประสบการณ์ด้านดีและไม่ดี ทุกอย่างถือเป็นประสบการณ์และบทเรียนชีวิต ฉะนั้นครั้งต่อๆไปมันก็ไม่ใช่ว่าจะลงเอยแบบนี้ หรือมันอาจจะซ้ำรอยเดิมอีกก็ได้ อันนี้มันเป็นเรื่องของการตัดสินใจและโชคชะตา มันไม่มีอะไรไปควบคุมได้ แอฟก็เลยรู้สึกว่ายังไงแอฟไม่ได้จะปิดประตูเรื่องนั้น แต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้เท่านั้นเอง



เริ่มที่จะมีผู้กล้าเข้ามาหรือยัง ?
ต้องกล้าเลยใช่ไหม (หัวเราะ) ไม่ต้องกล้ามากก็ได้ เดี๋ยวจะไม่มีใครกล้าเข้ามาเลย

คิดไว้บ้างไหมว่าคนต่อไปจะเป็นยังไง ?
ไม่กล้าคิดเลย คือมันไม่ได้อยู่ในความสนใจตอนนี้ ภายใน1-2ปีนี้ เรื่องตื่นเต้นสำหรับแอฟยังเป็นเรื่องของการดูแลลูก แล้วก็เรื่องงานว่าแอฟจะกลับมาเมื่อไหร่ ยังไงในรูปแบบไหนยังไงถึงจะดี อันนี้เป็นสิ่งที่โฟกัส



ตอนนี้มีเข้ามาบ้างไหม ?
ไม่มีเลย

ล่าสุดเห็นปีใหม่เชียร์ให้แม่ดูหนุ่มๆ ?
เขาก็ขำๆ ของเขา พฤติกรรมพวกนี้มันทำให้แอฟรู้สึกสบายใจว่าลูกเขาไม่ได้ดราม่าอะไรพวกนี้ เขาก็โอเพ่นจริงๆ เขาอาจจะเห็นคุณตาคุณยายมีตั้ง 2 คู่ที่เขาสวีตกันเหลือเกิน ลูกก็อาจจะเห็นภาพอะไรแบบนั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าเรื่องจริงเกิดขึ้นจะเป็นยังไง ตอนนี้เขาอารมณ์เหมือนเพื่อนเหมือนพี่สาวว่ามามี๊ไม่มีเหรอ หนูยังมีแฟนแล้วเลย แต่ก็เด็ก 4 ขวบ ก็ขำๆ ไม่มีอะไร แค่เล่าให้ฟังตรงนี้ว่าแม่รู้สึกสบายใจว่าลูกเขาไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกหรือเรื่องไม่ดี ก็รู้สึกว่าลูกมีสุขภาพจิตที่ดี มีสภาพจิตใจดี แค่นี้แม่ก็แฮปปี้แล้ว คือถ้าลูกไม่ทิ้งแม่ไปไหนแม่ไม่ต้องมีใครก็ได้