จากที่คบกันฉันเพื่อน เพียงแค่สถานะนี้ก็เข้าใจดีคงไม่มีวันข้ามเส้นเลื่อนขั้นมาเป็นอย่างอื่นได้ แต่ด้วยความผูกพันดูแลซึ่งกันและกัน เรียนรู้ใจกัน ทำให้ความสัมพันธ์แปรเปลี่ยนจากคนที่ไม่กล้าสนิท กลายเป็นผู้พิชิตใจเธอ... "แอน จักรพงษ์" ผู้หญิงข้ามเพศ เจ้าแม่ภารตะพันล้าน ออกมาบรรยายเรื่องรัก (ที่ไม่ลับ) พร้อมเปิดตัวแฟนหนุ่มตาน้ำข้าว ที่รักกันด้วยใจ ไม่สนรูปลักษณ์เก่าเคยเป็นอะไร มุ่งมั่นร่วมสร้างฝันสู่อนาคตด้วยกัน ...
งานนี้มีแต่กรี๊ดกับกรี๊ด สาวน้อยสาวใหญ่ต้องแอบอิจฉาความรักและความสมบูรณ์แบบของเธอ “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ผู้บริหารคนเก่งแห่ง บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) เรียกได้ว่าเธอเป็นสาวข้ามเพศที่รวยหรูที่สุดในอาเซียน จนยกฉายาสุดไฉไลว่าเป็น “เจ้าแม่ภารตะพันล้าน” ไปแล้ว โดยเธอเป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลก โอ้ว !! ทั้งสวย รวย และ เก่ง ศูนย์รวมความเพอร์เฟกต์อยู่ในคนๆ เดียว ว้าววว ...
ล่าสุด ทำเอาชาวโซเชียลหูตาร้อนผ่าวๆ เมื่อคุณแอนได้โพสต์ภาพหนุ่มต่างชาติหนาวเคราสุดเข้มพร้อมข้อความแสนโรแมนติกที่เอ่ยถึงตัวเธอและแฟนหนุ่มชาวอังกฤษ ทำเอาผู้อ่านมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้ากันไปหมดจนต้องเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจและยินดีกับความรักของเธอ
โดยเธอได้ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดไว้ประมาณว่า เธอและแฟนเจอกันครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน ในฐานะเพื่อน คุยกันแต่เรื่องงาน ได้บอกเขาไปว่า
"อย่าตกใจนะ..ถ้าจะพูดว่าฉันคือผู้หญิงที่เกิดผิดร่างหรือที่เรียกว่าผู้หญิงข้ามเพศ (Trans Woman)" เขาก็อึ้งไปพักหนึ่ง แล้วตอบกลับว่า "ต่อไปนี้ผมก็ต้องทรีตคุณเหมือนผู้หญิงน่ะสิ" 3 ปี ผ่านไป เราก็มีโอกาสได้เจอกันอีก เขาก็เข้ามาทักจึงรู้ว่าเขาลาออกจากที่เดิมและเลิกกับแฟนแล้ว หลังจากนั้นระหว่างทางความใกล้ชิดคืบคลาน เขาก็บอกว่า "รู้สึกกับดิฉันมากกว่าเพื่อนไปแล้ว"
ซึ่งความฝันของสาวข้ามเพศทุกคน คงภูมิใจเป็นที่สุด เมื่อได้รับการดูแลจากผู้ชายแท้ๆ สักคน โดยสาวแอนได้เล่าความปลื้มใจในตัวคนรักเอาไว้ว่า
‘รับแอนได้ไหมเฮียเวลาเห็นภาพสมัยเก่าตั้งแต่ตอนเป็นผู้ชายในหนังสือประวัติชีวิต?’ ดิฉันถาม ‘ เราก็เห็นกันมาตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้ว...อดีตไม่สำคัญปัจจุบันคุณสวยขึ้นตั้งเยอะ....มีแต่ผมต้องถามว่าคุณรับผมได้ไหมที่ต้นทุนชีวิตผมไม่ได้มีเท่าคุณเลย
ผมเคยมีความรู้สึกหลายครั้งว่าผมดีไม่พอด้วยซ้ำ คุณเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โต มีแต่ผมต้องขอบคุณที่คุณให้โอกาสผมเข้ามาในชีวิต’ เฮียตอบแบบนิ่งๆ แล้วมุ่งแต่อ่านหนังสือ ข้ามเพศพันล้าน (Call me Anne) ซึ่งเป็นประวัติชีวิตของดิฉัน
‘ ผมคบคุณเพราะคุณค่าทางความคิด ผมชอบคนมีสมอง เพราะมันคือการใช้ชีวิตด้วยกันระยะยาว’ เฮียเสริม ‘ขอบคุณนะที่ทำเพื่อคนอื่นได้มากขนาดนี้ ทั้งมูลนิธิของคุณและแรงบันดาลใจจากประวัติชีวิตคุณ ทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ว่าชีวิตต้องต่อสู้แล้วจะได้มาซึ่งรางวัลที่ล้ำค่าในที่สุด’ ดิฉันเลยสรุป ‘ใช่ค่ะเฮียไม่สู้ก็ไม่ชนะ’
ดูเหมือนว่าคุณฝรั่งตัวสูงจะเข้าใจความหมายของคำว่า Everything is Possible ทุกอย่างเป็นไปได้ หากชีวิตของเรานั้นตั้งใจทุ่มเท....ถ้าเฮียไม่ทุ่มเทก็จะไม่มีคำว่า ‘เรา’ ค่ะ (ดิฉันแอบแทรกความคิดคติให้อนาคตสามีไปในตัว)
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Anne JKN