ออกมาเปิดใจชัดๆ ถึงเรื่องความรักในอดีต ซึ่งเป็นรักแรก รักเดียว และเป็นรักครั้งสุดท้ายในชีวิตของนักแสดง "โย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา" กับอดีตคนเคยรัก "เอก สรพงษ์ ชาตรี" ออกมาย้ำชัด เหตุแยกทางไม่ใช่เป็นฝ่ายที่ถูกทิ้ง แต่เป็นฝ่ายถอยออกมาเอง
ถามเรื่องความรักหน่อย ทราบมาว่าอดีตคนคุ้นเคยของเราคือ เอก สรพงษ์ ชาตรี คือเป็นรักแรก รักเดียว และรักสุดท้ายในชีวิตจริงเหรอ?
“จริง แต่ไม่ใช่ไม่มีคนมาจีบนะ แต่เราไม่เคยไปเป็นแฟนใคร เป็นคนรักคนยาก ถามว่าทำไมคนนี้ถึงสามารถทลายกำแพงในหัวใจได้ คือมันเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ บางทีเราบาดเจ็บในกองถ่าย เขาก็พาเราไปหาหมอ แล้วก็ยอมรับว่าหน้าตาของเขาเป็นสเป๊กของเราด้วย”
ชีวิตรักสมัยนั้นก็ไม่สบายเหมือนสมัยนี้?
“ใช่ค่ะ เปิดเผยไม่ได้ ต้องปิดบัง ไม่ว่าพระเอก-นางเอกคนไหนมีครอบครัว ถ้าหลุดเมื่อไหร่ เรตติ้งตกทันที ไม่ถึงกับไม่มีงานหรอก แต่ของเราคือยุคปลายๆ แล้วนะ ก่อนหน้านั้นต้องปิดบัง”
แล้วแอบคุยกันยังไง?
“เจอกันในกองถ่าย ก็สบายๆ”
แล้วความรักดำเนินมาขนาดไหน ถึงตกลงว่าเป็นคนนี้?
“ก็ท้องไง ตอนนั้นเป็นข่าวดังมาก ไม่มีคนรู้มาก่อน ไม่ได้ประกาศเลย แต่มีคนรู้โดยที่ตัวเรายังไม่รู้เลยอ่ะ เขาเดาออก พอเราไม่ค่อยสบายคือเราแพ้ท้องน่ะแหละ มีสื่อเดาว่าสงสัยจะท้อง เราถูดสะกดรอยตามตอนไปหาหมอ สุดท้ายไม่ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวหรอก เขาก็พยายามมากดออดถึงหน้าบ้านเลย”
มีผลกระทบต่อเรื่องงานหรือเรตติ้งไหม?
“จริงๆ ตอนนั้นแฟนๆ เขาก็จะจับคู่ให้กันอยู่แล้ว อยากให้สมหวังเป็นแฟนกัน มีคนสมหวังกันเยอะ เรื่องลูกเนี่ยตั้งแต่ข่าวท้องถึงคลอดเขาก็ติดตามเรื่องลูกสาวมาตลอด ยิ่งเขาสอบติดจุฬาฯ ออกทีวีตั้งไม่รู้กี่รายการ”
ตอนนั้นไม่มีการจัดงานแต่งใช่ไหม?
“ไม่มี แต่งไปทำไม ท้องแล้วจะแต่งทำไม มันเปลือง(หัวเราะ)”
จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ไม่อยากจะจัดงานแต่งงาน?
“ไม่ได้อยากจัดงานแต่งงาน แต่ถ้าจะจัดก็จัดเป็นงานเล็กๆ หรือรับรู้กันภายในญาติพอ”
เรียกว่าไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว แต่ยังไปมาหาสู่อยู่ใช่ไหม?
“ไม่ได้ไปมาหาสู่ แต่ร่วมงานกันได้ ไม่ได้เป็นศัตรูกัน ไม่เคยทะเลาะกันเลย การที่เราห่างกันไปเราก็เป็นคนถอยออกมา เพราะเราคิดว่ามันวุ่นวาย ความสงบมันน้อย ความสุขมันก็น้อย เพราะฉะนั้นเราก็เลือกในทางที่ไปแล้วมันสุขและสงบดีกว่ามั้ย ความสงบที่พูดถึงหมายถึงเราไม่ชอบความวุ่นวาย แก่งแย่งชิงดี”
มีตัวละครเพิ่มเข้ามาในชีวิตคู่ แล้วเขามาวุ่นวายกับเราเหรอ?
“มันก็มีนะ เบื่อมาก รำคาญมาก มีการสร้างเรื่องขึ้นมาบ้าง อยากได้นักก็เอาไปเหอะ ถ้าเราคิดว่าจะยึดเอาไว้มันก็จะเป็นเรื่อง ถามว่ามีความสุขมั้ย ก็ไม่มี อีกอย่างเราก็จะจิตตก ไม่มีความสุข เราก็จะทรุดโทรม ต่อให้รักใครมากแค่ไหนต้องรักตัวเองมากกว่า เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเขามีคนเข้ามาเยอะ เป็นไปไม่ได้ที่มันจะไม่มีปัญหา มันอยู่ที่ตัวเราเลือกว่าเราจะเป็นนางยักษ์นางมารไปบู๊กับเขามั้ย หรือเราจะถอยออกมาแล้วมีชีวิตอย่างสงบ สุขสบาย อาจจะมีเสียใจ เพราะตอนนั้นเราก็ยักรักเขาอยู่ แต่ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ถามว่าเสียใจมั้ย มันก็เป็นธรรมดาของปุถุชน”
ขอบคุณข้อมูลจากรายการ คุยแซ่บโชว์
Cr. ภาพ อินสตาแกรม yotassawan