เร่งขุดเจาะบ่อบาดาลที่ความลึก 100 เมตร ช่วยดึงน้ำมาใช้บรรเทาปัญหา รพ.วิเชียรบุรีขาดแคลนน้ำ
วันที่ 13 ส.ค. จากการที่ รพ.วิเชียรบุรี อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เริ่มประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้อุปโภค บริโภค ในบางตัวอาคารของ รพ. มาตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จนหลายฝ่ายแสดงความกังวลเกรงว่า จะส่งผลกระทบถึงการรักษาพยาบาลผู้ป่วย แต่จากการเปิดเผยของคณะผู้บริหารโรงพยาบาล กล่าวว่า อาคารหรือตึกสร้างใหม่ทั้งหมดของ รพ.วิเชียรบุรี ได้ใช้น้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาวิเชียรบุรี จึงไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้อุปโภค บริโภคแต่อย่างใด ปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้อุปโภค บริโภค จะมีเพียงอาคารผู้ป่วยนอกตึกหลังเก่า ซึ่งมีหอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง หอผู้ป่วยเด็ก และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ รพ. ที่อยู่ด้านหลังเท่านั้น เนื่องจากมีการวางระบบการใช้น้ำจากบ่อน้ำบาดาล มาตั้งแต่เริ่มมีการก่อสร้าง รพ.วิเชียรบุรี
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการบริหารฯ ได้เร่งแก้ไขปัญหาหลังจากทราบว่า ปัญหาเกิดจากบ่อน้ำบาดาล จำนวน 4 แห่ง ที่ภายใน รพ.มีน้ำไม่เพียงพอ จึงได้ร้องขอสนับสนุนรถบรรทุกน้ำจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ และรถน้ำจากองค์กรปกครองท้องถิ่น(อปท.) ข้างเคียง เพื่อขอให้ช่วยสนับสนุนรถบรรทุกน้ำ แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ได้รับการสนับสนุน เกรงจะไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการประหยัดน้ำ โดยการเปิดปิดน้ำแบ่งเป็น 3 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงที่ 1.เปิดน้ำเวลา 6.00-10.00 น. ช่วงที่ 2.เปิดน้ำเวลา 16.00-20.00 น. และช่วงที่ 3.เปิดน้ำเวลา 22.00-02.00 น. พร้อมทั้งประกาศขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันประหยัดน้ำ ในขณะที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ส่งนายช่างพร้อมเครื่องจักรขุดเจาะบ่อบาดาลและเครื่องเป่าลม มาทำการสำรวจเพื่อซ่อมแซมบ่อบาดาลดังกล่าว และหากจำเป็นก็พร้อมจะดำเนินการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลให้ใหม่
ล่าสุด นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงาน การขุดเจาะบ่อบาดาลของ รพ.วิเชียรบุรี โดย นายอัครเดช กล่าวว่า วันนี้ได้มีโอกาสเข้ามาตรวจเยี่ยมเครื่องมือขุดเจาะบ่อบาดาลที่เข้ามาแก้ปัญหาภัยแล้งที่ รพ.วิเชียรบุรี ซึ่งการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ได้มีบูรณาการร่วมกัน ทำการเจาะน้ำบาดาลที่ความลึกประมาณ 100 เมตร และก็ได้น้ำระดับที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก 15 คิวต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามแผนของทาง รพ. ที่จะให้น้ำบาดาลบ่อนี้เก็บไว้ใช้เป็นน้ำสำรองเมื่อยามขาดแคลน ฉะนั้นคิดว่าการแก้ปัญหาสำหรับ รพ.วิเชียรบุรีวันนี้ น่าจะประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม