สัมผัสความน่ารักของ “นาก” ฝูงสุดท้ายใน กทม. ย่านบางขุนเทียน “ครูท็อฟฟี่” เจ้าของเพจ Bangkok Otter เผยพยายามส่งเสริมให้นักเรียน ชุมชน และประชาชนทั่วไปช่วยกันอนุรักษ์
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพความน่ารักของฝูงนากจำนวนหนึ่ง กว่า 10 ตัว ย่านบางขุนเทียน กทม. ทีมข่าว นิว 18 ได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนทวีธาภิเศก บางขุนเทียน และได้พบกับ นาย ศุภณัฐ กาหยี หรือ ครูท็อฟฟี่ อาจารย์สอนวิชาชีววิทยาและวิทยาศาสตร์ และเป็นผู้ทำเพจ Bangkok Otter ซึ่งเล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า นากที่ปรากฎในเพจ เป็นฝูงนากที่อยู่ละแวกโรงเรียน ทั้งนี้หลังจากที่ย้ายมาสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ ได้พบเห็นตัวนากครั้งแรก ประมาณเดือน มี.ค. 2557 จำนวน 7 ตัว กำลังดำผุดดำว่ายในบ่อปลาของชาวบ้าน ที่อยู่บริเวณหน้าโรงเรียน เมื่อสอบถามจากชาวบ้าน และครูในโรงเรียน จึงได้ข้อมูลว่าเป็นตัวนาก เป็นนากสายพันธุ์ ใหญ่ขนเรียบ ซึ่งรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะการเจอนาก แสดงว่าพื้นที่แห่งนี้ อุดมสมบูรณ์ น้ำมีคุณภาพที่ดีและต้องมีความปลอดภัย เพราะแหล่งน้ำเป็นที่หากินของนาก โดยนากจะออกมาหากินในแหล่งน้ำ บ่อปลา คลอง ด้านข้างและรอบโรงเรียน โดยช่วงเช้าและเย็นจะออกมาหากิน บางช่วงก็ออกมานอนเล่นบนคันดิน โดยรังอยู่ด้านข้างโรงเรียน ถัดจากคันดินออกไป
ครูท็อฟฟี่ กล่าวต่อว่า จากการติดตามพฤติกรรมของนาก พบว่า เป็นสัตว์ที่มีนิสัย อยากรู้อยากเห็น ขี้เล่น ไม่ตื่นคน นอกจากตนเองแล้ว ครูและนักเรียนในโรงเรียนก็เจอนากอย่างใกล้ชิดเกือบแทบทุกวัน บางครั้งเรียนหนังสืออยู่ก็มองเห็นทางหน้าต่างห้องเรียน ที่ฝูงนากจะออกมาเล่นน้ำให้เห็น ซึ่งตนเองได้ใช้ความตื่นเต้นของเด็กๆ จากการเห็นนากอย่างใกล้ชิด มาสอนเรื่องของระบบนิเวศน์และธรรมชาติวิทยา จน ปี 2558 พบว่ามีเพจของกลุ่มนักอนุรักษ์ แชร์ข้อมูลของนากที่สิงคโปร์มา จึงเข้าไปตอบว่าที่ กทม.ก็มี อยู่ที่บางขุนเทียน หลังจากนั้นก็มีคนสนใจเดินทางมาดู บางคนมาจากเขาใหญ่ สัตหีบ ถ่ายภาพให้ จนทำให้มีคนรู้จักมากขึ้น จึงทำเป็นเพจขึ้น ตั้งชื่อว่า Bangkok Otter เพื่อทำกิจกรรมตั้งใจที่จะจุดประกายให้นักเรียน และชุมชนรอบๆ รวมถึงคนทั่วไปช่วยกันอนุรักษ์นาก และทราบว่า ใน กทม. นอกจากที่บางขุนเทียนแล้ว ยังมีนากที่บุคคโลด้วย ที่ยังมีอยู่
ทีมข่าวนิว 18 พบว่าความน่ารักของฝูงนากที่นี่ ครูและนักเรียนจะมีการตั้งชื่อให้กับนากบางตัวที่ออกมาให้เห็นบ่อยๆ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น แม่นุ่ม ซึ่งเป็นนากที่ตัวใหญ่ที่สุดในฝูง หรือ เปรี้ยว เป็นนากที่มักจะแยกออกมาจากฝูง มาเล่นน้ำตัวเดียว ขณะที่ เด็กนักเรียนในโรงเรียน บอกว่า รู้สึกตื่นเต้น ที่ได้เห็นนากตัวจริงๆ นำไปเล่าให้ครอบครัวฟัง ก็ตื่นเต้นและแปลกใจตามไปด้วย
ทีมข่าวได้สอบถาม ชาวบ้านที่อาศัยดั้งเดิมในพื้นที่ โดย นางเงินยวง เผ่าตา ซึ่งอยู่ที่นี่มาตั้งแต่บรรพบุรุษ บอกว่า ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะจริง ๆแล้ว แต่เดิมที่นี่เป็นถิ่นที่อาศัยของนากมานานแล้ว ตั้งแต่คลองบางกระดี่ แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่าฝูงนากอพยพเข้ามาอยู่ใกล้มากขึ้น เช่น บ้านของตนเอง ซึ่งไม่ไกลจากโรงเรียนนัก ตี 5 ตื่นมาเก็บปลาจากตาข่ายหาปลาที่วางดักไว้ ก็มีตัวนากออกมาเล่นน้ำ รอกินปลา ส่วนตัวมองว่าเป็นสัตว์ที่น่ารัก ขนสวย รู้สึกดีที่จะมีการช่วยกันอนุรักษ์ โดยตนเองเคยนับจำนวนฝูงนากที่นี่ได้มากสุด 14 ตัว
อย่างไรก็ตามจากากรสำรวจของทีมข่าวพบว่า สิ่งที่คนในชุมชนกังวลคือ ในอนาคตหากมีการเติบโตขยายพื้นที่ของเมืองเข้ามาถึงชุมชน จะส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยและแหล่งหากินตามธรรมชาติของฝูงนาก
ขอบคุณเพจ Bangkok Otter, ภาพ Wanna Tantanawat