ชื่นชม! หนุ่มครึ่งท่อน” สู้ชีวิต โพสต์หาที่ฝีกงาน ทดลองฝีมือ

2019-09-23 16:10:03

ชื่นชม! หนุ่มครึ่งท่อน” สู้ชีวิต โพสต์หาที่ฝีกงาน ทดลองฝีมือ

Advertisement

โลกโซเชียลแห่ชื่นชมให้กำลังใจหนุ่มพิการครึ่งท่อน แต่ใจนักสู้ โพสต์หาสถานที่ฝึกงานหลังเรียนจบ สานฝันทำในสิ่งที่อยากทำ ซึ่งความพิการนั้นไม่ใช่อุปสรรค

วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ได้มีหนุ่มร่างกายพิการ ครึ่งท่อนแต่สู้ชีวิต กำลังหาที่ฝึกงาน หลังเรียนจบแผนกช่างยนต์ วิทยาลัยสารพัดช่าง ทางผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ยังบ้านเช่าไม่มีเลขที่ บริเวณชุมชนบ้านยวม ซอย 7 หมู่ที่ 5 ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยพบว่าหนุ่มพิการดังกล่าวคือนายชาตรี กรวัชรธาดา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/ช หมู่ 1 อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน อดีตหนึ่งในนักเต้นบีบอยวีลแชร์ ที่ชนะการประกวดรายการ thailand got talent 2014 มาแล้ว

จากการสอบถามทางด้านนายชาตรีเปิดเผยว่า ตนมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ซึ่งตนได้พิการตั้งแต่กำเนิด ภายหลังได้มีโอกาสย้ายภูมิลำเนามาอยู่ในเมืองเชียงใหม่ มาอยู่กับน้องๆอีก 2 คน และได้ศึกษาจนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 โรงเรียนศรีสังวาลย์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งหลังจากเรียนจบมาตนก็ เลือกเรียนสายอาชีวะเพื่ออยากที่จะทำงานเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว และได้ตัดสินใจลงทะเบียนเรียนในแผนกช่างยนต์ วิทยาลัยสารพัดช่าง ซึ่งเป็นงานที่ตนรัก โดยหลังจากที่ได้เรียนจบหลักสูตรตนก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กของตัวเองไปในโลกโซเชียลเพื่อหาที่ฝึกงาน ซึ่งประชาชนก็ได้ให้ความสนใจและให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก




ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและให้โอกาสในการฝึกงานของตน ซึ่งในเบื้องต้นก็กำลังเลือกสถานที่ฝึกงาน โดยสถานที่ฝึกงานที่ตนอยากทำก็จะเป็นเกี่ยวกับซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ที่อาจจะไม่ต้องเป็นสถานที่ประกอบการใหญ่โต อาจจะเป็นอู่เล็กๆ ที่เปิดโอกาสให้ตนได้เข้าไปฝึกงานทดลองฝีมือ และให้ตนได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ซึ่งในส่วนของความพิการที่ตนเป็นอยู่นั้นก็อาจจะเป็นอุปสรรคในการทำงานอยู่บ้าง เช่น ในเรื่องของการยกของหรือวัตถุบางอย่างที่ไม่สามารถยกคนเดียวได้ รวมไปถึงเรื่องของการเดินทาง ตนจึงอยากได้สถานที่ฝึกงานที่อาจจะอยู่รอบนอกตัวเมืองเชียงใหม่ หรือใกล้กับที่พัก เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง

ส่วนความฝันของตนนั้นก็อยากที่จะมีธุรกิจส่วนตัว มีอู่ซ่อมรถเล็กๆ หรือร้านซ่อมรถ โดยทุกวันนี้จะทำอะไรตนจะคิดถึงพ่อแม่ไว้ก่อนเสมอ ถ้าตนยังไม่สบายยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง พ่อกับแม่ตนก็ยังคงเป็นห่วง และก็จะไม่สบายใจที่เห็นว่าลูกคนนี้ยังไม่ได้ดี ทั้งนี้ตนอยากฝากถึงใครที่กำลังท้อแท้ในการใช้ชีวิต อยากให้มองว่าการใช้ชีวิตก็เหมือนกับการที่ตัวเองได้ผจญภัยไปเรื่อยๆ และไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นและหากคิดว่าในวันนี้ตัวเราเองทำไม่ได้พรุ่งนี้มันก็จะไม่เกิด ดังนั้นตนมองว่าเมื่อได้เกิดมาเป็นคนทั้งที ไม่ว่าจะพิการหรือเป็นปกติก็ควรจะสู้ไว้ก่อน และมีกำลังใจที่ดีนึกคนที่อยู่ข้างหลังและคนที่คอยอยู่ข้างๆ เราไม่ใช่นึกถึงแต่ตัวเอง



ด้านนายบัญชา อุงคุนา ครูช่างยนต์ และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษากล่าวว่า ทราบเรื่องที่ชาตรี โพสต์หาสถานที่ฝึกงานแล้ว เนื่องจากต้องการฝึกงานจริง ซึ่งก่อนหน้านี้อาจารย์ได้พยายามหาสถานที่ฝึกงานให้กับน้อง แต่ด้วยร่างกายของน้องที่พิการครึ่งท่อนมาแต่กำเนิด ทำให้บริษัทเป็นห่วงเรื่องอุบัติเหตุและความปลอดภัยในตัวของชาตรี โดยชาตรีสนใจเรื่องช่างยนต์และงานถนัดเป็นเรื่องการซ่อมจักรยานยนต์ ส่วนรถยนต์อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องความสูงและความใหญ่ของตัวรถที่อาจจะเป็นอุปสรรคบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะชาตรีมีความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ และพยายามทำงานทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากนี้หวังว่าน้องจะได้ที่ฝึกงานตรงตามที่น้องตั้งใจเอาไว้