เข้าไปเป็นวิทยากร จิตอาสา ในเรือนจำหญิง พร้อมกับกระแสต่างๆ นานา ทำให้ "เอ็มมี อมลวรรณ" หรือ "เอ็มมี่ แม็กซิม" ต้องออกมาเปิดใจถึงสาเหตุที่ตนเข้าไปให้กำลังใจผู้ต้องขังหญิง โดยเจ้าตัวได้โพสต์แคปชั่นยาวเหยียด พร้อมกับคลิปยาว 5นาทีกว่าๆ กับสิ่งที่ตนได้เข้าไปพูดในเรือนจำ โดยคลิประบุว่า
ทุกคนที่ติดเข้ามามันก็ทรมานมากแล้ว เราไม่รู้ว่าข้างนอกเป็นอย่างไร "เอ็มมี่" ก็เคยติดคุกมาเหมือนกัน มันก็ลำบาก ไม่รู้ว่าข้างนอกมันกี่โมง ข้างนอกเขาทำอะไร ลูกฉันทำอะไร เวลาถามผู้คุม ซึ่งเราไม่ได้ติดที่เมืองไทยนะ ก็ต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ แล้วตอนนั้นก็ท้องด้วย ติดคุกตอนท้องนี่แหละค่ะ บอกว่าฉันอยากกินมะม่วงมาก ฉันแพ้ท้อง ก็ขอให้ผู้คุมไปซื้อมะม่วงมาให้กิน เขาก็ซื้อมะม่วงสุกมา (ทุกคนหัวเราะ) งงมาก! บอกว่าฉันแพ้ท้อง อยากกินมะม่วงเปรี้ยวๆ ก็ได้มะม่วงสุกมา แต่เราก็ต้องกิน
จนวันที่เราได้ออกมาข้างนอก เอ็มมี่ก็ไปแช่อ่างอาบน้ำ ดีใจมากว่าฉันจะได้กลับเมืองไทย แต่สุดท้ายศาลก็ตัดสินว่า ไม่ได้กลับ "เอ็มมี่" ต้องอยู่ต่อจนคลอดลูก สิ่งที่ "เอ็มมี่" ทำคือ ลักลอบพาลูกกลับเมืองไทย
เอ็มมี่ ได้ไปฟังพี่ๆ ที่นี่เขาบอกว่า กว่าจะออกไปได้ ต้องฝึกตั้ง 12 สัปดาห์ใช่มั้ยคะ โคตรทรมานแทนเลย 12 สัปดาห์ ต้องทำโน่น ต้องทำนี่ ทำในสิ่งที่บางคนไม่อยากจะทำ ฉันไม่อยากจะทำ แต่ฉันต้องทำ เพื่อที่จะออกไปสู่โลกกว้าง ทุกคนยอมทำทุกอย่าง เราไม่อยากทำตามที่เขาสั่งเรา แต่เราก็ต้องทำเพื่อจะได้ออกมาข้างนอก
เมื่อออกมาข้างนอกแล้ว เอ็มมี่อยากให้ทุกคนนึกถึงวันที่เราต้องติดอยู่ ต้องปฏิบัติธรรมด้วย เอ็มมี่ อยากให้ใจของทุกคน กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี เมื่อที่เราสัญญาไว้ เวลาออกมาข้างนอกเจอเอ็มมี่เข้ามากอดได้เลย ทักมาได้เลย ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย เพราะเอ็มมี่ก็เป็นแบบนี้
วันนี้อยากบอกว่าข้างนอกมันวุ่นวายมาก ข้างนอกมันอาจจะไม่ได้มีความสุขอย่างที่ทุกคนคิด ทุกคนเกิดมาในโลกนี้ เพื่อที่จะดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด เอ็มมี่ อยากให้ทุกคนนำสิ่งที่อบรม นำไปประพฤติ ปฏิบัติ เอามาใช้ในชีวิตประจำวัน เชื่อว่าบนโลกนี้ไม่เคยมีใครที่ไม่เคยผิดพลาด เอ็มมี่เองก็เคยผิดพลาด และไม่อายที่จะพูด
เราเอาความผิดพลาดของเรามาบอกกับคนอื่น และขอให้ทุกคน อย่ากลับไปทำไปในสิ่งที่มันแย่ หรืออย่าผิดพลาดอีก ถ้าใครมีลูกก็ต้องคิดถึงลูก เพราะอย่าง เอ็มมี่ ก็มีลูกแล้ว 2คน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือครอบครัวของเรา ไม่มีใครรักเราเท่า พ่อ แม่ คิดถึงเขามั้ยคะ! เคยคิดมั้ยว่า รู้อย่างนี้ไม่น่าทำเลย มันทรมานมากเลยใช่มั้ย วันนี้หรือวันต่อไป เราไม่จำเป็นต้องมีพวงมาลัย แค่เดินไปกราบเท้า ล้างเท้าให้พ่อแม่ กอดเขา บอกเขาว่า จะไม่ทำแบบนี้อีก
พ่อแม่สำคัญที่สุด รักตัวเองและครอบครัวให้มากๆ วันนี้เราอยากให้คุณก้าวไปสู่โลกใบใหม่ของคุณค่ะ
โดยข้อความแคปชั่น "เอ็มมี่" ได้เผยความในใจระบุว่า ...
เรือนจำที่รัก
คุณเห็นรอยยิ้มนี้มั้ย ปากกว้างๆ ฟันใหญ่ๆ แต่แม่งโคตรออกจากก้นบึ้งของหัวใจเลยรู้ปะ
#ตื่นๆ มาอ่านงับ มีคนถามว่า สร้างภาพเหรอ?
ทำไมต้องเป็นเรือนจำ?
ขอตอบเลยนะคะ ว่า ใช่คะสร้างภาพ เพราะมันคือภาพดีๆที่ควรสร้าง เพื่อให้คนรักกัน อภัยกัน ให้กำลังใจกัน จบป่ะ?
เอ็มมี่ได้มีโอกาสไปร่วมร้องเพลงในคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นในเรือนจำหลายแห่ง หลายจังหวัด ซึ่งเป็นโครงการที่มี #koboykrush จัดขึ้น ซึ่งมีการแนะนำจาก #djทศกัน ให้เอ็มมี่ไปช่วยร้องเพลง ร่วมกับศิลปินจิตอาสาคนอื่นๆ
ทุกครั้งที่มีไป เอ็มมี่ไม่ได้รับค่าจ้างใดใดทั้งนั้น ใจล้วนๆ และเอ็มมี่ทำด้วยจิตบริสุทธิ์จริงๆ
เอ็มมี่ดีใจที่ได้พูดคุยกับนักโทษที่อยู่ในเรือนจำ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้ปรับทุกข์ ได้เป็นที่ระบายให้เขา บางคนเป็นแพะ บางคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บางคนติดร่างแห ทำให้เอ็มมี่มีความสุขทุกครั้งที่ได้ช่วยให้เขาผ่อนคลายลงบ้าง เหมือนเอ็มมี่เป็นที่ระบายให้เขา ถึงแม้เราจะช่วยอะไรไม่ได้เลย
รอยยิ้มของผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ ทำให้เอ็มมี่รู้สึกมีพลังที่จะสู้ชีวิตต่อไป และมีกำลังใจในการผลิตผลงานดีๆ ออกมาให้แฟนคลับได้ติดตาม
เอ็มมี่ถือว่า การเป็นจิตอาสาเป็นการทำบุญอีกทางหนึ่ง ตามกำลังความสามารถที่เอ็มมี่มีอยู่ในตัว ถ้าจะให้เอ็มมี่บริจาคเงินเป็น 10,000 เป็น 100,000 เป็น 1,000,000 บอกตรงๆ ว่าเอ็มมี่ไม่ได้มีรายได้ดี และร่ำรวยขนาดนั้น เพราะ #หลังจากที่โดนคนชั่วเอาเงินไปแบบเห็นแก่ตัวและเลือดเย็น
ทางเดียวที่เอ็มมี่ทำได้ คือ การบริจาคแรงกาย ตามความสามารถที่เอ็มมี่มีอยู่ในตัว และตามโอกาสที่มีผู้ใหญ่มอบหมายให้ทำ
บางคนบอกว่า ทำไมถึงจัดคอนเสิร์ตแค่ในเรือนจำ และก็มีอีกหลายคนบอกว่า สิ่งที่เอ็มมี่ทำเป็นแค่การจัดฉากหรือสร้างภาพหรือเปล่า
ก่อนอื่นเอ็มมี่ต้องขอขอบคุณที่มีคนตั้งคำถามแบบนี้ ทำให้เอ็มมี่ได้เห็นมุมมองอีกหลายมุม และขออธิบายตามความจริงค่ะ
การจัดคอนเสิร์ตเป็นโครงการของผู้ใหญ่ที่จัดขึ้น หรือที่ทุกคนรู้จักท่านในนาม #โกบอยครัช
เอ็มมี่มีหน้าที่แค่ไปช่วยร้องเพลง เอ็มมี่เลือกไม่ได้ว่าจะต้องไปที่ไหน เพราะผู้ใหญ่เป็นคนประสานงาน
และเอ็มมี่ถือว่าเป็นการทำบุญอีกทางหนึ่ง แค่นั้นเองค่ะ ไม่มีอะไรแอบแฝงมากไปกว่านี้ ไม่ได้เป็นการสร้างภาพ หรือหวังผลตอบแทน เพราะเอ็มมี่เองทำจิตอาสาแบบนี้มานานแล้ว
เอ็มมี่ไม่โกรธนะคะ ที่มีคนตั้งคำถามแบบนี้ เอ็มมี่เข้าใจ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด ไม่สามารถที่จะไปปิดกั้นความคิดใครได้ เอาเป็นว่า เอ็มมี่ขอขอบคุณอีกครั้ง และถ้าใครอยากได้บุญร่วมกับเอ็มมี่ ก็อนุโมทนาสาธุร่วมกันก็แล้วกันนะคะ
#ดีใจที่ได้ทำ
#แรงแต่ไม่เลว
ขอบคุณอินสตาแกรม mmyamalawan