ตัดสินใจหวนกลับเข้ามารับงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัวอีกครั้ง สำหรับนักแสดงสาว "ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ" ที่ล่าสุดรับงานซีรีส์เรื่อง “Mother...เรียกฉันว่าแม่” งานนี้เลยสอบถามถึงเรื่องผลงานและอัพเดตเรื่องส่วนตัวได้ความว่า
กลับมารับละครในรอบหลายปี ?
จริงๆ ก่อนหน้านี้เล่นหนังไปแล้ว ยังไม่ได้โปรโมต แต่ถ้าซีรีส์น่าจะเป็นเรื่องแรกในอาชีพการงานเลยดีกว่า เพราะก่อนหน้านี้จะเล่นภาพยนตร์และซิทคอม อันนี้ก็เป็นซีรีส์เรื่องแรกจริงๆ ที่ได้มาลองแสดงฝีมือค่ะ ที่เราตัดสินใจรับเล่น จริงๆ คือชอบ ชอบที่เป็นภาพยนตร์ออริจินอลมาจากญี่ปุ่น เรื่องนี้ได้รับการตอบรับทั้งญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นหนังที่มีความเข้มข้นน่าติดตาม
เกี่ยวกับบทแม่ด้วยไหม ?
ใช่ แต่ว่าในเรื่องคือตรงข้ามเลย ห่างไกลมาก สำหรับแม่ในเรื่องและตัวจริง ถามว่าทำการบ้านยังไง น่าจะเป็นเรื่องท่องบทมากกว่า ถ้าบทได้อินเนอร์ทุกอย่างมันก็จะมาเอง เราต้องมั่นใจกับบทก่อน
ยากกว่าการเล่นหนัง เล่นซิทคอมที่ผ่านมาไหม ?
ก็นิดนึงแต่ว่าจริงๆ แล้ว เดี๋ยวนี้การถ่ายทำก็เป็นสไตล์ภาพยนตร์อยู่แล้ว ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นละครสมัยก่อนก็จะแอบกลัวนิดนึง อันนี้เขาจะถ่ายภาพสไตล์หนัง ก็ต้องเคาะสนิมนิดนึง แต่เดือนที่แล้วเราเล่นภาพยนตร์ มันได้เคาะสนิมบ้างกับบทที่เบาๆ ไม่ได้ดราม่ามากขนาดนี้ เรื่องนี้หนักคิวแรกร้องไห้ 3 ซีน โดนตบ 3 ซีน
เราแบ่งเวลาให้ลูกยังไงบ้าง ?
เราจะรับเฉพาะวันที่น้องไม่อยู่
เรียกว่ากลับมารับงานเต็มตัวแล้วใช่ไหม ?
ใช่ค่ะ
การเลี้ยงลูกของเราคือ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือยังไง ?
ไม่ คือตอนนี้ก็เลี้ยงเยอะ เราจะให้คิวถ่ายเฉพาะที่น้องไม่อยู่ ซึ่งไม่ค่อยมีวันให้เขา อย่างกองหนังที่แล้วก็บอกเหมือนกันว่าคิวยากมากเลย ไม่ค่อยมีเวลา เราต้องดูแลเขาก่อน
มีความเข้าใจมากขึ้น เลยได้อยู่กับลูกเยอะขึ้นไหม ?
ไม่เกี่ยวๆ เป็นไปตามความเหมาะสมค่ะ
ได้อยู่กับลูกมากขึ้นเรารู้สึกยังไงบ้าง ?
แต่ยังไงมันก็เป็นห่วงอยู่ดีแหละ เวลาที่เขาไม่อยู่ คนเป็นแม่ต้องลงดีเทลทุกอย่าง ความสะอาดของเขา ก็พยายามทำให้ดีที่สุดเหมือนที่เขาอยู่ เวลาเขาไม่อยู่เราก็จะพยายามฝากไป
เราเป็นห่วงอะไร ?
อย่างเรื่องเชื้อโรค เป็นห่วงมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งมีความทวีคูณขึ้น แล้วก็เรื่องฝุ่น เราจะเป็นเรื่องมลพิษ
มีข่าวลือว่าเราไปเซ็นใบหย่าแล้ว ?
ก็คืออยากให้เป็นเรื่องของกระบวนการ ตอนนี้ยังไม่อยากลงรายละเอียด
สบายใจขึ้นไหมสำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมา ?
จริงๆ ก็สบายใจมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตั้งแต่แรกเริ่มที่มีเรื่อง ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ
แต่ยังไม่ได้มีการเซ็นใบหย่า ?
ก็ยังพูดไม่ได้ค่ะ หมายถึงว่าในกระบวนการเขาก็จะมีคำสั่งมา
เรื่องนี้จะยืดเยื้อไปอีกยาวนานแค่ไหน ?
ก็ไม่น่าจะนานนะคะ น่าจะเป็นภายในปีนี้
ความสัมพันธ์กับอดีตสามี เราสองคนคุยกันมากขึ้นไหม ?
ก็เหมือนเดิม ก็คุยเรื่องลูก
ที่ผ่านมาทางโซเชียลก็ได้เห็นโมเมนต์ที่ดีเยอะขึ้น ?
ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะเราก็ไปตามธรรมชาติ เราไม่ได้โกรธ ไม่ได้ติดใจอะไร ทำทุกอย่างออกมาจากใจ
เราเตรียมคำพูดไว้หรือยัง ถ้าลูกโตขึ้นแล้วถามถึงเรื่องนี้ ?
ทุกอย่างต้องพูดตามความจริง ไม่คิดจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว ถ้าเราปิดบังอะไรเขา เขาก็ต้องปิดบังอะไรเราอยู่แล้ว เราต้องเลี้ยงให้เขาเป็นเพื่อนสนิทของเรา บอกได้ทุกเรื่อง
รอเวลาที่ลูกถามใช่ไหม ?
ใช่ ถ้าเขาอยากรู้อะไร เราก็ยินดีเล่า
น้องมีถามบ้างไหมว่าทำไมต้องอยู่สองบ้าน ?
เขาก็เข้าใจ ว่าตอนนี้กิจวัตรเขายังไง ทุกๆ วันก็ดีขึ้น
