ค้น 10 จุดรวบขบวนการอุ้มบุญ 9 ราย แม่อุ้มบุญ 7 ราย ทารก 2 คน (คลิป)

2020-02-13 17:15:10

ค้น 10 จุดรวบขบวนการอุ้มบุญ 9 ราย แม่อุ้มบุญ 7 ราย ทารก 2 คน (คลิป)

Advertisement

ผบช.ก.นำทีม ผบ.ปคม.แถลงปฏิบัติการจับกุมขบวนการอุ้มบุญ 10 จุด รวบ 9 ผู้ต้องหา พร้อมหญิงไทย 7 คน รับจ้างอุมบุญ นอกจากนี้ยังพบ 2 ทารกอายุ 22 วัน และ 4 เดือน ระบุก่อนหน้านี้มีเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญถือพาสปอร์ตไทยออกนอกประเทศไปแล้ว 14 คนปลายทางอยู่ที่จีน แจงหลังมี พ.ร.บ.อุ้มบุญจากที่ฝังตัวอ่อน คลอดในประเทศไทย แม่อุ้มบุญจะไปฝังที่ประเทศเพื่อนบ้าน แล้วเข้ามาฝากครรภ์ในประเทศไทย และไปคลอดที่ประเทศปลายทาง แจงรายชื่อแม่อุ้มบุญอยู่ในมือตำรวจแล้ว 29 คน 

เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่กองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบ.ช.น. พล.ต.ต. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. พล.ต.ต. สยาม บุญสม ผู้บังคับการการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 พ.ต.อ. มานะ กลีบสัตบุศย์ พ.ต.อ. ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการจับกุมขบวนอุ้มบุญ


พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. กล่าวว่า กรณีนี้เสนอมาตั้งแต่ พ.ค. 2562 ก่อนปีใหม่ได้ออกหมายจับไว้ แต่ผู้ต้องสงสัยเดินทางออกต่างประเทศบ่อย วันนี้แนวทางการสืบสวนแจ้งว่า ผู้ต้องสงสัยอยู่ในประเทศไทยจึงได้เข้าค้นเป้าหมายซึ่งเราได้ช่วยอีกหลายชีวิต ถือว่าเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์

พล.ต.ต. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. กล่าวว่า เราได้ตั้งคณะทำงานตั้งแต่เดือน พ.ค.2562 สืบสวนเรื่อยมา จนพบว่ามีความเกี่ยวพันกับหลายพื้นที่ คาดว่าเป็นกระบวนการใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จนมีออกหมายจับผู้ต้องหา 10 คน 3 คนเป็นชาวต่างชาติ 6 คนเป็นคนไทย โดยจับผู้ต้องหา 9 คนได้ครบ ส่วนอีก 1 คนอยู่ต่างประเทศน่าจะถูกจับกุมที่ประเทศจีน วันนี้ตรวจค้น 10 จุดได้หลักฐานมากมาย และมีการยึดทรัพย์ ขบวนการนี้มาจ้างหญิงไทยอุ้มบุญ ก่อนกฎหมายอุ้มบุญออกมีการฝังตัวอ่อนในประเทศไทย คลอดในประเทศไทย หลังปี 2558 กฎหมายออกก็ไปฝังตัวอ่อนประเทศเพื่อนบ้าน และมาฝากครรภ์ในประเทศไทยและไปคลอดที่ประเทศปลายทาง ทั้งนี้ได้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง 2 ความผิดคือ ทำผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสน และ พ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โทษ 4-15 ปี ปรับ 8 หมื่น- 3 แสนบาท

พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาส่วนวใหญ่รับสารภาพแต่บางคนปฏิเสธอยู่ แต่เราเชื่อมั่นในพยานหลักฐานเพราะหารืออัยการสูงสุดมาโดยตลอด ที่สำคัญเราได้แม่เด็กจากเคสเดิมอีก 7 คน วันนี้จากการตรวจค้นพบแม่เด็กกำลังตั้งครรภ์ในบ้านผู้ต้องหาอีก 7 คนและได้พบเด็ก 2 คน อายุ 22 วัน และ 4 เดือน อยู่ในบ้านผู้ต้องหา ซึ่งจากการถามพี่เลี้ยงไม่ทราบว่าพ่อแม่เป็นใครจะได้ตรวจสอบขยายผลต่อไป เราทำเพื่อหยุดยั้งกระบวนการทั้งหมด เพื่อไม่ให้กระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้น เชื่อว่ามีคนที่อุ้มบุญอีกจำนวนมากซึ่งจะขยายผลต่อไป


ด้าน พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. กล่าวว่า วันนี้เปิดปฏิบัติการ 10 เป้าหมายจับได้ 9 คนส่วนอีก 1 คนอยู่ระหว่างการดำเนินการของทางการจีน หลังปี 2558 ทราบว่ามีเด็กอยู่ในบ้านผู้ต้องหาที่จับกุมวันนี้ 14 รายเดินทางไปประเทศจีนหมดแล้ว ชี้ให้เห็นว่าเป็นขบวนการข้ามชาติ 14 คนที่ไปแล้วต้องมาขยายผลว่าแม่อุ้มบุญเป็นใคร สำหรับ 7 รายที่เป็นแม่อุ้มบุญจะสอบสวนต่อไป

“วันนี้เราตรวจค้น 1 จุดพบแม่อุ้มบุญเพิ่งเดินทางไปฝังตัวอ่อนที่ สปป.ลาว และเพิ่งเดินทางกลับมาวันที่ 12 ก.พ. จำนวน 7 คน โดย 1 ในนั้นท้อง 8 เดือน ที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้พบเอกสารเกี่ยวกับแพทย์ นำไปสู่แม่อุ้มบุญที่เข้ามาสู่กระบวนการขยายผล” พ.ต.อ.มานะ กล่าว


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรณีนี้มีความผิดตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสน ส่วนนายหน้ามีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ทั้งนี้เราจะขยายผลไปยังสถานพยาบาลซึ่งมีทั้ง รพ.และคลินิกเกี่ยวข้อง 9 แห่ง

ด้านตัวแทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า พบเด็กอ่อน 2 ราย สำหรับคนที่ตั้งครรภ์ พม.จะมีสถานรองรับทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ส่วนเด็กอ่อน 2 คนไม่ปรากฎบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง พม.จะรับไปดูแลเป็นการชั่วคราว ระหว่างรอบิดามารดามาแสดงตน

ตัวแทนสำนักงาน ปปง. กล่าวว่า ได้มีการตรวจเส้นทางเครือข่ายนี้ ซึ่งจะใช้มาตรการทางแพ่งอายัดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดิน

ขณะที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้สนับสนุนข้อมูลเด็กไทย 14 คนถือพาสปอร์ตไทยเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งสถานทูต และสถานกงสุลจะติดตามเด็กไทยทั้ง 14 คนต่อไป โดยเด็กอุ้มบุญหลายรายเดินทางไป กฎหมายค่อนข้างหนักเกี่ยวกับการอุ้มบุญถึงขั้นประหารชีวิตดังนั้นขอให้ตระหนักเรื่องนี้ด้วย

เมื่อถามว่าทำไมเลือกไปที่จีน นพ.ธเรศ กล่าวว่า จีนมีกฎหมายห้ามเรื่องการอุ้มบุญ บางคนอยากมีลูกคนที่ 1 คนที่ 3 บางคนมีเพศหนึ่งก็อยากมีลูกอีกเพศหนึ่ง ส่วนจะนำไปทำอย่างอื่นหรือไม่ไม่รู้ จะต้องตรวจสอบว่าเมื่อเด็กไปอยู่ต่างประเทศแล้วไปอยู่อย่างไร ต่อข้อถามว่ามีแพทย์เกี่ยวข้องด้วยหรือมา นพ.ธเรศ กล่าวว่า เรามีข้อมูลบางอย่าง ต้องสอบสวนเชิงลึกต่อไป

พล.ต.ต. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. กล่าวว่า เด็กที่เกิดจะขยายผลพ่อแม่ในเวชระเบียนมาสอบสวนขยายผล นายหน้าเป็นคนจีน ประเทศปลายทางสำหรับเด็กอุ้มบุญคือประเทศจีน ก่อนหน้านี้เรามีรายชื่อแม่อุ้มบุญ 29 คนที่มีรายชื่ออยู่ตอนนี้ สำหรับค่าจ้างไม่อยากบอกเพราะจะเป็นการเชิญชวนให้มีการมาอุ้มบุญ

พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. กล่าวว่า สำหรับเด็กที่ไม่สามารถเดินทางไปได้ เพราะมีการระบาดของไวรัสโคโรนาและเมืองที่จะไปก็ปิด เป็นเหตุผลหนึ่งทำให้เด็กยังอยู่ในบ้านเรา และเราเจอแม่อุ้มบุญ

เมื่อถามว่ามีแม่อุ้มบุญกี่คน เด็กออกไปแล้วกี่คน พ.ต.อ.มานะ ตั้งแต่ปี 2555 มี 5 แม่อุ้มบุญ และมีเด็กที่เดินทางออกไปแล้ว 11 คน ยังมีแม่อุ้มบุญระหว่างการขยายผลอยู่ เบื้องต้นประสาน ตม. และสายการบินว่ามีแม่อุ้มบุญเดินทางไปเป็นใครบ้าง โดยมีการจองตัวเครื่องบิน จ่ายโดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในวันนี้ เชื่อว่าทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการแม่อุ้มบุญ

“หลักการหญิงอุ้มบุญจะมีบุตรมาก่อน ซึ่งจากการสอบถามบางคนจะรับจ้างอุ้มบุญมากกว่า 1 ครั้ง เมื่ออุ้มท้องแรกเสร็จ ก็มาอุ้มท้องต่อไปก็มี มีอยู่ 1 รายหลังจากครรภ์ 7-8 เดือนได้เดินทางไปต่างประเทศ รออยู่สักระยะก็เข้าคลอด พอคลอดเสร็จก็พาแม่มาห้องหนึ่ง พาลูกมาอีกห้องหนึ่ง ไม่เห็นกันเลย” พ.ต.อ.มานะ กล่าว