ปรากฏการณ์แห่งรักอันน่าขวยเขิน จากซีรีส์ "เพราะเราคู่กัน" "ไบร์ท" ควง "วิน" เผยตัวตนตรงกับคาแรกเตอร์ตัวละครหรือไม่ พร้อมเปิดเบื้องหลังการทำงานด้วยกันแบบหมดเปลือก ...
ยังคงกรีดร้องก้องดังอย่างเสียจริตจนโลกรู้ไปหมดแล้ว สำหรับ อีพีแรกที่เพิ่งลงจอไป (21 ก.พ.63) ก็เอาเป็นว่า สมใจ สะใจ อิ่มเอมใจ กันเป็นแทบๆ อะเนอะเพื่อนๆ ว่าแต่ว่าเบื้องหน้าที่เราเห็นสองหนุ่มเขาจีบเขาสร้างสัมพันธ์กันแบบฟินๆ อย่างที่เห็นกันนั้น ทำให้เราอยากรู้ว่า...แล้วเบื้องหลังล่ะ จริงๆ ทั้งสองหนุ่ม "ไบร์ท - วิน" เขาเป็นอย่างในซีรีส์หรือเปล่า ? จะมีขอน้องจับนงจับนมหยอกเล่นให้อีกฝ่ายเขินอายจนหน้าแดงเป็นแตงโมหรือไม่ วันนี้ สองหนุ่มได้พร้อมใจกันเผยความลับหลังม่านกองถ่าย ให้เราๆ ท่านๆ ได้เสพความสุขกันแล้ว ...
ล่าสุด สองหนุ่ม "ไบร์ท – วชิรวิชญ์ ชีวอารี" และ "วิน – เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร" คู่จิ้นคู่ใหม่ของวงการที่ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักพวกเขา กับผลงานสร้างสุข "2gether The Series เพราะเราคู่กัน" หรือที่แฟนๆ นิยายเรียกขานกันติดปากในชื่อว่า #คั่นกู ซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องตลกร้ายๆ ที่ลงท้ายด้วยรัก กับกลุ่มนักแสดงหนุ่มหล่อๆ ที่จะมาส่งต่อความเขินแบบจิกผ้าห่มกระจุยกระเจิง โดยหนุ่มๆ ได้เผยใจถึงการร่วมงานครั้งนี้ด้วยกัน พร้อมทั้งเปิดเบื้องลึกเบื้องลับให้แฟนๆ ได้รับรู้กัน...
ตัวจริงกับคาแรกเตอร์ในละคร ต่างหรือเหมือนกันเอ่ย ?
ไบร์ท : ขี้เก๊กเหมือนกัน ไม่ได้เป็นคนชอบเล่นมุกตลกโปกฮา เป็นพวกกวนตีนแบบนิ่งๆ มากกว่า แต่ก็ไม่เชิงเหมือนเสียทีเดียว ผมว่าไอ้สารวัตรมันไม่ค่อยมีความเป็นคน ด้วยความที่เป็นนิยาย คนแต่งจึงเขียนคาแรกเตอร์มาค่อนข้างแบน สารวัตรเป็นคนที่นิ่งชนิดที่ไม่พูดอะไรเลย ผมว่าถ้ามีคนแบบนี้จริงๆ ก็คงไม่มีใครคบหรอก เช่น ขณะที่สารวัตรกำลังนั่งกินข้าวอยู่ แล้วมีคนที่แอบปลื้มเอาของมาให้ ผมว่าต่อให้เป็นคนมารยาทแย่แค่ไหนก็ตาม ก็คงต้องตอบว่าขอบคุณครับ แล้วรับของไว้ แต่ไอ้สารวัตรกลับตอบว่า ซื้ออะไรมา ไม่ชอบ! แต่ผู้หญิงกลับกรี๊ดกร๊าดถูกใจ ขอถ่ายรูปด้วย สารวัตรก็ปฏิเสธว่า ไม่ถ่าย แล้วเดินหนี ผู้หญิงก็กรี๊ดชอบใจไปอีก ผมว่านิยายวายค่อนข้างจะเซอร์เรียลในหลายมิติ เลยต้องพยายามทำความเข้าใจตัวละครตัวนี้
ส่วนผมยังอ่านไม่จบเล่ม แต่ก็พยายามทำการบ้านในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด พอได้บทมา ผมจะอ่านและเขียนกำกับในแต่ละประโยคว่า ซีนนี้ต้องการอะไร ไทน์พูดประโยคนี้ทำไม ลองวิเคราะห์เอาเอง และพยายามเบลนด์ตัวเองเข้าไปให้ได้มากที่สุด
วินเล่าถึงวิธีทำการบ้านของตัวเองบ้าง ?
วิน : ไทน์เป็นคนที่มีเอเนอร์จี้ในตัวสูง สามารถดีดได้ตลอดเวลา ในขณะที่ตัวผมเองค่อนข้างนิ่งๆ เฉื่อยๆ ช่วงแรกที่แสดง ผมจึงยังปรับตัวไม่ได้ ช่วงหลังๆ ของการถ่ายทำถึงจะเริ่มจูนเข้าหาตัวละครได้มากขึ้น แต่ก็มีบางบุคลิกในตัวของไทน์ที่มีความติ๊งต๊อง ตลกๆ ซึ่งตัวผมเองมีบุคลิกแบบนั้นอยู่ในตัว ฮ่าฮ่าฮ่า
แสดงซีรีส์ครั้งแรกรู้สึกยังไงบ้าง ?
วิน : ตอนถ่ายคิวแรก ผมเกร็งมากจนลืมหายใจ สูดลมหายใจเข้า กลั้นหายใจ แล้วพูดๆๆ พอผู้กำกับสั่งคัตปุ๊บ ถึงค่อยหายใจต่อ เกร็งมาก ตื่นเต้น กดดันไปหมดทุกอย่าง ผมยังคุยกับพี่ไบร์ทเลยว่า ผมโคตรเครียดเลย กลัวจะทำออกมาได้ไม่ดี ในขณะที่พี่ไบร์ทเขาผ่านงานมาเยอะ เล่นได้ไหลลื่นกว่าผมมาก พี่ไบร์ทก็จะคอยบอกผมว่า ไม่ต้องตื่นเต้น ช่างแม่ง ลุยเลย ซึ่งคำว่าช่างแม่งนั้นใช้จัดการกับอาการตื่นเต้นได้ผลจริงๆ เพราะถ้าเรามัวแต่ไปกำความกลัว ความตื่นเต้นเอาไว้กับตัว เราก็จะไม่สามารถมีความรู้สึกนึกคิดแบบตัวละครได้จริงๆ และคนดูก็จะดูออกว่าเราไม่ใช่ตัวละครตัวนั้น ผมจึงต้องช่างแม่งกับทุกอย่าง แล้วเดินหน้าลุยอย่างเดียว
มองทิศทางในอนาคตของตัวเองไว้อย่างไร ?
ไบร์ท : ผมอยากยึดนักแสดงเป็นอาชีพหลัก รู้สึกอยากเห็นตัวเองตอนอายุ 45 ที่แม้บนใบหน้าอาจจะมีริ้วรอย แต่ยังได้รับบทดีๆ อยู่ อาจจะเป็นตำรวจ หรือเป็นบทอะไรก็ตามที่แปลกใหม่ ไม่ใช่แค่หนังที่สุดท้ายพระเอกรักกับนางเอกแล้วจบ ผมคิดว่าเมื่อเราโตขึ้น เราก็ต้องเก่งขึ้น และได้รับบทที่ท้าทายขึ้นเรื่อยๆ
วิน : ผมยังไม่หวังอะไรมากไปกว่าการเรียนรู้ศาสตร์แขนงนี้ให้ลึกขึ้นเรื่อยๆ ผมเคยคิดว่าการแสดงก็แค่การทำท่าโกรธ ร้องไห้ เสียใจ ไม่เคยรู้เลยว่าเราต้องใช้ความรู้สึกจริงมากถึงขนาดนี้ ยิ่งได้เรียนรู้ ยิ่งทำให้หลงใหลในการที่เราได้กลายเป็นใครอีกคนแบบทุ่มหมดทั้งตัว ความคิด และหัวใจ คงไม่มีโอกาสในชีวิตประจำวันที่เราจะได้เปลี่ยนไปเป็นคนนั้นคนนี้เท่ากับการได้เป็นนักแสดงอีกแล้ว” เขาปิดท้ายด้วยรอยยิ้มอีกเช่นเคย
โอ๊ยยย !! ทีนี้เพื่อนๆ คงได้รู้แล้วใช่ไหมว่า ทั้งสองคนนั้นเขาเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันมากน้อยแค่ไหน ถึงได้รู้ใจกันมากขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเราต้องคอยไปติดตามว่าความมือใหม่ของวินกับความมีน้ำใจช่วยเทนรด์ช่วยฝึกน้องของหนุ่มไบร์ทนั้น จะทำให้ซีรีส์เรื่อง "2gether The Series เพราะเราคู่กัน" นี้มีความเรียลและสนุกชวนฟินอย่างไรบ้าง
ขอบคุณที่มา
ELLE thailand