สนามบินบุรีรัมย์เข้ม ผู้โดยสารขาเข้า-ขาออก ต้องกรอกข้อมูลประวัติส่วนตัว ผ่านแอปพลิเคชั่น ”buriram pawwport “ ไม่กรอกไม่ให้เข้าเมืองบุรีรัมย์ เพื่อติดตามตัวได้ง่ายกรณีติดเชื้อโควิด 19 ขณะ ผอ.การท่าอากาศยาน เผยยังมีคนเข้าใจผิดคิดว่า "ปิดสนามบิน” ระบุยังให้บริการตามปกติ เพียงแค่ขอคัดกรองเท่านั้น
วันที่ 18 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการ "ล็อกดาวน์” หรือการปิดเมืองวันแรก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด -19 ซึ่งถือเป็นจังหวัดแรก ที่ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด พร้อมนำเอามาตรา 35 มาใช้ในการควบคุม
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ยังคงเน้นไปที่สถานีขนส่งขาเข้า เช่น สถานีขนส่งรถโดยสาร ,สถานีรถไฟ และสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ มีการเข้มงวดคัดกรองผู้โดยสารทุกคน ด้วยการตรวจเช็คอุณหภูมิร่างกาย โดยเฉพาะชาวต่างชาติจะต้องมีการตรวจคัดกรองเป็นพิเศษ โดยได้รับความร่วมมือกับผู้โดยสารเป็นอย่างดี
ที่สนามบินสตึก บุรีรัมย์ ได้มีการตรวจผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก โดยเฉพาะผู้โดยสารขาเข้า เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจคัดกรองตามขั้นตอนอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ผู้โดยสารแต่ละคนจะต้องกรอกข้อมูลผ่านแอปพลิเคชั่นชื่อ "Buriram pawwport” ซึ่งเป็นแอปของสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์
ผู้โดยสารจะต้องกรอกรายละเอียดตามที่แอปฯ สั่ง เช่นชื่อ ที่อยู่ มาจากไหนแล้วจะไปไหน มาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่ออะไร รวมถึงโรคประจำตัวของผู้โดยสาร ถ้าหากผู้โดยสารคนใด ไม่กรอกข้อมูลครบถ้วนเจ้าหน้าที่ก็จะไม่อนุญาตให้ออกจากสนามบินเข้าไปในตัวจังหวัดบุรีรัมย์
นายสมหมาย ไชยนิจ ผอ.ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวทางสนามบินทำอย่างเข้มข้นแบบไม่ละเว้น เพื่อให้การคัดกรองเบื้องต้นเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแอปพลิเคชั่นที่ผู้โดยสารกรอก จะเป็นฐานข้อมูลในการติดตามหาตัวบุคคลได้ง่าย กรณีผู้โดยสารที่เข้ามาแล้วเกิดติดเชื้อโควิด-19
ผอ.ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ กล่าวด้วยว่า หลังจากมีการปิดเมืองบุรีรัมย์ ได้มีคนสอบถามมาเป็นจำนวนมาก ว่าสนามบินปิดหรือไม่ ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด การปิดเมือง ไม่ได้หมายถึงไม่ให้คนเข้าเมือง แต่เป็นการคัดกรองเข้มข้นเท่านั้น จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทั่วไปว่า สนามบินยังเปิดตามปกติ แต่ผู้โดยสารจะต้องถูกคัดกรองตามกระบวนการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทั้งนี้ไม่ได้มีการกักตัว 14 วันเหมือนกรณีแรงงานไทยในเกาหลีใต้ที่ผิดกฎหมาย