หลังจากจบคดีกรณี ปมซื้อขายหน้ากากอนามัย ที่มีเจ้าของคลินิกสาวไปขอความช่วยเหลือ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาไปแจ้งความเพื่อเอาผิด ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ประกาศขายหน้ากากอนามัย แล้วนั้น ทาง หนุ่ม กรรชัย เผยในรายการหนึ่งถึงเรื่องนี้ ระบุว่านายอัจฉริยะ พูดในคลิปด้วยว่า เหมือน ศรรามแยกทางภรรยาแล้ว ซึ่งถึงเปลี่ยนนามสกุล มีการหย่า หากมีการฟ้องร้องก็ต้องมีการไปนำสืบว่าร่วมกันทำหรือไม่ แต่ที่คนในวงการหรือประชาชนช็อกกันคือ เรื่องที่บอกว่าทั้งคู่หย่ากันแล้วหรือ เรื่องจริงหรือไม่
“ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” หรือ “กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ” หลังถูกประธานชมรมคนดังปล่อยข่าวว่าหย่า “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” สามีพระเอกดังไปแล้ว ล่าสุดสาวติ๊กได้เปิดอกเคลียร์ผ่านเพจ “อีจัน” ยอมรับว่าหย่าจริงกับ "หนุ่ม ศรราม" ยอมรับว่าตนและสามีได้เซ็นใบหย่ากันแล้วจริงๆ และได้หย่ากันมานานแล้ว แต่ไม่ได้หย่าเพราะไม่รักกันแล้ว เพียงแค่หย่าแก้เคล็ดเท่านั้น
สาเหตุเพราะเป็นการแก้เคล็ดเนื่องจากมีพระท่านทักมาว่าหากหย่ากันแล้วเรื่องไม่ดีในชีวิตที่ทั้งคู่เจออยู่จะเบาบางลง นั่นเป็นสาเหตุของการหย่าในครั้งนี้ และยังไม่มีกำหนดที่จะกลับไปจดทะเบียนสมรสกันอีก แต่ในด้านการใช้ชีวิตคู่ยังคงใช้ชีวิตเช่นเดิม
“ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์”บอกว่า อยากให้มองภาพว่าคนเราที่หย่า แล้วไม่รักกันต้องดูว่าอยู่ด้วยกันได้ไหม เราออกไลฟ์สดกันอยู่ตลอด ตลอด ฉะนั้นถ้าคนไม่รักกัน มันคงไปกันนานแล้ว เกิดรื่องหลายอย่างก็ไปกันแล้ว แต่นี่ก็ยังอยู่ด้วยกัน มันไม่ใช่การสร้างภาพ เราไม่ได้จับมือกันสร้างภาพ แต่ ณ วันนี้ที่หย่ากัน มันเป็นเคล็ด เพราะมีพระทักว่าถ้าได้หย่ากันเรื่องไม่ดีจะเบาบาง ส่วนจะกลับไปจดทะเบียนอีกครั้งหรือไม่ อันนี้ขอให้หมดวิกฤตใหญ่ๆ เรื่องทะเลาะก็มี ทะเลาะกันบ้างที่เราไม่เข้าใจกัน แต่ไม่ใช่ทะเลาะรุนแรง เป็นการนั่งคุยกันมากวก่า ว่ามันเกิดปัญหาอะไร ทำไมต้องกลายเป็นแบบนี้ เป็นการนั่งคุย ปรับความเข้าใจกันมากกว่า อ่านทุกคอมเมนต์ด่าตั้งแต่เริ่มต้น จะมีบางคนบอกว่าอย่าไปอ่าน เสียสติ แต่รู้สึกว่าการอ่านคอมเมนต์ทำให้เรามีแรงผลักดัน ทำให้มองโลกแล้วเข้าใจอีกมุมหนึ่ง มันอาจจะแรง เวลาสวน เราสวนแรง แต่ไม่ได้สวนโดยขาดสติ ถ้าว่าเราเราให้อภัย แต่เมื่อไหร่ที่แตะต้องลูก ก็ต้องออกมาปกป้อง คนเราต้องมีหนามนิดนึงเราเดินไปกับสามีและคนที่รักเรา เรายังเป็นครอบครัวและรักกัน “พี่หนุ่มก็ไม่เคยที่จะปล่อยมือ” เราเรียนรู้ชีวิตที่อยูด้วยกัน
