"แม่ไม่ต้องทำงานแล้วนะ ลาออกมาได้แล้ว "ไบร์ท" จะดูแลแม่เอง" นี่คือคำพูดที่ไบร์ทให้ไว้กับแม่ หนุ่มน้อยนัยน์ตาโศก ผู้โชกโชนต่อการทำงานในวงการบันเทิง ถึงแม้ในวันนั้นตัวเองจะยังไม่ประสบความสำเร็จแต่ก็มีความกตัญญูอยู่เต็มหัวใจ เขาเอ่ยกับผู้เป็นแม่ที่เลี้ยงดูมาว่าต่อจากนี้ไปแม่จะไม่ลำบาก ซึ่งวันนี้เขาทำมันได้แล้ว ...
"ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี" กับละคร 13 เรื่องในระยะเวลา 8 ปีที่เวียนวนในวงการแต่ผู้ชมต่างไม่รู้จัก วันนี้เขาย้อนเล่าชีวิตตั้งแต่เข้าวงการ ลำบากแค่ไหนก็ไม่เคยท้อ ขอสู้เพื่อครอบครัวและอนาคตตัวเอง ...
วงการบันเทิงของเราไม่ได้เกิดปรากฏการณ์อย่างนี้มานานมากแล้ว แต่นักแสดงสองคนนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้แก่บ้านเรา สิ่งนี้คือความภาคภูมิใจเหลือเกิน สำหรับ ซีรีส์สุดฮอต "เพราะเราคู่กัน 2 gether the series" วันนี้สองนักแสดงนำได้ถูกเชิญมาออกรายการแฉอย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งๆ ที่แต่ก่อนเคยเป็นแค่คนที่ถูกลืม "มดดำ คชาภา" อึ้ง !! ถึงกับยกมือไหว้ "ไบร์ท วชิรวิชญ์" กล่าวขอโทษที่ไม่เคยเชิญมาออกรายการ วันนี้เต็มใจเปิดสตูดิโอ 24 ชม.จะมาออกเมื่อไหร่เที่ยงคืนก็ยินดีต้อนรับ !!
ซึ่งหนุ่ม "ไบร์ท" เล่าให้ฟังว่า "ทำงานมาตั้งแต่อายุ 15 ขณะนี้ อายุ 22 ย่าง 23 เริ่มต้นจากรายการสตรอเบอร์รี่ครับเค้ก ทำอยู่ 2-3 ปี หลังจากรายการปิดก็กลับไปเรียนต่อและแคสต์งานโฆษณาทำเป็นพาร์ตไทม์ไปเรื่อยๆ ครับ จากที่เคยเรียนภาคปกติงานมันเยอะขึ้นก็เลยลองดร็อปดู เพราะอยากทำงานให้เต็มที่ อยากรู้ว่า 1 ปีเต็มๆ ถ้าทำงานอย่างเดียวจะรอดไหม เหตุผลคือต้องส่งตัวเองเรียนด้วย และจะไม่รบกวนเงินที่บ้าน โดยทางบ้านให้อิสระในการเลือกตัดสินใจทำอะไรเอง เพราะเป็นคนดื้อครับ ไบร์ทมีความรู้สึกว่า ถ้าเราหาเงินเองได้ก็จะทำให้เราสามารถตัดสินใจทำอะไรเองได้อย่างเต็มที่ อายุ 16-17 ก็ไม่เคยขอเงินที่บ้านแล้วครับ"
มีความฝันอยากเป็นนักดนตรีมากกว่าการเป็นนักแสดง ?
คือมีความรู้สึกว่าเราถนัดทางดนตรีมากกว่าครับ แต่โอกาสมันพัดไปพัดมา ก็เลยมาเป็นนักแสดงก่อน
ทุกวันนี้ดูแลคุณแม่เองได้แล้ว ?
ใช่ครับ บอกคุณแม่ไปว่าไม่ต้องทำแล้วครับ เดี๋ยวไบร์ทเลี้ยงเอง เพิ่งให้แม่ออกจากงาน จริงๆ ผมบอกเขามาเป็นปีแล้ว แต่แม่เขาไม่ยอมออก เขาไม่เชื่อ เขาบอกว่าเลี้ยงแม่ไม่ไหวหรอก เดี๋ยวเงินไม่พอจะเอาที่ไหนหมุน แม่ผมเป็นพนักงานแบงก์ครับ เพราะคุณพ่อกับคุณแม่เลิกกันครับ อยู่กับคุณแม่ 2 คนซึ่งมีคุณลุงเปิดโรงเรียนสอนดนตรี
อยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ 10 กว่าๆ ผ่านอะไรมาก็เยอะ กี่รายการแล้วเคยนับไหม ?
ไม่ได้นับเลยครับ จริงๆ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมเคยเล่นละครมากี่เรื่องแล้ว ผมเพิ่งไปเห็นกระทู้ล่าสุด "ไบรท์กับ 13 เรื่องใน 8 ปีของวงการบันเทิง" ผมเพิ่งรู้ว่าผมเล่นมา 13 เรื่องแล้ว แต่บางทีไปออกฉากเดียวงี้ครับ ไม่ได้เป็นตัวหลัก
มาดูความพยายามของไบรท์ ในวงการบันเทิงกัน
คำว่าละครของไบร์ทคือ เราได้เข้าฉาก 2 ฉากบ้าง 4 ฉากบ้าง ถูกมั้ย ?
ที่ขำสุดคือผมเคยเล่นช่อง 3 ครับ ชื่อเรื่องเฮฮาเมียนาวีครับ ถ่ายไว้ 5 ปีเพิ่งจะออนแอร์ เมื่อประมาณปีที่แล้ว ทั้งเรื่องคือผมเล่นเป็นทหารเรือที่อยู่บนเรือ นักแสดงนำเขาจะพูดกันอยู่ตรงนี้ใช่ไหมครับ แต่ผมจะอยู่ฉากหลัง ค่อยถูพื้นอยู่ครับ แทบไม่มีบททั้งเรื่องเลย มีพูดอยู่ประมาณ 2 ครั้งครับ เวลาพระเอกคุยกันผมจะต้องถูเรืออยู่ข้างหลังตลอด หรือไม่ก็มีไบร์ทแบกน้ำอยู่กับเพื่อนตัวประกอบ ไม่ได้พูดครับทั้งเรื่องได้ 30,000 ครับ ถ่ายที่สัตหีบไปกลับทุกอาทิตย์เลย
นั่นแหละคือเงินที่ส่งตัวเองเรียน จริงๆ ชีวิตมันโหดร้ายเนาะ ไม่เกี่ยงบททำอะไรก็ได้ขอให้ได้เงินเลี้ยงดูตัวเอง เพราะว่าต้องเอาเงินไปเรียนหนังสือ ...
โชคดีตรงที่ โรงเรียนค่าเทอมไม่แพงด้วย
เล่นละครมา 13 เรื่องในเวลา 8 ปี เคยน้อยอกน้อยใจไหมว่าเราทำอะไรอยู่ ?
ผมไม่มีความน้อยใจอะไรเลย คือผมไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเป็นพระเอกหรือว่าจะต้องโด่งดัง คือผมคิดแค่ว่าเดือนหน้าต้องใช้อะไร ต้องใช้เงินกี่บาท เดือนนี้ต้องหากี่งาน เดือนนี้ต้องไปแคสต์โฆษณาได้กี่ตัว ผมจะมาอารมณ์นี้มากกว่าครับ
ไปเป็นตัวประกอบคิดว่าเราจะได้เงินเท่าไหร่ ถ้าเงินไม่พอจะต้องวิ่งไปหาแคสต์โฆษณาที่ไหน คำว่าดังไม่เคยมีอยู่ในหัว ...
เวลามีคนพิมพ์มาถามว่าไบร์ทน้อยใจไหม ผมจะตอบว่า "ไม่เคยครับ ไม่เคยท้อไม่เคยน้อยใจ ไม่ได้มองไกลมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว" เพิ่งจะรู้สึกว่าตัวเองจะต้องจริงจังจะต้องมุ่งมั่นเมื่อตอนที่ดร็อปเรียนครับ คิดว่าเราจะต้องทำตรงนี้จริงๆ จังๆ ได้ ยึดให้มันเป็นอาชีพได้ เป็นอาชีพเดียว แต่ตอน 5-6 ปีแรก คือทำเป็น Part Time
ตอนนั้นเรียนอยู่วิศวะ อินเตอร์ธรรมศาสตร์ ...
ผมเรียนฟรีครับเป็นนักเรียนทุน
(มดดำยกมือไหว้) ชีวิตมันสุดจริงๆ รู้ว่าเราไม่มีเงินที่จะเรียนในมหาลัยเอกชนแพงๆ ก็ต้องสอบเอา รู้แต่ว่าเราจะต้องเอาค่าเทอมฟรีมาให้ได้ ตอนนั้นทำยังไง ?
โจทย์ของผมคือแม่อยากให้เรียนวิศวะที่ไหนก็ได้ ตัวผมเองอยากเรียนอินเตอร์ เพราะอยากได้ภาษา ผมก็หาๆ ว่าที่ไหนมีทุนให้สอบบ้าง ผมก็เจอที่นี่ ก็พยายามอ่านหนังสือไปสอบครับ ผมก็สอบตรงกับที่นี่เลย พอได้แล้วก็ตัดสินใจเอาที่นี่เลย คือมันตอบโจทย์ครับ คือคุณแม่พอใจและเราสามารถดูแลตัวเองได้ คือทุกฝ่าย Happy ก็ ok ครับ แต่ตอนนี้ไม่ได้เรียนที่นั่นแล้วครับ ออกมาแล้วเพราะว่าเขามีตั้งไว้ให้เกรด 3 ขึ้นไปถึงจะได้ทุนต่อ แต่พอรับงานมากขึ้นก็ไม่สามารถที่จะรักษาเกรด 3 เอาไว้ได้ครับก็เลยต้องออกมา เพราะถ้าเรายังทำงานตรงนี้อยู่ก็คงไม่ได้เป็นวิศวะแล้วครับ ตอนนี้เรียน Marketing inter ครับอยู่ ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท
ทั้งนี้ "ไบร์ท" ได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ว่า "ขอบคุณทุกๆ คน ขอบคุณทีมงานที่ช่วยกันทำ ขอบคุณน้องวิน ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาเป็นตัวละครทำให้ละครสมบูรณ์แบบ ถ้าซีรีส์มันไม่สนุกมันไม่ดีขนาดนี้ ก็คงไม่มีพวกเราสองคนในวันนี้ ขอบคุณทุกคนมากๆ ครับ"
อย่างที่บอกว่าปรากฏการณ์ครั้งนี้มันเกิดขึ้นทั้งประเทศไทยและต่างประเทศจริงๆ ทุกคนภาคภูมิใจกับการที่เราจะมีซูเปอร์สตาร์คู่ใหม่ขึ้นมา ขอให้น้องดังที่สุดเอาให้สุด ทุกคนรอคอยให้ถึงวันนั้น