รัฐนิวยอร์กของสหรัฐ มีรายงานพบศพผู้เสียชีวิตอีกกว่า 1,700 ราย ในบ้านพักคนชราและสถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุหลายแห่ง ซึ่งไม่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ขณะที่ทางการรัฐกำลังถูกตรวจสอบ การปกป้องประชาชนกลุ่มเสี่ยง ในช่วงที่กำลังเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 อย่างน้อย 4,813 คน ในบ้านพักและสถานสงเคราะห์คนชรา ในเขตรัฐนิวยอร์ก ทางภาคเหนือฝั่งตะวันออกของสหรัฐ นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. จากข้อมูลเป็นทางการ ที่เปิดเผยเมื่อคืนวันจันทร์ (4 พ.ค.) โดยตัวเลขนี้รวมถึงผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ก่อนที่การตรวจพบการติดเชื้อจะได้รับการยืนยันจากห้องแลป
จนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นแน่ชัดว่า มีผู้เสียชีวิตมากน้อยเท่าใด ในบ้านพักคนชรา ในเขตรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นรัฐที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รุนแรงที่สุดในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลที่เปิดเผยล่าสุด โดยเจ้าหน้าที่ของนายแอนดรูว์ คูโอโม่ ผู้ว่าการรัฐ ไม่รวมคนชราที่ถูกย้ายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า บ้านพักคนชรา 22 แห่ง ในเขตนครนิวยอร์ก และเกาะลอง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 คน และบ้านพักคนชราอีก 62 แห่ง มีผู้เสียชีวิตแห่งละ 20 – 39 คน
รายงานของสื่อท้องถิ่นในนครนิวยอร์ก ระบุว่า ทางการรัฐนิวยอร์กเก็บศพผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในรถบรรทุกห้องเย็น จอดอยู่ริมท่าเรือในเขตบรูคลีน เนื่องจากขณะนี้ สถานที่เก็บศพทั้งของรัฐและเอกชน ทั่วเขตรัฐนิวยอร์ก แทบไม่มีที่เก็บศพรองรับอีกต่อไป เหตุจากผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 พุ่งสูง บวกกับผู้เสียชีวิตจากสาเหตุอื่นทั่วไป.