เคยคิดหายไปจากโลกใบนี้ !! “ไข่มุก BNK48” ตกเป็นเหยื่อ Cyberbullying โดนโจมตีอย่างหนัก จากพลังงานด้านลบทางโซเชียล ...
ในห้วงเวลาปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมาเพียง 5 เดือนเท่านั้น ข่าวสารตามหน้าฟีดทางโซเชียลทั่วโลก มักจะมีข่าวการฆ๋าตัวตายสุดสะเทือนใจแทรกอยู่แทบจะทุกวัน ซึ่งหลายเคสผู้ตายมีแรงจูงใจจากการถูกสังคม ผู้คนรอบข้างบูลลี่เกลียดชัง แต่ใช่ว่าการบูลลี่กันนั้นจะเป็นเพียงแค่การสบประมาท ด่าทอ ทำร้าย ซึ่งๆ หน้ากันเท่านั้น เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป การสร้างตัวตนในโลกโซเชียลเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มช่องทางการทำมาหากิน หรือติดต่อสื่อสารกับผู้คนในวงกว้างอย่างสะดวกง่ายดาย การถูกไซเบอร์บูลลี่จึงได้เริ่มขึ้นจากจุดๆ นี้ ...
อย่างเช่นข่าวช็อกวงการกีฬามวยปล้ำหญิงญี่ปุ่น ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นข่าวการเสียชีวิตของ "ฮานะ คิมูระ" นักมวยปล้ำหญิงวัยเพียง 22 ปี เธอตัดสินใจจบชีวิตด้วยตัวเอง สาเหตุเกิดจากเธอตกเป็นเหยื่อของการถูกวิจารณ์อย่างหนักบนโลกโซเชียล ทั้งเรื่องรูปร่างหน้าตาที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นมากนัก โดยเธอได้เผยเรื่องราวสุดเจ็บปวดผ่านทวิตเตอร์ของตัวเอง
และจากกรณีสุดเศร้าสลดดังกล่าว สะเทือนใจคนทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยในหนึ่งศิลปินชาวไทยอย่าง "ไข่มุก-วรัทยา ดีสมเลิศ" สมาชิกวง BNK48 ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊ค ด้วยการโพสต์ข้อความไว้อาลัย พร้อมกับบอกเล่าถึงเรื่องราวของเธอที่เธอเองก็ตกเป็นเหยื่อของ Cyberbullying เช่นกัน จนเคยคิดอยากหายไปจากโลกนี้เลยทีเดียว หลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก เหมือนเป็นศูนย์รวมทางอารมณ์ด้านลบของโลกโซเชียล
อย่างไรก็ตาม จากเรื่องสะเทือนใจครั้งนี้เองก็ทำให้ "ไข่มุก BNK48" หรือ "ไข่มุก วรัทยา ดีสมเลิศ" ก็ได้เขียนข้อความไว้อาลัยถึงนักมวยปล้ำหญิงคนนี้ พร้อมทั้งเปิดเผยถึงสิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยมีใครล่วงรู้มาก่อน โดยเธอเองยอมรับว่า เคยคิดจะหายไปจากโลกนี้เช่นเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาเธอเองก็เคยถูกวิจารณ์อย่างหนัก จนรู้สึกว่า ตัวเองได้กลายเป็นศูนย์รวมอารมณ์ในด้านลบของคนอื่นๆ ไปเสียแล้ว
โดย "ไข่มุก" ได้เขียนเอาไว้ว่า “คิดว่าถึงวันนี้เราก็อยากจะบอกเรื่องนึงกับทุกคนค่ะ จริงๆ แล้วตัวเราเองก็มีความคิดที่อยากจะหายไปจากโลกนี้เหมือนกันนะ เคยรู้สึกว่าหากไม่มีเราก็คงทำให้หลายๆ คนสบายใจที่ไม่ต้องพูดคำที่ไม่ดีใส่กัน ไม่แสดงความเกลียดกันออกมา เรารู้สึกเหมือนเราเป็นศูนย์รวมของอารมณ์ด้านลบของคนอื่นๆ
แต่ความจริงแล้วเราแค่เป็นคนที่แตกต่าง เรารู้ว่าเราไม่เหมือนใคร แต่มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ก็มีความแตกต่างกันไม่ใช่หรอคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ บุคลิก หรือนิสัยใจคอ มันคือความสวยงามที่ทุกคนมีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นก็ควรจะยอมรับและให้เกียรติทุกคนอย่างเท่าเทียมในฐานะเพื่อนมนุษย์นะคะ ...
... เราเคยคิดนะว่าคนที่เขาไม่ชอบเราเนี่ย เขาไม่ชอบเราเพราะอะไร อาจจะเป็นแค่เพราะว่าเขาแค่อยากจะมอบความเกลียดให้เรา เขาจึงมองว่าเราแบ๊วในสายตาเขา หรือเป็นเพราะเราแบ๊วเขาจึงเกลียดเรา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอย่างไหนเราก็ไม่มีทางแก้ได้เลยค่ะ เพราะเขาได้ตัดสินคนๆนึงไปแล้ว และตัวเราก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเพราะมันก็คือส่วนนึงของตัวตนเราจริงๆ
แต่สิ่งที่ทุกคนมองเห็นมันไม่ใช่ตัวตนของเราทั้งหมด มันเป็นแค่มุมเล็กๆมุมนึง ที่เราชอบพูดคุยและมีลักษณะภายนอกที่เป็นแบบนี้ แต่หากได้ลองมารู้จักตัวตนที่แท้จริง ลองรู้จักตัวเราให้ลึกดูอีกหนึ่งขั้นก็จะมองเห็นในอีกแบบนึง ยิ่งลึกลงมาอีกก็จะสัมผัสได้ถึงจิตใจที่แท้จริงของไข่มุกจริงๆ ค่ะ
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเกลียดใคร ก็ขอให้มองคนนั้นแบบลึกๆ แบบถี่ถ้วนนะคะ อย่างนักมวยปล้ำหญิงคนนี้ที่โดนผู้คนพูดถ้วยคำเกลียดชังทุกวัน เคยมีใครมองเขาที่ลึกๆในใจเขาบ้างไหมคะ เพราะเขาเองก็มีความฝันที่จะเป็นนักมวยปล้ำหญิงที่ประสบความสำเร็จ ได้พิสูจน์ตัวเอง เป็นที่ยอมรับของใครๆ หากแต่ว่าวันนี้เขาไม่ได้ทำมันต่อไปแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจ และน่าเศร้ามากๆ นะคะ ...
... มาถึงจุดนี้หลายคนก็คงถามว่าไข่มุกหลุดมาจากความรู้สึกคิดสั้นได้ยังไง ไข่มุกบอกกับตัวเองเสมอว่า หากหัวใจของเรายังเต้นอยู่ เราก็ต้องสู้ต่อไป ชีวิตของฉันต่อจากนี้ฉันจะเป็นคนเลือกเอง ฉันจะเลือกรับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต จะไม่จมปลักกับคำพูดไม่ดีที่คอยฉุดรั้งเราให้ลงไปอยู่ในภวังค์แห่งความเศร้าอีก ใครบอกว่าชีวิตนี้ไม่มีความสุข ไม่มีทางเลือกเลย จริงๆ แล้วบางทีเราอาจจะแค่กำลังหลงทางและหาทางออกไม่เจออยู่ แต่ชีวิตทุกคนมีทางเลือกเสมอนะคะ อย่างน้อยเราก็สามารถเลือกที่จะมองด้านดีๆ เปิดรับสิ่งดีๆ ให้เข้ามาในชีวิต นั้นเป็นความสุขที่เราสามารถมอบให้ตัวเองได้อย่างแท้จริงเลยค่ะ
สำหรับทุกคนที่กำลังเผชิญกับปัญหา cyberbully การกลั่นแกล้งจากทางอินเทอร์เน็ตจนมันส่งผลต่อสภาพจิตใจและชีวิตจริงของเรา ก็อยากให้เปิดรับแต่พลังงานด้านบวกเข้าไว้ (พูดเหมือนง่ายแต่ทำจริงได้ยากใช่ไหมคะ?) เพราะงั้นลองลบ social media ของตัวเองสัก 1 อาทิตย์ค่ะ แล้วใช้ชีวิตแบบใช้จริงๆ เลยนะ ดูสิจะมีคนไหนเดินผ่านเราในตลาดแล้วด่าว่าเราจะมีสักคนไหม ซึ่งมันไม่มีหรอกค่ะ เนี่ยดูสิทุกคนที่ใช้ชีวิตอยู่รอบตัวเรา ไม่เห็นมีใครมาพูดทำร้ายจิตใจเราเลยสักคน แล้วเราจะเอาอะไรกับคนในโซเชียล ที่เขาไม่สามารถส่งผลอะไรกับชีวิตจริงเราได้เลยจริงไหมคะ
เปิดรับแต่คำพูดดีๆ ที่สร้างพลังงานด้านบวกและเป็นแรงผลักดันในชีวิตของเราต่อไป ส่วนคำพูดที่มันไม่ดีก็ปล่อยมันไป หากเราไม่รับมันก็จะย้อนคือไปสู่คนที่พูดเอง ลองทำดูนะคะ แล้วจิตใจของเราจะสงบมากขึ้น จะไม่ยึดติดกับคำพูดในอินเทอร์เน็ต และจะมีความสุขในการดำเนินชีวิตจริงมากขึ้น”
เมื่อได้อ่านสิ่งที่ "ไข่มุก" สื่อสารออกมาทำให้เข้าใจเหยื่อที่ถูกการบูลลี่มากขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น เรายังรู้ถึงการรับมือต่อเหตุการณ์บูลลี่ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นจากใครที่เราไม่เคยรู้จักทางโลกโซเชียลมากยิ่งขึ้น ซึ่งคนเรานั้นต่างเกิดมาและมีชีวิตในช่วงเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า การบูลลี่ที่ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นด้วยการเผชิญหน้าเท่านั้น วันหนึ่งเราอาจตกเป็นเหยื่อการบูลลี่ทางโซเชียลจากผู้ที่ไม่เคยรู้จักกันเลย หรืออาจตกเป็นเหยื่อร่วมกระทำการบูลลี่บุคคลอื่น แม้กระทั่งเป็นผู้เริ่มบูลลี่โดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น ไม่ว่าการกระทำใดๆ ที่ก่อให้บุคคลอื่นรู้สึกด้อยค่า ย่ำแย่ อับอาย เสื่อมเสีย ลองถอยออกมาสักก้าว หายใจเข้าออกอีกหลายๆ ครั้ง ก่อนลงมือแชร์ กดไลค์ หรือเขียน พูดออกไป เพราะสิ่งเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว แม้เราจะลบออกสักกี่ครั้ง ก็ยังฝังในจิตใจของผู้ถูกกระทำเสมอ
ในทางกลับกัน หากต้องเผชิญปัญหาในฐานะเหยื่อของการบูลลี่ ควรตั้งรับอย่างมีสติ เงียบเฉยบ้าง ตอบโต้ ชี้แจงให้ถูกจังหวะ ไม่คิดแค้น เครียด หรือวิตกกังวลเกินไป รวมถึงเลือกที่จะใช้ชีวิตในสังคมสิ่งแวดล้อมที่ดี เหมาะสมกับตัวเอง ปิดรับเรื่องราวทางโซเชียลบ้าง และข้อสำคัญ หากหาทางออกไม่ได้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม
