สิ้นสุดการรอคอย ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2019-20 ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของอังกฤษ มาครองได้เป็นสมัยแรกในรอบ 30 ปี หลังจากทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 ของตาราง ยกพลบุกไปแพ้ให้กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ในนัดที่ 31 ด้วยสกอร์ 1-2 ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ กรุงลอนดอน ซึ่งเท่ากับทำให้พรีเมียร์ ลีก ได้สลักเชื่อลิเวอร์พูล ลงบนถ้วยแชมป์ฤดูกาลนี้ทันที เนื่องจากคะแนนไล่ตามไม่ทัน แม้ว่าจะเหลือเกมการแข่งขันอยู่อีก 7 นัดก็ตาม โดยลิเวอร์พูล มีคะแนนทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่นถึง 23 คะแนน
แมนฯซิตี้จำเป็นต้องชนะในการแข่งขันวันพฤหัสบดี เพื่อความหวังเล็ก ๆ ในการเยื้อแย่งแชมป์กับลิเวอร์พูล แต่เมื่อพ่ายแพ้ในสแตมฟอร์ดบริดจ์ ก็เป็นการรับประกันว่า หงส์แดง จะได้ชูถ้วยแชมป์ในเดือนกรกฎาคมนี้แน่นอน
ก่อนการแข่งขันนัดนี้ ลูกทีมของเจอร์เกน คลอปป์ กุนซือมากฝีมือชาวเยอรมัน ต้องการชัยชนะอีกนัดเดียวก็พอสำหรับการชูถ้วยแชมป์ แต่เมื่อซิตี้แพ้ให้กับทีมเชลชี นั่นก็หมายความว่า พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องรอนัดต่อไปแล้ว ส่งผลให้ทีมเครื่องจักรสีแดง คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศเป็นสมัยที่ 19 และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 1989-90
ส่วนแฟนบอล แม้ว่าจะถูกร้องขอให้พักอยู่ที่บ้าน “stay home” จากนายกเทศมนตรีของเมืองลิเวอร์พูล เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ “เดอะ ค็อป” หลายพันคนก็ออกมารวมตัวกันที่สนามแอนฟิลด์ เพื่อเฉลิมฉลองการคว้าแชมป์ครั้งนี้แล้ว โดยแฟนบอลจำนวนมากที่มาร่วมฉลอง ก็สวมหน้ากากอนามัยและจุดดอกไม้ไฟ พร้อมโบกธงสโมสรกันอย่างสนุก
การคว้าแชมป์ของลิเวอร์พูล เกิดขึ้นในฤดูกาลที่ไม่ปกติ เสี่ยงและเดิมพันสูง หลังต้องหยุดพักการแข่งขันไปนานถึง 3 เดือน จากการระบาดของไวรัส แม้ว่ามีคำแนะนำก่อนหน้านี้ว่า การแข่งขันในฤดูกาลนี้ อาจถูกยกเลิก แต่พรีเมียร์ ลีก ก็กลับมาแข่งขันได้ในเดือนนี้ ทำให้สโมสรฟุตบอลชื่อดังแห่งนี้ สร้างประวัติศาสตร์หลายอย่างในการคว้าแชมป์ครั้งนี้ โดยในฤดูกาลที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์เร็วกว่าทีมอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก เมื่อทำได้ก่อนจบฤดูกาลถึง 7 เกม
หงส์แดงยังทำสถิติเทียบเท่ากับสถิติในลีกสูงสุดกับการชนะ 18 นัดรวด และยังเก็บชัยชนะติดต่อกันในบ้านเป็นสถิติใหม่ โดยรวมเกมกับพาเลซ พวกเขาชนะ 23 เกมติดต่อกัน สถิติถึงวันนี้ พวกเขาเก็บได้ 86 แต้มหลังผ่านไป 31 เกม โดยชนะ 28 เสมอ 2 และแพ้ 1