"เทพไท"ร่ายยาวซัด "ธนกร" มวยไม่มีราคาม้าไม่มีชั้น

2020-07-14 10:30:42

"เทพไท"ร่ายยาวซัด "ธนกร" มวยไม่มีราคาม้าไม่มีชั้น

Advertisement

"เทพไท"ร่ายยาวซัด "ธนกร" มวยไม่มีราคาม้าไม่มีชั้น แจงไม่ใช่ ส.ส.เทวดา แต่ชื่อแปลว่า "เทวดา"จริง  แขวะสัมภเวสีทางการเมือง พร้อมยกบทกลอนของหนังโขนอ้ายลูกหมีส่งมาเตือนสติ “อย่าไปฟังเสียงหมาขี้เรื้อนเห่า จงอย่าเอาตีนเราเขี่ยปากหมา เอาขวดโหลฟาดคอสะพานโบราณว่า เสียเวลาและเทียบค่าไม่ได้เลย”

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึง กรณีที่นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์พาดพิงให้ตนได้รับความเสียหายนั้น ตนขอชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นข้อๆดังต่อไปนี้

1.นายธนกรกล่าวว่าไม่เคยสัมภาษณ์ถึงตน ทำไมตนต้องมาชี้แจงแทนนายอภิสิทธิ์นั้น ก็อยากจะถามกลับไปยังนายธนกรเหมือนกันว่า ที่นายอภิสิทธิ์พูดแสดงความเห็นบนเวทีเสวนาทางวิชาการ ไม่ได้เอ่ยชื่อถึงนายธนกร วังบุญคงชนะ เลยแม้แต่คำเดียว แต่ทำไมนายธนกร จึงออกมาตอบโต้นายอภิสิทธิ์ให้ได้รับความเสียหาย ตนจึงจำเป็นต้องชี้แจงแทนนายอภิสิทธิ์ เพราะนายอภิสิทธิ์ไม่อยู่ในฐานะที่จะมาตอบโต้กับนายธนกรได้ เพราะนายธนกรเป็นมวยไม่มีราคาม้าไม่มีชั้น

2.นายธนากรกล่าวหาตนว่าเป็น ส.ส.เทวดา ไม่มีมารยาททางการเมือง ตนขอชี้แจงว่า ตนไม่ใช่ ส.ส.เทวดา เพียงแต่ชื่อคำว่า “เทพไท แปลว่าคือเทวดา”เท่านั้น และตนได้รักษามารยาทในการเป็นสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเคร่งครัด แต่ก็ไม่ควรปิดกั้นการทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนของประชาชน ตนได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เห็นได้จากสิ่งใดที่พลเอกประยุทธ์ทำดี ก็ชื่นชมมาโดยตลอด สิ่งใดที่ไม่ดี ก็วิพากษ์วิจารณ์ในฐานะตัวแทนของประชาชนคนหนึ่ง ไม่ได้มีอคติต่อ พล.อ.ประยุทธ์ใดๆทั้งสิ้น

3.นายธนกรออกมาท้าว่า ถ้าตนแน่จริงให้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปเป็นฝ่ายค้านอิสระนั้น ตนขอยืนยันว่าตนเป็นได้รับเลือกเป็น ส.ส.ทุกครั้ง ก็เพราะสังกัดพรรคประชาธิปัตย์และจะขอเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตลอดไป จะทำหน้าที่รักษาไว้ซึ่งอุดมการณ์ของพรรคอย่างเคร่งครัด ตนไม่เหมือนกับนักการเมืองบางคน ที่ทำตัวเป็นพวกสัมภเวสีทางการเมือง ที่เปลี่ยนพรรค ย้ายพรรค มาแล้วกี่ครั้ง จนนับครั้งไม่ถ้วน

4.นายธนกรอ้างคำพังเพยว่า เล่นกับหมาหมาเลียปากนั้น อยากให้กลับไปดูว่าคำพูดนี้ตนเคยใช้กับใครมาก่อน ไม่ควรจะจำขี้ปากใครมาใส่ร้าย หรือเหน็บแนมคนอื่น ควรจะประดิษฐ์ถ้อยคำ หรือวาทกรรมใหม่ๆเป็นของตัวเองบ้างจะดีกว่า

5.นายธนกรตั้งคำถามว่า ตนเป็น ส.ส.มาหลายสมัยได้ทำอะไรให้กับ จ.นครศรีธรรมมราชบ้างนั้น ตนไม่จำเป็นต้องโฆษณาผลงาน เพราะคนนครศรีธรรมราชรู้ดีว่า ตนมีทำหน้าที่ ส.ส.ได้ดีหรือไม่ ในยุคโลกสังคมโซเชียลมีเดียไม่มีอะไรปิดบังได้ ถ้าตนไม่มีผลงาน ไม่เป็น ส.ส.ที่ดีของประชาชน ก็คงจะไม่ได้รับเลือกตั้งติดต่อกันมายาวนานเกือบ 20 ปี นายธนกรต่างหาก ที่เป็นคนนครศรีธรรมราช ได้ทำอะไรให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของบ้านเกิดบ้างหรือไม่ แม้แต่นามสกุลของตัวเองก็ยังเปลี่ยนใหม่ เพื่อไม่ต้องการให้เหมือนกับญาติพี่น้อง และนามสกุลเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

6.นายธนกรกล่าวว่า ตนมีคดีความอยู่ในชั้นศาลนั้น ตนยอมรับความจริงว่า คนที่เป็นนักการเมืองย่อมมีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลเเป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่ตนก็พิสูจน์ความเป็นธรรมจากศาลทุกคดี และพร้อมยอมรับกระบวนการยุติธรรมไม่เคยหนีคดี ไม่เคยให้ใครใช้อำนาจรัฐมาช่วยเหลือจนรอดพ้นจากคดีความเหมือนกับนักการเมืองหลายคน ส่วนคดีความหมิ่นประมาทคุณยิ่งลักษณ์ ก็เป็นสิทธิ์ของโจทก์และจำเลย ที่จะประนีประนอมยอมความกัน เพราะเป็นความผิดส่วนตัว เมื่อศาลไม่อนุญาตให้ยอมความ ก็มีการตัดสินคดีเป็นที่ยุติไปแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับการไปขอโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์แต่อย่างใด

7.นายธนกรแนะนำให้ตนนำทฤษฎีเห็บหมาไปใช้ในการเปลี่ยนกลุ่มในพรรคประชาธิปัตย์นั้นขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีมุ้ง ไม่มีแก๊งไม่มีก๊วนการเมือง เหมือนพรรคการเมืองบางพรรค จึงไม่จำเป็นต้องใช้ทฤษฎีเห็บหมาเหมือนกับนายธนกร และชีวิตทางการเมืองของตนสังกัดพรรคการเมืองเดียว คือพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น

8.นายธนกรขอให้ตนเป็น ส.ส.ที่ดีเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลังนั้น ตนขอเรียนว่าตลอดเวลาที่เป็น ส.ส.ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด งานในสภาสู้เต็มที่ ในพื้นที่สู้เต็มร้อย เพราะทำหน้าที่เป็นหมาเฝ้าบ้านให้ประชาชน ไม่เคยถูกปลดออกจากตำแหน่งโฆษก เหมือนกับนายธนกรที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งโฆษกพรรคพลังประชารัฐไปแล้ว ถ้าทำหน้าที่ได้ดี ไม่ปากพร่อย ระรานคนอื่นไปทั่ว ก็คงจะได้ทำหน้าที่โฆษกพรรคต่อแล้ว

นายเทพไท กล่าวด้วยว่า ตนขอชี้แจงข้อกล่าวหาของนายธนกรไว้เพียงเท่านี้ จะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับนายธนกรอีก โดยขอใช้บทกลอนของหนังโขน อ้ายลูกหมี ที่ส่งมาเตือนสติว่า “อย่าไปฟังเสียงหมาขี้เรื้อนเห่า จงอย่าเอาตีนเราเขี่ยปากหมา เอาขวดโหลฟาดคอสะพานโบราณว่า เสียเวลาและเทียบค่าไม่ได้เลย” และไม่อยากจะให้เป็นการรบกวนพื้นที่ข่าวของสื่อมวลชน แต่เมื่อถูกพาดพิงก็จำเป็นที่จะต้องชี้แจงเพื่อปกป้องตัวเอง ไม่ให้สังคมสับสนเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีกับนักการเมืองรุ่นหลัง ที่อยากเป็น ส.ส.ด้วยการใช้ปากหรือนำ้ลายทำลายคนอื่น เพื่อเป็นบันไดไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งทางการเมืองที่ตัวเองต้องการ