ลองของยุค 2000 ... "จ๊ะ อาร์สยาม" เคยโดนนักร้องใจดำทำของใส่ รับ สมัยก่อนเขม่นนักร้องลูกทุ่งเซ็กซี่รุ่นพี่ร่วมค่าย พร้อมเคลียร์สถานะ "แจ็ค ธนพล" กับข่าวพ่อเราไม่ปลาบปลื้ม
นักร้องสาวลูกทุ่งสุดเซ็กซี่อย่าง "จ๊ะ อาร์สยาม" เข้าวงการมาด้วยเพลงสุดฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างคันหู เข้ามาสังกัดอาร์สยามได้ไม่นาน ก็เกิดข่าวเมาท์ว่าทับทางนักร้องลูกทุ่งเซ็กซี่รุ่นพี่ในค่ายอย่าง "ใบเตย-กระแต อาร์สยาม" จนถึงขั้นเขม่นไม่สุงสิงกัน ทั้งยังเผยถึงเรื่องที่โดนทำของใส่หลายครั้งแต่ละครั้งหนักหน่วง แถมคนทำยังเป็นคนในวงการที่ยังต้องเจอกันอยู่ พร้อมเคลียร์สถานะกับ "แจ็ค ธนพล" ว่าที่พ่อตาไม่ปลื้มจริงหรือไม่ ? สาวจ๊ะได้มาเปิดใจทุกประเด็นผ่านรายการคุยแซ่บ SHOW
เซ็กซี่มาตลอดอยากลองเปลี่ยนลุคมั้ย ?
จ๊ะ : ความเซ็กซี่มันเป็นภาพที่หนูเกิดมาจากคันหู แต่ตัวตนจริงๆ เป็นคนโก๊ะๆ ทะลึ่ง ตลกซะมากกว่า ทุกวันนี้บนเวทีหนูเอนเตอร์เทน 70 เปอร์เซ็นต์ เซ็กซี่เหลือ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่เราทิ้งความเซ็กซี่ไปเลยไม่ได้ เพราะเจ้าภาพที่หาไปและคนที่มาดู เค้าก็มารอดูความเซ็กซี่ เราเคยลองไม่เซ็กซี่เพลงจีบหน่อยอร่อยแน่ ใส่เป็นกางเกงขายาว เราเลยใส่กางเกงขายาวไปร้องเพลง กำลังร้องๆ อยู่เจ้าภาพก็เดินไปบอกผู้จัดการว่าขอให้น้องจ๊ะใส่สั้นได้ไหม เหมือนเขาตั้งเป้ากับการมาดูจ๊ะเซ็กซี่ ถ้าถามว่าอึดอัดไหมก็ไม่นะพี่ เพราะด้วยความที่เราใส่เซฟหลายอย่างไม่ได้อึดอัดอะไร เราอาจจะชินแล้วด้วย
อยู่ในค่ายเจอรุ่นพี่แนวเซ็กซี่เหมือนกันอย่างใบเตย กระแต เขม่นกัน ?
จ๊ะ : มันเป็นเรื่องปกตินะหนูว่าถ้าเราบอกไม่เขม่นกันเลยมันก็ไม่ปกติ มันเป็นการเขม่นที่เราทำงานเราไม่ได้เจอกันทุกวันแต่จะมีตัวกลางเป็นคนสื่อ แล้วคนกลางจะเป็นคนที่สื่ออะไรไม่ค่อยตรงเหมือนเป็นนักปั่น ตอนนั้นเราเด็กด้วยเข้ามา 20-21 เราก็เชื่อทุกอย่าง แต่จ๊ะเป็นคนที่ถ้าใครปั่นอะไรมาเราแสดงอาการทันทีเพราะเราเป็นคนที่ไม่เก็บเลย เราก็จะใช้วิธีการเลี่ยงคนนี้ไม่ดีกับเรา แต่ไม่ได้เจอกันแล้วไม่ทำงานร่วมกันคือเขม่นในใจ แต่เวลาเจอกันก็ขอใช้คำว่าวงการมายา ยิ้ม สวัสดีก็ทำงานของเราไปให้เป็นเรื่องงานไปแต่ไม่ได้สนิทกันนอกรอบ
เรื่องที่เขม่นกับใบเตย-กระแต ?
จ๊ะ : เรื่องมันนานมาแล้ว 6-7 ปีได้ แต่ไม่อยากลงรายละเอียด มันเกี่ยวกับเรื่องงานที่คุณทำได้ เราทำไม่ได้ อารมณ์นั้นมากกว่า แต่ตอนนี้เฉยๆ ค่ะ ด้วยความที่อายุของเรา พี่ใบเตย พี่แต พอเรามาคุยถึงเรื่องวันนั้นเราก็ขำๆ สุดท้ายแล้วมันไม่มีใครเคยพูดอะไร แต่ด้วยคนที่อยู่ตรงกลางแล้วปั่นมันก็ทำให้เรารู้สึกโกรธ
มีคนเมาท์ว่าอิจฉารุ่นพี่ ?
จ๊ะ : จ๊ะเข้ามาอาร์สยามครั้งแรก จ๊ะพูดเลยว่าจ๊ะอยากมีงานแล้วก็อยากมีสื่อ จุดประสงค์เราแค่นั้น ก่อนหน้านั้นที่จ๊ะจะมาอาร์สยามมีงานเดือนนึง 60-70 งานอยู่แล้วด้วยความที่คันหูมันดังมากตอนนั้น แต่อาร์เอสทำให้จ๊ะจากที่อยู่ตลาดก็เหมือนขึ้นห้าง เพราะฉะนั้นไม่ได้มีการต้องมาอิจฉาพี่เค้า เพราะแนวเรามันชัดเจนอยู่แล้ว แบบพี่เตยลูกทุ่งไฮโซ พี่แตเป็นลูกทุ่งแนวแดนซ์ๆ โชว์ความสามารถ แรกๆ ที่เข้ามาอาจจะยังแยกไม่ออก แต่พอเวลาผ่านไปมันชัดเจนอยู่แล้ว
เคยโดนทำของ ?
จ๊ะ : ตอนแรกหนูไม่เชื่อ หนูไปออกรายการนึงแล้วอาจารย์ลักษณ์ทักหนู แต่ก่อนหน้านี้ก็มีอาจารย์หลายทักมาเยอะมากว่าหนูโดนของ เพราะหนูเลือดออกปากออกจมูกก่อน ถ้ามองเป็นวิทยาศาสตร์คือช่วงนั้นเราทำงานเยอะด้วย เราไม่ได้คิดเรื่องโดนทำของเลยแต่มันออก 3 วันเป็นขันใหญ่ๆ ออกเป็นลิ่ม หนูก็ไปโรงพยาบาล 3 ที่เค้าก็บอกว่าเป็นภูมิแพ้และไซนัสอักเสบแบบรุนแรง ซึ่งมีคนทักมาตลอดแต่เราไม่เชื่อ จนอาจารย์ลักษณ์ทักหนูว่าเราไม่มีดวงป่วยหรืออุบัติเหตุแต่ที่ป่วยเนี่ยเพราะโดนของ แล้วจากนี้ไปไม่กี่อาทิตย์จ๊ะจะรถคว่ำ ซึ่งหนูก็ไม่ได้เชื่ออาจารย์ลักษณ์ในตอนนั้น แต่เลยไป 2 อาทิตย์กว่าหนูรถตู้คว่ำมันแหกโค้ง แต่ไม่มีใครเป็นอะไรหนัก แต่เกิดอุบัติเหตุหนัก
กลัวมั้ย ?
จ๊ะ : ตอนนั้นกลัวพี่คิดว่าเราโดนของจริงๆ เหรอ เลยโทรหาพี่หนุ่มกรรชัยก็ให้เบอร์อาจารย์ลักษณ์ไปรดน้ำมนต์ที่วัดนึงสมุทรปราการเป็นพระมอญ
รู้ด้วยว่าใครทำของใส่ ?
จ๊ะ : ใช่ค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าเป็นคนนี้แหละที่อยู่ในใจ เราถามอาจารย์ลักษณ์เค้าก็บอกว่าใช่ มันมีความรู้สึกเฉยๆ ว่าเป็นคนนี้ ปกติออกจะดีกันด้วยซ้ำเป็นคนในวงการ เค้าเสียผลประโยชน์ในเรื่องงาน ไม่ใช่แค่หมอลักษณ์พ่อพลที่พี่บอลพาไปก็บอกว่าคนนี้แหละ แต่ทุกคนจะบอกเราหมดเลยว่าให้ปล่อยวางอย่าไปโกรธอย่าไปเกลียด ยิ่งโกรธยิ่งเกลียดจะทำให้ของมันแรงขึ้น ซึ่งวันที่เรารู้ว่าเป็นเค้าเราต้องไปเจอเค้า พี่สาวหนูบอกจ๊ะยกมือไหว้บอกพ่อแก่เลยว่าถ้าเป็นคนๆนี้ที่เราต้องไปเจอเนี่ยขอให้กลับมาเรารู้เลยว่าเป็นเค้าให้เรารู้ว่าเรามีอันเป็นไป เราก็ไปคุยงานไปเจอพี่เค้าสรุปว่ากลับมาเราเดินไม่ได้เลยครึ่งนึงคล้ายอัมพฤกษ์อัมพาต โทรหาพี่สาวให้มารับไปโรงพยาบาล
ตกใจมั้ย ?
จ๊ะ : หนูอธิษฐานในใจกับพ่อแม่ว่าขออย่าให้หนูเป็นอะไร เพราะถ้าหนูเป็นครอบครัวหนูล้มหมดเลย เพราะหนูเป็นหัวหน้าครอบครัว หมอคิดว่าเราจะเป็นเส้นเลือดในสมองตีบกลุ่มคนอายุน้อย สรุปไม่เป็นอะไรเลยแล้วเราก็หาย ตอนเย็นไปทำงานได้เลย
ทำพิธียังไง ?
จ๊ะ : รดน้ำมนต์มันเป็นอะไรที่เราไปรดอยู่แล้วพี่ แต่ของหนูมันเป็นเคสที่ไม่ได้ทำครั้งเดียวจบ เค้าทำใส่เราทำย้ำๆ ตอนแรกๆ ทำเพื่อให้หนูทำงานไม่ได้ให้มีผลกระทบกับงาน แต่หนูกลับเป็นคนที่ไม่เคยเบี้ยวงานเลย ที่เราไปแก้ล่าสุดคือการนอนเทียน ปั้นหุ่นเพื่อถอดชื่อจริงนามสกุลเราไปอยู่ในหุ่นเพื่อเวลาทำมาไม่ได้โดนเราไปอยู่ในหุ่นแล้วประมาณนั้น ซึ่งนานเป็นครึ่งคืนเลย เค้าทำใส่หนูตอน 25 พอ 26 เราก็ยังไม่ได้รู้สึกสบายยังมีอยู่ ส่วนทุกวันนี้เหมือนเราปล่อยวางเพราะเราไม่คิดถึงเค้าแล้ว แล้วก็ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเค้าทำหนู มันมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้หนูรู้ว่าใครทำยังไงได้ยังงั้น หนูโชคดีที่พ่อแก่และความกตัญญูกับพ่อแม่ช่วยหนู ถ้าไม่มีสองสิ่งนี้อาจจะไม่มีจ๊ะมานั่งอยู่ตรงนี้
หลังจากทำพิธีเป็นยังไง ?
จ๊ะ : ดีขึ้นค่ะ ไม่ใช่ทำพิธีอย่างเดียว เค้าจะสอนแง่คิดด้วยให้เราปล่อยวางได้จริงๆ อย่าไปโกรธไปเกลียด ทุกวันนี้เราก็ยังต้องเจอเค้าอยู่ หนูไม่รู้ว่าเค้ารู้หรือเปล่าว่าหนูรู้แล้ว คนเรามันโกหกตัวเองไม่ได้
พี่เอก เอกชัย มาช่วยด้วย ?
จ๊ะ : ป๊าเอกไม่ได้มาช่วยหนูโดยตรง แต่พี่บอลบอกว่าป๊าเป็นคนช่วยคนที่โดนเหมือนหนูจากคนๆ เดียวกัน พี่บอลเป็นสื่อกลางขอคำแนะนำ
อยากบอกอะไรถึงเขามั้ย ?
จ๊ะ : ทุกวันนี้เราก็ไม่รู้ว่าเค้ายังทำอะไรแบบนี้ไหม แค่อยู่ห่างๆ และมองเขา มองระวังตัวถ้าไปเจอเขาต้องยังไง หนูอยากบอกว่าทุกอาชีพมีขึ้นมีลง วันไหนที่เราขึ้นก็วางแผนเก็บเงินชีวิต ไม่ใช่วันที่เราลงเราจะไปโทษคนอื่นว่ามาขึ้นแทน หนูว่ามันเป็นนิสัยไม่น่ารัก สุดท้ายหนูก็ไม่ได้โกรธพี่เค้า สิ่งใดที่หนูพูดๆ แรงไปอยากให้เขารู้ว่าหนูรู้ว่าเป็นเค้า เราก็อยากให้มันจบไปเลย ทำอะไรได้อย่างงั้น
ป้องกันตัวเองยังไง ?
จ๊ะ : ทุกวันนี้เครื่องรางเยอะมาก เวลาขึ้นเครื่องมันดังตอนสแกน ก็มีเบี้ยแก้ ไม่ใช่แค่กันของอย่างเดียว เวลาเราไปงานลมเพลมพัดก็กันได้
พ่อหวงมาก ห้ามมีแฟน ?
จ๊ะ : ประโยคนี้คือตอนเด็กมากกว่า แต่พอโตมาเป็นห่วง ปกติพ่อที่มีลูกผู้หญิงเวลาลูกตัดสินใจจะมีแฟนหรือครอบครัว พ่อก็จะมองเป็นเรื่องใหญ่พ่อมีกฎเยอะมาก อย่างแรกใครจะมาเป็นแฟนต้องไปให้พ่อดูก่อน ล่าสุดยื่นคำขาดว่ายังไม่ต้องทีเดียวพ่อหาให้เอง
สเปกที่เข้าหาพ่อแล้วโอเคแบบไหน ?
จ๊ะ : เป็นคนที่ดูแลเราได้ คอยสอนเราได้ เตือนเราได้ด้วย เพราะเราเป็นคนดื้อเชื่อตัวเอง ตอนนั้นมันเป็นสกู๊ปวันพ่อตอนนั้นคบกับพี่แจ็คใหม่ๆ แล้วเราเป็นคนที่คบแล้วออกตัวแรง แล้วไม่เคยปรึกษาพ่อ วันนั้นพ่อก็ให้สัมภาษณ์ไม่ปรึกษาเราเหมือนกัน วันนั้นนักข่าวถามพ่อว่า พ่อพอใจไหมกับแฟนเราคนนี้ พ่อก็บอกไม่เห็นมีใครบอกผมเลย ใครบอกผมจะเอาคนนี้ ทุกคนสตั๊นต์หมด
เคลียร์กับพ่อยังไง ?
จ๊ะ : พ่อให้คำตอบแบบนั้นเราก้ไม่ได้คุยกัน ทุกอย่างเงียบ นั่งรถกลับบ้านเงียบทั้งคู่ วันนั้นใช้คำว่าพ่อถีบหน้าหนูเลย (หัวเราะ) ไม่ได้โกรธแต่เราน้อยใจทำไมพ่อไม่พูดกับเราก่อน ซึ่งนักข่าวหนูมองว่าเป็นคนนอกครอบครัวพ่อต้องพูดกับหนูก่อน ซึ่งพ่อก็ไม่พูดกับหนู จนไม่ได้คุยกันเป็นอาทิตย์ๆ จนพ่อโทรมาบอกว่าไม่ได้ว่าถ้าเราจะคบใคร พ่อเกิดมายังไม่เคยทำเงินล้านได้เลย หนูเก่งกว่าพ่ออีก พ่อคิดว่าหนูน่าจะมีสมองเลือกคน อารมณ์เขาน้อยใจ
ฟังพ่อพูดแล้วกลับมาคุยกับพี่แจ็คยังไง ?
จ๊ะ : เราไม่ดึคุยว่าคุณรับได้ไหมไม่ได้ถามเลย ถามแค่ว่าถ้าทนไม่ได้ก็เลิกกันไป แต่พี่แจ็คเนี่ยเวลาเลิกกับใครเค้าจะไม่คุยกับคนนั้นเลย งานที่ต้องเจอกันเค้าก็ไม่ไป หนูเลยพูดกับเขาว่าถ้าเราเลิกกันหนูไปทุกงานงานฟรีงานช่วยหนูไปหมด เพราะฉะนั้นถ้าเลิกกันแล้วไม่ไปงานก็นอนติดเตียงเลยนะ (หัวเราะ)
พ่อเคยเจอพี่แจ็คหรือยัง ?
จ๊ะ : เคยเจอค่ะ แต่ไม่คุย เวลาพ่อจะคุยกับพี่แจ็คคือคุยเหมือนคนทั่วๆไป พี่แจ็คก็ไม่เข้าหาพ่อ
สถานะตอนนี้ ?
จ๊ะ : หนูว่าใช้เวลามากกว่าในการที่แบบให้มันชัดเจนก่อนดีกว่า เราไม่อยากให้คนมาโฟกัสเรื่องความรักมากเกินไป เพราะว่าหนูเป็นคนปกติมีรักมีเลิก ให้เวลาเป็นเครื่องตัดสิน เกรงใจพ่อด้วยค่ะ
คลิปสัมภาษณ์ จ๊ะ อาร์สยาม
