มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คนและบาดเจ็บ 3 คน ในเหตุการณ์ชุลมุนเหยียบกันตายที่ไนท์คลับ “โทมัส เรสโตบาร์” ในเขตลอส โอลิวอส กรุงลิมา ประเทศเปรู ขณะที่ นักท่องเที่ยวพยายามหลบหนีการบุกจู่โจมไนท์คลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจาากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งให้ไปยังไนท์คลับแห่งนี้ในช่วงย็นวันเสาร์ เพื่อปิดงานปาร์ตี้ผิดกฎหมาย มีนักเที่ยวเข้าร่วมมากกว่า 120 คน ทั้งนี้ มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ social distancing ถูกบังคับใช้ในเปรู เพราะฉะนั้น การรวมตัวกันด้วยคนหมู่มากเช่นนี้ ถือว่าผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีการประกาศใช้เคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป ในความพยายามมที่จะชะลอการระบาดของไวรัสโควิด-19
เปรูเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ในทวีปอเมริกา ในการใช้มาตรการคุมเข้มป้องกันการระบาดของไวรัส แต่ขณะนี้ เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุดในลาติน อเมริกา โดยมีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 576,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 27,000 ราย จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์
ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการฉบับหนึ่ง กระทรวงมหาดไทย รายงานว่า ตำรวจไม่ได้ใช้อาวุธใด ๆ หรือแก๊สน้ำตาเพื่อเคลียร์พื้นที่ เมื่อเหล่านักเที่ยวเริ่มหลบหนีการจับกุมของตำรวจขึ้นไปชั้นสอง พวกเขาก็เบียดเสียดและเหยียบกันบริเวณบันไดทางขึ้น
ตำรวจระบุในแถลงการณ์ว่า พวกเขาเริ่มสอบสวนเพื่อหาตัวเจ้าของไนท์คลับ และคนที่รับผิดชอบในการจัดงานท้าทายกฎหมายครั้งนี้ ซึ่งมีผู้ถูกจับกุมแล้ว 23 คน ขณะที่ ทางกระทรวงมหาดไทย แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิต 13 คน อันเป็นผลมาจากการทำผิดกฎหมายอาญาที่ไร้ความรับผิดชอบของเจ้าของธุรกิจไร้ยางอาย