อนุ กมธ.กีฬา เสนอผู้ว่า กกท. ใช้ พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดโอกาสนักกีฬา บุคลากรทางกีฬา กู้ยืมเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ในคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ได้เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ ครั้งที่ 5 วันพฤหัสบดีที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมาที่ประชุมได้มีการพิจารณาศึกษาขอบเขตการช่วยเหลือและเยียวยานักกีฬาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 ตาม พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 และ มาตรการการดูแลนักกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 โดยเชิญ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และนายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผอ.ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุม
ดร.ก้องศักด ได้ให้ข้อมูลต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากสถานการณ์โควิด - 19 ทำให้บุคลากรในวงการกีฬาได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทยได้มีการประชุมเพื่อหามาตรการการเยียวยาสำหรับนักกีฬาและบุคลากรกีฬา แต่อาจจะมีความล่าช้า เนื่องจากเป็นภารกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นและยังไม่มีกฎหมายรองรับ จึงได้มีการนำเสนอข้อมูลแก่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยให้พิจารณา ซึ่งมีประเด็นที่ต้องตีความข้อกฎหมายจากคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงเกิดความล่าช้า โดยสรุปข้อมูล การช่วยเหลือนักกีฬาและบุคลากรกีฬา ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 คาดว่าจะเริ่มต้นการให้นักกีฬามวยและบุคลากรกีฬามวย เบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2563 ตามจำนวนที่ผ่านเกณฑ์ตรวจสอบสิทธิ์ จำนวน 1,185 คน วงเงิน 20,445,000 บาท และให้นักกีฬาอาชีพและบุคลากรกีฬาอาชีพ เบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ได้ ภายในเดือน ต.ค. 2563 เนื่องจากต้องรอการประกาศระเบียบรองรับในราชกิจจานุเบกษา ตามจำนวนที่ผ่านเกณฑ์ตรวจสอบสิทธิ์ จำนวน 1,390 คน วงเงิน 20,850,000 บาท นอกจากนั้น ยังได้จัดงบประมาณช่วยเหลือสโมสรและชมรมกีฬา ไทยลีก 1 ไทยลีก 2 ไทยลีก 3 วงเงิน 153 ล้านบาท และจะพิจารณาช่วยเหลือสมาคมกีฬาต่าง ๆ ตามการร้องขออีกส่วนหนึ่ง
คณะอนุกรรมาธิการ ได้เสนอแนวทางในการช่วยเหลือนักกีฬา บุคลากรกีฬา และนักกีฬา คนพิการ ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากยิ่งขึ้น โดยเสนอให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ใช้อำนาจที่มีตาม พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 รองรับไว้แล้วอย่างเต็มที่ เช่น การให้กู้ ให้ยืม ตามมาตรา 8 และ มาตรา 9 การสงเคราะห์นักกีฬา ตามมาตรา 42 (6) การให้ทุน ทรัพย์สิน หรือสิทธิประโยชน์อื่น ในการส่งเสริมและสนับสนุนการกีฬา ตามมาตรา 33 เป็นต้น ซึ่งผู้ว่า กกท.ได้รับที่จะนำเสนอประเด็นนี้ต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย และคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องเข้าบอร์ด กกท. เพื่อเสนอให้ บอร์ด กกท.พิจารณาเห็นชอบ และจะได้ดำเนินการออกระเบียบ ข้อบังคับรองรับการปฏิบัติต่อไป โดยคณะอนุกรรมาธิการเชื่อมั่นว่า ความกล้าในการใช้กฎหมายในครั้งนี้ จะเป็นความสง่างามของผู้ว่า กกท. และจะเกิดประโยชน์ต่อวงการกีฬาอย่างแท้จริง
นอกจากนั้น ที่ประชุมได้มีการพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นจากการจัดการแข่งขันกีฬา ตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมด้านการกีฬา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ที่ ศบค. กำหนด เพราะยังไม่มีความชัดเจนในการปฏิบัติ ซึ่งสร้างผลกระทบเป็นอย่างมากต่อวงการกีฬาในปัจจุบัน โดยที่ประชุมได้มีมติให้เรียนเชิญ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้าร่วมประชุม เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการในการจัดการแข่งขันกีฬาทุกชนิด ในการประชุมคราวต่อไป