กมธ.ไฟเขียวมวยภูธรจัดชกได้แล้ว แต่ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจผู้ว่าฯ ในแต่ละจังหวัด
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่รัฐสภา ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และ ดร.สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษา พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ดำเนินการประชุมร่วม 2 คณะ เพื่อพจารณาศึกษาแนวทางในการบรรเทาความเดือดร้อนของนักมวยและบุคลากรในวงการกีฬามวยในการขออนุญาตจัดการแข่งขันชกมวยในพื้นที่ต่างจังหวัด(จัดมวยภูธร) โดยได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม จำนวน 3 หน่วยงาน ประกอบด้วยด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยการประชุมครั้งนี้ ผู้ชี้แจงได้อธิบายถึงแนวทางในการจัดทำคู่มือการจัดการแข่งขันในประเภทต่างๆ โดยเฉพาะกีฬามวยภูธรที่สามารถจัดได้ทันทีแต่ต้องเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของ สมช. แต่ก็มีข้อสังเกตเกี่ยวกับปัญหากาารจัดมวยในการให้อำนาจการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ต้องการให้ลดขั้นตอนเพื่อให้การจัดมวยสามารถจัดได้โดยเฉพาะขั้นตอนด้านระยะเวลาในการจัดมวย
นายประเสริฐ หอธรรมรัตน์ โฆษกคณะอนุกรรมาธิการศึกษา พ.ร.บ. กีฬามวย พ.ศ.2542 กล่าวว่า การจัดการแข่งขันชกมวยถือเป็นจารีตประเพณีมาแต่โบราณ ถือเป็นกีฬาศิลปะการป้องกันตัวประจำชาติไทย ที่ฝรั่งหลงไหลการที่จะอนุญาตให้มีการจัดมวย จึงต้องการให้เกิดความชัดเจนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา เนื่องจากคำสั่งผ่อนปรนเป็นการใช้ดุลย์พินิจ ผู้จัดเห็นว่าไม่มีความชัดเจน และ 2 มาตรฐานเพราะในการให้บริการสถานบันเทิงหรือแม้แต่กิจกรรมของ “ลุงพล” กลับสามารถจัดได้แต่ในทางกลับกันคนกีฬามวยไม่สามารถที่จะดำเนินการได้
นายสามารถ มะลูลีม รองประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษา พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 กล่าวว่า เรื่องการจัดมวยในสนามกรุงเทพฯ ไม่น่าห่วงแต่ห่วงในเรื่องการจัดมวยตามภูธร เพราะถือเป็นอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะตามต่างจังหวัดจะเป็นสนามมวยล้อมผ้า การจัดมวยจะไม่พอค่าใช้จ่ายต้องการให้ทางมหาดไทยช่วยในมวยต่างจังหวัด เพราะห่วงเรื่องนักมวยที่จะท้อเพราะไม่มีค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะมวยเด็กที่จะเติบโตเป็นมวยรุ่นใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต
นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามผลกระทบโควิด-19 กล่าวว่า การออกแนวทางการจัดมวยภูธรก่อนการจัดงาน 14 วัน และให้ มี กกท.- สาธารณสุข ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ให้อนุญาต ส่วนตัวมองว่าเป็นการสร้างขั้นตอนและการให้อำนาจกับทาง กกท.ประจำจังหวัดที่ไม่จำเป็น เพราะอาจเป็นช่องทางในทางทุจริตได้ของเจ้าหน้าที่จึงต้องการให้มีการทบทวนเกี่ยวกันเรื่องนี้
นายณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ที่ปรึกษาประจำอนุ กมธ. ศึกษา พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 กล่าวว่า ปัญหานี้คนมวยภูธรได้เข้าไปขอความเห็นใจต่อ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เพราะกีฬามวยไม่สามารถจัดขึ้นมาได้เลยโดยเฉพาะมวยภูธรเมื่อจัดไม่ได้ก็จะส่งผลกระทบต่อไปถึงมวยในสนามใหญ่ และปัญหาในเรื่องมาตรฐานการให้อนุญาตนั้น สถานบันเทิงถึงมีการอนุญาตแต่สนามมวยกลับไม่ได้รับการอนุญาตจึงมองว่าเป็นเรื่องสองมาตรฐาน
นายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม รองประธานคณะอนุ กมธ.ติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กล่าวว่า เข้าใจว่าขณะนี้กีฬามวยกลายเป็นแพะของสังคม การออกระเบียนในการขออนุญาตจึงสรร้างขั้นตอนมากยิ่งขึ้น ทั้งที่สามารถที่จะผ่อนปรนกันได้หากเปรียบเทียนกับสถานบันเทิง จึงขอเสนอว่าในกรณีมวยภูธรการขออนุญาตจัดการแข่งขัน เมื่ออยู่ในภูธรหรือท้องถิ่นสมควรให้นายอำเภออนุญาตเท่านั้น เพื่ออำนวยความสะดวก
สำหรับบรรยากาศการประชุมนอกจากการสะท้อนปัญหาผลกระทบแล้ว ในการจัดมวยนั้นขณะนี้ชัดเจนว่าสามารถที่จะจัดได้ทันที โดย ดร.เอกการ กล่าวสรุปในที่ประชุมว่า การจัดมวยสามารถที่จะได้ในส่วนของมวยภูธร หากไม่มีการพนันสามารถขอได้กับ กกท.จังหวัด แต่หากมีการพนัน ให้ขออนุญาตกับ นายอำเภอในแต่ละจังหวัด ส่วนมาตรฐานการจัดให้ศึกษาและปฏิบัติตามคู่มือ แต่หากมีการใช้ดุลยพินิจในพื้นที่หากมีการประเมินถึงความเสี่ยงโควิด-19 ก็ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดว่าจะอนุญาตหรือไม่ ซึ่งอาจจะใช้ดุลยพินิจยกเลิกการจัดการแข่งขันได้ทันทีเช่นกัน