ขอปกครองลูกเพียงคนเดียว "ซาร่า" ตอบทุกประเด็น รับ ท้องจริง !! ตอนนี้ "เอมมิลี่" อายุ 2 เดือน !! ที่ไม่บอกเพราะเกรงกระทบคดี ลั่น พ่อของลูกชื่อ "วาดิม" เป็นนายแบบ
ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกสำหรับสาว "ซาร่า คาซิงกินี" หลังจากที่มีข่าวดราม่าศึกแย่งลูกกับหนุ่ม ”ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” พร้อมโดนกล่าวหาจากสังคมว่าใช้ลูกหากินและเป็นตัวประกัน งานนี้เจ้าตัวได้เดินทางมาพร้อมทนายความส่วนตัวพร้อมไขข้อสงสัยเรื่องข่าวลือว่าท้องที่ชาวเน็ตต่างตั้งข้อสังเกต โดยสาวซาร่าได้ยอมรับว่าไดมีลูกกับนายแบบชาวรัสเซียจริง เผยถึงประเด็นข่าวต่างๆ ว่า
"ก่อนอื่นซาร่าอยากกราบขอโทษทุกโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบกับเรื่องของซาร่า ซาร่าเคยขอโทษไปแล้วกับพี่ๆ ออฟฟิศทุกคนและครอบครัวซาร่าค่ะ ซาร่ารู้สึกว่าต่อให้คนต่อว่ายังไงเรารับได้ แต่ตอนนี้มีผลลามไปถึงครอบครัวและลูกซาร่า แต่ไม่ต้องการให้กระทบกับใครค่ะ"
"เรื่ิองที่บอกว่ากีดกันลูกนั้นคือ ณ วันแรกที่โทร.หาไมค์วันที่ซาร่าคลอดลูก เพราะซาร่าอยากให้เขามีพ่อ มันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกีดกันค่ะ (ร้องไห้) ซาร่าอยากให้ลูกมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เราจะกีดกันเขากับลูก"
"ตามข่าวของทางฝั่งพ่อของน้องที่พูดถึงเหตุการณ์ที่สนามบิน เขาจึงไปยื่นคำร้องต่อศาล วันนั้นคือเป็นวันที่น้องไปภูเก็ต เราก็แจ้งไปว่าจะไปกลับภูเก็ตนะ เราก็บอกว่ามาเจอวันเกิดได้นะ แต่เขาขอมาเจอที่คอนโดฯ ได้ไหม เราก็มีเถียงกัน จนเวลาห้าโมงเขาโทร.มาบอกรอนานแล้ว เราก็บอกว่ามาถึงตั้งแต่บ่ายสามทำไมไม่โทร.มา ซึ่งเป็นคอนโดฯ ของเขาเขาจะขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ เราก็ขวนเขาขึ้นมาบนคอนโดฯ แต่เขาไม่ขึ้น เราก็เอาน้องลงไปส่ง เขาก็มีคุยกัน ลูกก็ขึ้นมาเราก็งงนึกว่าเขาจะพาไปเป่าเค้ก เขาก็พูดว่าเราส่งคนไปกดดันเขา เขาเลยไม่ไปต่อ เขาคือพ่อของลูกเขาพาไปได้อยู่แล้ว เราไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคิดว่าเรากดดัน"
"เหตุการณ์ที่ลูกเปลี่ยนไปเพราะ วันนั้นเขามารับลูกและยืนคุยกับลูก และมาส่งลูกที่รถซาร่า ลูกก็ถามว่าทำไมพ่อไม่เอาลูกไปด้วย เราก็โทร.ถามเขาบอกว่าติดธุระ เรามีปากเสียงกัน คือมันมีคำพูดหลายอย่างจนเราไม่ไหวและร้องไห้ เราก็วางสายและกลับมาที่รถ เราพยายามไม่ให้ลูกรู้เรื่องระหว่างพ่อกับแม่ ลูกก็เห็นเราร้องไห้ เขาบอกเขาจะปกป้องแม่เอง พ่อทำร้ายแม่เหรอ เราก็บอกว่าเปล่า หลังจากวันนั้นเขาสัมผัสได้ถึงการที่เราโดนกดดัน มันเลยทำให้เขาเปลี่ยนไปอย่างที่ที่เขาเคยงอนซาร่า วันนั้นเขาอาจจะอยากปกป้องแม่ค่ะ"
"ก่อนหน้านั้นมีปัญหาหลายอย่างเพราะเขารู้ว่าเขาต้องโดนย้ายโรงเรียนค่ะ เขามีการตั้งคำถามว่าทำไมต้องย้ายโรงเรียน ย้ายคอนโดฯ ทำไมพ่อไม่โทร.หาเรา เราก็บอกว่าให้เขาบอกลูกได้ไหม เพราะเราไม่รู้ว่าใจลึกๆเขาคิดยังไง เราก็คุยกับเขาแต่ด้วยโควิดด้วย เราก็บอกว่าไม่สะดวกนะ แต่เราคุยกับโรงเรียนตลอด เขาก็บอกว่าดูในเว็บไซต์ก็ได้ เราขอให้ลูกไปดูสถานที่จริงได้ไหม เขามีความสุขกับการไปโรงเรียน คนเป็นแม่อะไรที่ลูกมีความสุขเราก็พร้อมเสียสละ"
"เราคุยกันแต่ไม่ลงตัว เราคิดว่าสิ่งที่เราคิดมันดีสำหรับลูกแร่ความคิดเราไม่ตรงกัน เรื่องที่เรามีคนอื่นทำให้ความคิดเห็นไม่ตรงกันนั้น มันเป็นปกติของคนทุกครอบครัวที่ไม่ตรงกันค่ะ ไมค์ก็รับทราบว่าเรามีครอบครัวใหม่ค่ะ ส่วนใหญ่เราคุยแต่เรื่องลูกของเราค่ะ เรื่องที่เขามีปัญหาเรื่องเงิน นี่คือไม่ใช่ครั้งแรก ที่คนคิดว่าลดค่าใช้จ่ายเลยไม่ให้เจอลูกมันไม่ใช่ค่ะ"
"ข้อเรียกร้อง 6 ข้อนั้นถามว่าสูงไปไหมนั้น ณ วันนั้นที่ซาร่าได้รับหมายศาลแล้วรู้สึกตกใจว่าทำไมเขาถึงต้องทำขนาดนี้ ด้วยระยะเวลาที่สั้นมากแล้วหมายศาลมาหาเราเดือนกรกฎาคม คือทำไมไม่คุยกัน ทำไมต้องเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ที่เรากลับภูเก็ตเพราะโควิด สนามบินปิด จน 25 พฤษภาคม เขาถึงติดต่อว่าอยากเจอลูก เราโดนกดดันเรื่องย้ายที่อยู่ค่ะ คือซาร่ากำลังขนของมากองไว้หน้าห้องอย่างที่เขาเคยทำ เราก็ไม่กล้าบอกอยู่ภูเก็ต สนามบินก็ปิด เราอาจสื่อสารกันไม่ดี เลยไม่ตอบเขา เพราะเรากลัวว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดมาอีกไหม เพราะเราเคยโดนไล่เหมือนหมูเหมือนหมา"
"ที่เราท้องเลยไม่อยากเจอเขานั้น คือวันที่ 14 กรกฎาคม วันเกิดลูกเรารอเขาโทร.มาอวยพรลูก เราก็ยังโทร.ไปติดต่อเขาให้โทร.หาลูกค่ะ จะบอกว่าเพราะเราท้องนั้นไม่ใช่ค่ะ เรายังเจอเขาที่โรงเรียนอยู่เลย เรื่องคนขับรถกับพี่เลี้ยงเราก็ตัดค่าใช้จ่ายเพราะโควิดค่ะ เรื่องค่าเลี้ยงดูสามหมื่นไมค์ยังจ่ายเหมือนเดิม ส่วนค่าอื่นๆ ซาร่าจ่ายเองค่ะเพราะต้องการลดค่าใช้จ่าย"
ทนาย : 6 ข้อเป็นความหวังให้ลูกมีสิ่งเหล่านี้ ซาร่าเขาไม่มีปัญหา ตายายพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว แล้วไมค์รายได้ขาดหายเอาว่าไมค์สะดวกเมื่อไหร่ค่อยมาช่วยค่าใช้จ่าย วันนี้เราได้ส่งเจ้าหน้าที่ให้ยกเลิก 6 ข้อเรียกร้องทั้งหมด ส่วนที่ข้อเรียกร้องอาจเป็นการสื่อสารที่ไม่ดีเลยเป็นประเด็นทางสังคมนั้น เราก็เลยดูว่ามันเป็นไปได้ไหมและยกเลิกเป็นอันใหม่ค่ะ แก้ไขทั้งฉบับค่ะ
ซาร่า : ตลอดระยะเวลาเรากลัวคำพูดจากพ่อของน้องคือเขาบอกว่าถ้าไม่มีปัญหาดูลูกให้เอาลูกไปอยู่กับเขา เราไม่อยากเสียลูกไป เราบอกทนายว่าเราไม่อยากเสียลูก เราเปิดโอกาสให้เขากับลูกมาตลอด แต่เราอยากได้การปกครองลูกด้วยเราค่ะ หนูมีคลิปเสียงว่าเขาต้องการลูก
"ลูกอยู่กับซาร่ามาตลอด 6 ปี เขาไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเพราะเขาทำงานต่างประเทศ และเขาก็ซัพพอร์ตลูก ตอนนี้สังคมมองว่าซาร่ารีดไถ เราไม่เคยร้องขอ ไมค์กับซาร่าอยากให้ลูกได้คุณภาพขีวิตที่ดีที่สุด คุณภาพชีวิตไม่ใช่ต้องตีค่าด้วยราคา เราหมายถึงสภาพแวดล้อมค่ะ ตอนนี้เรื่องมาถึงกระบวนการศาลแล้ว คงต้องให้ทางศาลพิจารณาค่ะ"
"ถามว่าเราอยากให้เขามีอำนาจปกครองลูกคนละครึ่งนั้นคือเรากลัวค่ะ คือเราไม่ได้เป็นสามีภรรยา ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน มันจะทำให้เราทะเลาะกันเปล่าๆ ลูกอยู่กับเรามาตั้งแต่ต้น เขารู้ไหมว่าลูกชอบอะไร เราเข้าใจว่าเขารักลูก แต่ความเข้าใจเขามีหรือเปล่า เราต้องการตัดสินใจได้ 100% ที่เขาไปยื่นร้องต่อศาลเพราะอยากเจอลูกนั้น ยังไงเขาก็ได้เจอลูกอยู่แล้วค่ะ"
"เรื่องใช้ลูกเป็นตัวประกัน คือที่ไมค์ให้ลูกด้วยความเมตตา จำนวนเงินเกือบสิบล้านไม่ได้เข้าบัญชีซาร่า เขาจ่ายค่าโรงเรียนค่าประกันโดยตรง เขาจ่ายจริงๆ 30,000 บาท เราตีค่าลูกแค่นี้เหรอ เราเห็นข้อความนี้ก็เจ็บ กลับกลายเป็นวันนี้ซาร่าเป็นแม่ที่เลว เรื่องเขาจะเซ็นรับรองบุตรเราไม่ติดตรงนี้เลย เรื่องไกล่เกลี่ยเรายังไม่ได้คุยกัน ถ้าวันนี้เขาเห็นด้วยเพราะเป็นเรื่องของครอบครัว เราสามารถคุยกันได้เลยค่ะ ถ้าวันนี้เราแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหวเราขอกลับไปอยู่ภูเก็ตได้ไหม เขาบอกได้สิ ที่ผ่านมาเราตัดสินใจร่วมกันมาตลอด"
"ส่วนเรื่องครอบครัวใหม่นั้นเราไม่ได้ปกปิดเลยค่ะ เราคลอดลูกปกครอง ท้องป่องปกติ แต่พอเราได้หมายศาลเรากลัวโดนแยกลูกออกจากเรา เรื่องเรากับสามีใหม่นั้นยังคบกันปกติเป็นครอบครัวกันปกติค่ะ คุณพ่อน้องก็เซ็นสัญญาทำงานเป็นนายแบบที่จีนแต่ติดโควิดเลยมาไม่ได้ค่ะ วันนี้ก็รู้สึกได้ออกมาปกป้องครอบครัวเราและเผยถึงข้อเท็จจริงค่ะ"
"เรื่องข้อเรียกร้องนั้นแล้วแต่ความเมตตาจากไมค์ที่จะมีต่อลูก มันเป็นเรื่องของพ่อกับลูกเค้าค่ะ เราขอโอกาสทำหน้าที่แม่และเข้าใจบ้าง ถ้าเขาหยุดจ่ายเงินมันก็ขึ้นๆ ลงๆ มาตลอด เขาก็ได้เจอลูกมาตลอดค่ะ ความสัมพันธ์เรากับไมค์ตลอด 6 ปีเราได้พยายามที่จะกลับมาเป็นครอบครัว แต่มันไปไม่รอด ทุกครั้งที่เรามีคนใหม่เขาจะบอกไม่มีได้ไหม เราเป็นครอบครัวได้ไหม เราก็ยอมตัดความสัมพันธ์กับคนที่เราคบกันอยู่ แต่ทุกครั้งที่กลับมามันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน เรายอมอยู่เฉยๆ จนเราไปมีครอบครัวใหม่คือเรารู้สึกว่ามันพอแล้ว เรื่องที่คนสงสัยการใช้ชีวิตของเรานั้น ภาพที่หลุดมันเป็นภาพของแฟนซาร่า ลูกเราหลับแล้วเราก็ออกไปปาร์ตี้ มันก็เป็นเรื่องปกติของแต่ละครอบครัว ที่เรามีแฟนใหม่เขาเลยไม่อยากจ่ายนั้น คือเขาจะตัด 30,000 ก็ได้ค่ะ"
"และเรื่องที่เขาบอกว่าพ่อจะเตะเราออกจากคอนโดฯ เขารับรู้มาจากเพื่อน ถามว่าเราเป็นคนบอกลูกคำนี้ไหมนี่มันชีวิตจริง เราไม่จำเป็นที่ต้องบอกลูก ชีวิตพังแล้วเราได้อะไร เราต้องเจ็บปวดกับเรื่องพวกนี้ ถ้าเราจะโกรธเขาต้องโกรธตั้งแต่ท้องแม็กซ์เวลล์แล้ว เราไม่มีเหตุผลที่ต้องทำให้ลูกเกลียดพ่อ วันก่อนเราให้ลูกโทร.หาเขาแต่เขาไม่รับ เขาก็พิมพ์ไปหาเขา ยังไงลูกก็รักพ่อค่ะ"
"ส่วนข่าวแต่งงานเราแพลนไว่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแต่ติดโควิด เขาน่าจะกลับมาได้ปีหน้าค่ะ ต้องรอปีหน้าค่ะ ลูกสาวก็เสี้ยงง่ายค่ะ พ่อของเขาจะอยู่ไม่เป็นที่เพราะต้องทำงานต่างประเทศตามสัญญาค่ะ แต่เราขออยู่ไทยค่ะ ถามว่าเราเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกไหม เราก็มีความสุขกับการเลี้ยงลูก แต่พอมามีเรื่องคดีความก็เหนื่อยค่ะ ในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เคยเข้าใจเราผิด ก็ขอโทษทุกท่านและขอโอกาสทำหน้าที่แม่อย่างเต็มที่ค่ะ"
